ศาลฎีกาฟัน “สัก” หลุดเก้าอี้ สว. DSI สั่งฟ้อง “ศรีสุข” ตุ๋นแชร์หวย

แนวหน้า 2 สิงหาคม 2555 >>>




เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 สิงหาคม ที่ ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ศาลได้อ่านคำสั่งคดีดำ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิการสรรหาวุฒิสภา (ส.ว.) และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี นายสัก กอแสงเรือง ส.ว.สรรหา ผู้คัดค้าน
กรณีที่ กกต. ขอให้เพิกถอนสิทธิการสรรหาของนายสัก เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 115 (9) ขาดคุณสมบัติในการถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา ส.ว. เพราะ นายสัก เคยได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ว.ครั้งแรก โดยเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 22 มีนาคม 2543 มีวาระ 6 ปี คือถึงวันที่ 21 มีนาคม 2549 แต่สภาทนายความ เสนอชื่อ นายสัก เข้ารับการสรรหา ส.ว.เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2554 ดังนั้นนายสัก จึงขาดคุณสมบัติ เนื่องจากพ้นจาก ส.ว. ที่ได้รับการเลือกตั้งยังไม่ถึง 5 ปี ในวันที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อเข้ารับการสรรหา
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง วินิจฉัยแล้วเห็นว่า ผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาล และการที่ผู้คัดค้าน เคยดำรงตำแหน่ง ส.ว. จากการเลือกตั้งปี 2543 ถือว่าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 115 (9) จึงเป็นผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามมิให้ได้รับการเสนอชื่อเพื่อเข้ารับการสรรหา เป็น ส.ว. ถือว่าการสรรหา ส.ว. ที่เกี่ยวกับผู้คัดค้านเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 240 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา 134 (1)
ทั้งนี้ ตามพฤติการณ์ยังไม่มีเหตุถึงขนาดอันควรเชื่อได้ว่าผู้คัดค้านรู้ดีอยู่แล้วว่าตนมีลักษณะต้องห้าม หรือมีเจตนา หรือจงใจที่จะกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยประสงค์ให้ผลการสรรหา ส.ว. เป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม จึงยังไม่มีเหตุที่จะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้คัดค้าน จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการสรรหา ส.ว. ในส่วนของผู้คัดค้าน และให้ดำเนินการสรรหา ส.ว.ใ นส่วนของผู้คัดค้านใหม่ คำขออื่นให้ยก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัก ไม่ได้มาฟังคำสั่งศาล มีเพียงทนายความ ที่เดินทางมา ทั้งนี้ นายสัก ถูกนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้ได้รับการเสนอชื่อสรรหา ส.ว. ร้องคัดค้านว่านายสัก มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 115 (9) และ กกต. ได้เพิกถอนสิทธิการสรรหาด้วยมติเอกฉันท์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติในการถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา ส.ว.
วันเดียวกัน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้ากรณีที่ตัวแทนครูจากหลายจังหวัด เข้าร้องทุกข์ว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูหลายแห่ง ถูกชักชวนให้ลงทุนธุรกิจแชร์ลอตเตอรี่ กับบริษัท เทวาสิทธิพิฆเนศ จำกัด บริษัท ศรีโสภา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัท จัมโบ้ซัพพลาย แอนด์เซอร์วิส จำกัด รวม 18 สัญญา มูลค่าความเสียหายประมาณ 25,561 ล้านบาท ว่า ดีเอสไอ ได้สั่งฟ้อง นายศรีสุข รุ่งวิสัย อดีต ส.ว.สรรหา กับพวก รวม 14 ราย ในความผิดฐานเป็นตัวการ ในข้อหายืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
สำหรับพฤติการณ์กระทำความผิด กล่าวคือ บริษัท เทวาสิทธิพิฆเนศฯ และ บริษัท ศรีโสภา มาร์เก็ตติ้งฯ โดยนายศรีสุข รุ่งวิสัย กับพวก ได้ร่วมกันหลอกลวงสหกรณ์ฯ ให้เข้ามาเป็นคู่สัญญาซื้อขายสลากฯ โดยหลอกลวงว่าบริษัททั้งสอง เป็นคู่ค้ากับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถจัดหาสลากฯ ราคาถูก มาจำหน่ายให้กับสหกรณ์ต่างๆ เพื่อนำไปจำหน่ายทำกำไรได้อีกทอดหนึ่ง แต่จริงแล้วบริษัททั้งสอง ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับสำนักงานสลากฯ ตามที่กล่าวอ้าง เมื่อสหกรณ์ฯ โดยประธานและผู้จัดการสหกรณ์ฯ หลงเชื่อ ทำสัญญาซื้อขายสลากฯ และจ่ายเงินล่วงหน้าแล้ว ภายหลังกลับไม่ได้รับสลากฯ และไม่ได้มีการคืนเงิน ทำให้สหกรณ์ฯ ต่างๆ ได้รับความเสียหาย
นายธาริต กล่าวอีกว่า เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพนักงานสอบสวนจึงมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 87 ราย คือ นายศรีสุข กับพวก รวมทั้งอดีตผู้บริหารสหกรณ์ฯ ต่างๆ แต่หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานต่างๆ ยังไม่ปรากฎชัดเจนว่าผู้บริหารสหรกรณ์ฯ ต่างๆ นิติบุคคลและบุคคลอีกบางราย มีเจตนาทุจริตมาตั้งแต่ต้น และยังปรากฎข้อเท็จจริงด้วยว่า นิติบุคคลและบุคคลบางรายเหล่านี้ยังเป็นผู้เสียหายด้วย จึงเห็นควรสั่งฟ้องเพียง นายศรีสุข กับพวก
นายธาริต กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีพร้อมผู้ต้องหาทั้งหมดให้พนักงานอัยการ พิจารณาสั่งฟ้อง ส่วนการติดตามเงินคืนกับผู้เสียหาย เป็นหน้าที่ของอัยการ ที่จะยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อสั่งให้จำเลย ชดใช้เงินคืนผู้เสียหายต่อไป