'ชวนนท์' มั่ว-ภาพชายชุดดำ
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณี นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ถามหาคลิปวิดีโอชายชุดดำ เพื่อพิสูจน์ว่ามีชาย ชุดดำในการชุมนุมจริงหรือไม่ว่า นพ.เหวง น่าจะรับทราบว่ามีชายชุดดำอยู่ เพราะ นพ.เหวง เป็นผู้ต้องหาลำดับที่ 5 ในคดีก่อการร้ายที่มีชายชุดดำรวมอยู่ด้วย และมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นผู้ต้องหาลำดับที่ 1 ดังนั้นจะบอกไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวนนท์เปิดคลิปวิดีโอการปราศรัยบนเวทีของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ที่ปราศรัยว่า 'มีกลุ่มกองกำลัง พร้อมที่จะเป็นปฏิปักษ์กับกองทัพ' และเปิดภาพถ่ายที่มีชายชุดดำยืนอยู่ด้านหลัง นพ.เหวง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และแกนนำ นปช. รวมอยู่ด้วย และรายชื่อผู้ต้องหาจากดีเอสไอ โดยนาย ชวนนท์ระบุว่าที่ชื่อชายชุดดำรวมอยู่ด้วยและถูกจับกุมดำเนินคดีอยู่ หากนพ.เหวงจำอดีตไม่ได้จะส่งรูปไปให้เพื่อเตือนความจำว่าชายชุดดำที่ก่อให้เกิดความรุนแรงทำร้ายเจ้าหน้าที่ บางคนอยู่ภายใต้คำสั่งของนายณัฐวุฒิ นพ.เหวง ดังนั้น วันนี้ไม่ต้องพยายามตีหน้าซื่อ ขอข้อมูล ทั้งที่เรื่องเหล่านี้ท่านเป็นคนก่อขึ้นมาทั้งสิ้น
คนในรูปมีอาชีพเก็บของเก่า
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภาพชายชุดดำที่นายชวนนท์นำมาแสดงนั้น ทราบว่าชื่อนายมานพ ชาญช่างทอง มีอาชีพเก็บของเก่าขายที่ จ.ปทุมธานี และมาเข้าร่วมกับการชุมนุมของกลุ่ม นปช. มีหน้าที่เป็นการ์ดอาสา และร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีภาพปรากฏว่าถืออาวุธปืนเอ็ม 16 และ ทาโวร์หลายกระบอก ต่อมาในวันที่ 14 เม.ย. 2553 นายณัฐวุฒิ แกนนำนปช. นำตัวนายมานพมาแถลงต่อสื่อมวลชนที่เวทีราชประสงค์ ปรากฏเป็นภาพและข่าวไปทั่วในวันดังกล่าว
โดยนายมานพกล่าวในวันนั้นว่า วันที่ 10 เม.ย. เวลา 20.00 น. เข้าร่วมชุมนุมที่สี่แยกคอกวัวและปะทะกับเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งกลุ่มผู้ชุมนุมโอบล้อมเจ้าหน้าที่กว่า 30 นายไว้ จึงเป็นตัวแทนเจรจาขอให้เจ้าหน้าที่ปลดอาวุธเพื่อไม่ให้เป็นการยั่วยุกลุ่มผู้ชุมนุม หัวหน้า 2 นายเจ้าหน้าที่ชุดนั้นก็ยอมโดยดี จึงนำอาวุธปืนทั้งหมด โดยสะพายปืนเอ็ม 16 ข้างละ 2 กระบอก ถืออีก 1 กระบอก นำกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อนำปืนไปไว้บนเวทีชุมนุม
'ผมเป็นคนเดินนำ ช่างภาพถึงถ่ายรูปผมได้ จริงๆ แล้วผมถือปืนเยอะขนาดนั้น ถ้าจะยิงจะยิงยังไง แรมโบ้คงยิงไม่ได้เหมือนกัน ผมมีอาชีพเก็บของเก่า ไม่เคยเป็นทหารพรานค่ายปักธงชัยตามที่ถูกใส่ร้าย ไปตรวจสอบประวัติผมได้ แล้วที่สำคัญผมมีทหารอีก 30 คนที่ยอมปลดอาวุธเป็นพยานให้ ส่วนเรื่องยิงปืนก็พอยิงเป็นเพราะเวลามีงานกาชาดเคยพาลูกไปยิง ส่วนที่ต้องคลุมไอ้โม่งก็เพราะกันแก๊สน้ำตาที่ทหารยิงมา' นายมานพ ระบุ
