"โอ๊ค" โพสต์เฟสบุ๊ก แจง "ทักษิณ" ยกเลิกไป "LA." หลังเจอม็อบต้าน ชี้แบ่งสีแบ่งฝ่ายลามถึงต่างประเทศชี้ปรองดองไม่ได้หากเหลือง-แดงยังขัดแย้ง
วันที่ 14 สิงหาคม นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กในชื่อ Oak Panthongtae Shinawatra ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประกาศยกเลิกการเดินทางไปยัง นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แต่มีคนไทยจำนวนหนึ่งได้รวมตัวกันต่อต้าน เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า
ยังจำข่าวที่ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช ถูกพันธมิตรจัดคนมายืนถือป้ายประท้วง ขณะที่บินไปอเมริกา ซึ่งในขณะนั้น ท่านสมัครฯได้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองใดๆทั้งสิ้น ได้มั๊ยครับ
ครั้งนั้น พี่น้องคนไทยหลายท่านรู้สึกว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และผิดปกติวิสัยของคนไทยที่มีมาแต่โบราณคือ การถ้อยทีถ้อยอาศัย และการเป็นห่วงเป็นไย เพื่อนร่วมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่น้องคนไทยด้วยกัน ที่จากบ้านห่างเมืองมายังต่างประเทศ คนไทยเรานั้นจะดูแลกันดีเป็นพิเศษ ถือเป็นเอกลักษณ์ไทยที่แตกต่างจากชาติอื่นใดในโลก
ครั้งนี้การเดินทางไปสหรัฐเอมริกาของคุณพ่อผม ก็เกิดเหตุการณ์แบบเดิมอีก โดยเมื่อวานนี้ คุณพ่อผมมีโปรแกรมไปร่วมถวายพระพร พร้อมกับพสกนิกรชาวไทยใน LA. เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จฯพระราชินีฯ 80 พรรษา ที่ ไทยแลนด์พล่าซ่า แต่ก่อนไป ได้ทราบข่าวว่าจะมีการจัดม็อบมาประท้วงคุณพ่อ คุณพ่อบอกว่าวันมหามงคลเช่นนี้ ไม่ควรให้มีภาพเหตุการณ์ที่ไม่เป็นมงคลเกิดขึ้น จึงได้แจ้งยกเลิกการเดินทางไปร่วมงาน
ปัญหาการเมืองแบ่งสีแบ่งฝ่าย ลามไปถึงคนไทยในต่างประเทศ แม้กระทั่งวันมหามงคลซึ่งพี่น้องคนไทยควรหยุดการทะเลาะกัน เพื่อให้พระองค์ท่านทรงสบายพระทัย ก็ยังไม่ละเว้น อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยจะเดินทางไปถวายพระพรด้วยความจงรักภักดีก็กระทำไม่ได้ ปัญหาปัจจุบันลามไปถึงระดับภายในครอบครัวแล้ว ได้ยินว่า เจ้าของร้านอาหารไทยที่ LA. ก็ประสบปัญหาสามีเสื้อแดง ภรรยาเสื้อเหลือง เช่นเดียวกับที่อีกหลายครอบครัวในเมืองไทยเป็นอยู่
ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ถ้าไม่มีการปรองดองอย่างแท้จริง ประเทศไทยของเราคงจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ปัจจุบันแค่เริ่มต้นการปรองดองก็เหนื่อยแล้วครับ ถ้ายังปล่อยให้คน 2 ฝ่ายที่มีผู้สนับสนุนจำนวนมากทั้งคู่ ยังเห็นแย้งกันอยู่ โดย
ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าเป็นการ "ขอคืนความเป็นธรรม" อีกฝ่ายเห็นว่าเป็นการ "ล้างผิดคนโกง" ยังไงก็คงจะปรองดองกันไม่ได้
"ถ้ามีใครที่เป็นกลางจริงๆ ล้างไพ่แล้วแจกให้เล่นกันใหม่ ไม่ต้องเข้าข้างกัน ไม่เอาบรรดาคนที่เกลียดกัน มาเป็นกรรมการสอบสวน ทำกระบวนการทุกอย่างให้มีความยุติธรรมอย่างแท้จริงแล้ว ผมว่าเรื่องจบครับ"