ดีเอสไอ ประชุมเตรียมประเด็น สอบคำให้การ 'มาร์ค-สุเทพ' โดยเฉพาะเหตุผลในการออกประกาศ ศอฉ. ตั้งแต่ประกาศภาวะฉุกเฉิน จนถึงสั่งสลายการชุมนุม 'ธาริต' ยัน สอบสวนครบทุกประเด็น
พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิต 91 ศพ เปิดเผยว่า เขาได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อเตรียมประเด็นการสอบสวนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ในฐานะอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งจะเดินทางเข้าให้ปากคำกับดีเอสไอในวันที่ 27 ส.ค. นี้
ทั้งนี้ ประเด็นที่ต้องสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วน คือ เหตุผลในการตัดสินใจออกประกาศ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในแต่ละขั้นตอน และเหตุการณ์ในการชุมนุมทางการเมืองทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ประกาศภาวะฉุกเฉินตามลำดับขั้น ไปจนถึงการสั่งการให้สลายการชุมนุม
พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า คาดว่า การสอบปากคำจะใช้เวลานานหลายชั่วโมง เพราะคดีมีรายละเอียดจำนวนมาก โดยในชั้นนี้ พยานสามารถให้การเชื่อมโยง ถึงข้อมูลเกี่ยวกับชายชุดดำ ที่อาจเป็นเหตุผลในการออกประกาศ ศอฉ. ในแต่ละช่วงได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนพร้อมที่จะรับฟังคำให้การและพยานเอกสารทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ในการสอบปากคำนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ จะมีอัยการและตำรวจร่วมเป็นพนักงานสอบสวนกับดีเอสไอ หลังจากนั้นในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ดีเอสไอได้ออกหมายเรียกทหารที่ทำหน้าที่เป็นพลซุ่มยิงเข้าให้การ
พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า ดีเอสไอเตรียมทำหนังสือสอบถามไปยังกองทัพบกว่า มีหนังสือขออนุมัติแนวทางปฏิบัติในการใช้อาวุธ หรือขอรับการสนับสนุนพลซุ่มยิง (สไนเปอร์) ตามที่ถูกนำออกมาเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนจริงหรือไม่ หากเป็นความจริง จะขอให้กองทัพบกส่งเอกสารคำสั่ง ให้ดีเอสไอนำมาประกอบ ในสำนวนการสอบสวนคดีการเสียชีวิต 91 ศพ
สำหรับหนังสือขออนุมติการใช้อาวุธที่ถูกนำมาออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ระบุว่า กรณีพบความผิดซึ่งหน้าในลักษณะผู้ก่อเหตุใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ หรือใช้อาวุธ/วัตถุระเบิดต่อที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ ที่ศอฉ.กำหนด ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้อาวุธยิงผู้ก่อเหตุเพื่อหยุดยั้งการปฏิบัติได้
แต่หากผู้ก่อเหตุอยู่ปะปนกับผู้ชุมนุม จนอาจทำให้การใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่เป็นอันตรายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้งดเว้นการปฏิบัติ ยกเว้นในกรณีที่หน่วยได้จัดเตรียมพลแม่นปืน (Marksmanship) ที่มีขีดความสามารถเพียงพอให้ทำการยิงเพื่อหยุดยั้งการก่อเหตุได้
นอกจากนี้ หากหน่วยพบเป้าหมายแต่ไม่สามารถทำการยิงได้ เช่น เป้าหมายอยู่ในที่กำบัง ฯลฯ หน่วยสามารถร้อง ขอการสนับสนุนพลซุ่มยิง (Sniper) จาก ศอฉ. ได้
'ธาริต' ยัน สอบสวนครบทุกประเด็น
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เขาจะไม่เข้าร่วมการสอบปากคำนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เพราะเป็นขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นการสอบปากคำในรูปแบบคณะพนักงานสอบสวน ในส่วนของดีเอสไอมี พ.ต.อ.ประเวศน์ เป็นผู้รับผิดชอบ ในส่วนตำรวจ มี พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. และมีพนักงานอัยการจากสำนักคดีพิเศษร่วมเป็นพนักงานสอบสวน
ส่วนประเด็นที่มีข้อกังวลว่า การสอบสวนของดีเอสไอ จะหลงลืมปฏิบัติการของชายชุดดำ จนเป็นเหตุให้ต้องมีการสลายการชุมนุมนั้น ยืนยันว่า การสอบสวนของดีเอสไอจะไม่มีประเด็นใดตกหล่น ซึ่งขณะนี้ พ.ต.อ.ประเวศน์ ได้เร่งการสอบสวน โดยมีการเรียกสอบปากคำพยานและประชุมพนักงานสอบสวนแทบทุกวัน เพื่อทำให้คดีมีความชัดเจนในทุกมิติ