อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีที่ศาลเลื่อนการพิจารณาคำร้องขอถอนประกันตัวแกนนำเสื้อแดงไปเป็นวันที่ 22 ส.ค. 55 นี้ดังนี้
ไม่อยากพูดอะไรมากถึงการพิจารณาของศาลเพราะเป็นเรื่องที่ศาลต้องพิจารณาอยู่แล้ว ในทัศนะของดิฉันเห็นว่าศาลพยายามแล้วที่จะทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับแกนนำคนเสื้อแดงการที่แกนนำและแนวร่วมเสื้อแดงโดนข้อหาก่อการร้ายก็มองว่าเป็นการถูกใส่ความ ต้องติดคุกฟรี พอได้รับการประกันตัวก็กลายเป็นชนักติดหลังจนไม่สามารถทำอะไรได้มาก ไม่เช่นนั้นก็จะถูกถอนประกันก่อนหน้าที่จะได้รับการประกันตัวออกมาสังคมกลับมองว่าเป็นบุญคุณ เป็นความเมตตาของคนที่มีอำนาจทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่เลย ตั้งแต่เริ่มแรกพวกเขาถูกใส่ความว่าเป็นผู้ก่อการร้ายต่างหาก นี่คือความรู้สึกที่อยากบอกให้คนในสังคมได้รับรู้แต่เมื่อเรื่องราวเดินมาถึงตรงนี้แล้วว่าหากระหว่างการประกันตัวมีการกระทำที่ผิดเงื่อนไข ก็อยากให้ฟ้องเป็นเรื่องๆ ไปมากกว่า เช่น หากปราศรัยล่วงเกินก็ฟ้องให้ดำเนินคดีกันไปในส่วนนั้น ไม่ใช่มาถอนประกันจนทำให้ต้องระวังมากกว่าคนอื่นการที่ศาลเลื่อนการพิจารณาถอนประกันออกไป เพราะเหตุผลของ เจ๋ง ดอกจิก (นายยศวริศ ชูกล่อม) แกนนำคนเสื้อแดงที่ตกเป็นจำเลยที่ 7 ขอโอกาสจากศาลให้ได้หาพยานเพิ่มเติม และขอตรวจสอบหลักฐานของทางผู้ร้องก่อนว่ามีการตัดต่อหรือไม่ เป็นคำขอที่มีเหตุผลฟังขึ้นและ ศาลเองก็รับฟังเหตุผลว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไรก็ตาม การเลื่อนการพิจารณาออกไปนั้นไม่อยากให้ศาล หรือคนบางฝ่ายมองว่า เป็นเรื่องของการยื้อเวลาเพื่อลดอุณหภูมิทางการเมืองลง หรือยับยั้งเหตุวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นหากผลออกมาในทางลบเพราะความจริงแล้วไม่ว่าจะตัดสินเร็วหรือช้า คนเสื้อแดงจะดำเนินการอย่างไรต่อไปคงไม่เกี่ยวกับระยะเวลาในการตัดสิน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุผล และความรู้สึกของคนเสื้อแดงที่มีอยู่ในใจมาตลอดอยู่แล้วเราไม่ได้ชุมนุมหรือแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่งจากเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่ที่เราต่อสู้มาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพราะว่าคนเสื้อแดงถูกกระทำโดยที่ไม่ได้รับความยุติธรรมดังนั้น อย่ากลัวว่าการจะถอนประกันหรือไม่ถอนประกันแกนนำจะส่งผลอะไรที่รุนแรงต่อบ้านเมือง เพราะเราไม่เคยคิดจะทำอะไรให้เกิดความรุนแรงเสียหายแน่นอน ยืนยันได้ว่าไม่เคยมีอยู่ในสมองความเจ็บช้ำอาจยังคงอยู่ แต่ศาลตัดสินอย่างไรเราก็น้อมรับอยู่แล้ว ขออย่าได้กังวล เพราะตอนนี้เราเองก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษเลยก็รอศาลพิจารณา เป็นอย่างไรเราก็ยอมรับ