วุฒิสภามีกำหนดที่จะเลือกตั้งประธานคนใหม่แทน พล.อ.ธีรเดช มีเพียรที่พ้นจากตำแหน่งในวันนี้ โดย เป็นการแข่งขันชิงเก้าอี้ระหว่างวุฒิสมาชิกจากการแต่งตั้งที่มีนายพิเชต สุนทรพิพิธ เป็นตัวแทน กับวุฒิสมาชิกจากการเลือกตั้งที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช เป็นตัวแทน
หลังจากที่ผ่านมา วุฒิสมาชิกจากการแต่งตั้งสามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนเป็นปึกแผ่นและครองตำแหน่งประธานวุฒิสภามาโดยตลอด ซึ่งในด้านหนึ่งย่อมเป็นการสะท้อนภาพการ ′กระชับอำนาจ′ ของฝ่ายที่แต่งตั้งวุฒิสมาชิกเข้ามาผ่านรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 อันเป็นเหตุให้คนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจนี้
มีข้อเสนอที่น่าสนใจจากนายดิเรก ถึงฝั่ง วุฒิสภาจากการเลือกตั้งจังหวัดนนทบุรีที่เห็นว่าควรจะยกเลิกวุฒิสมาชิกจาก การสรรหา เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย
แต่ เพื่อมิให้เกิดแรงต่อต้านจึงควรรอให้วุฒิสมาชิกจากการสรรหาชุดนี้อยู่ต่อไป จนครบอายุ และออกบทเฉพาะกาลยืดอายุให้กับวุฒิสมาชิกสายเลือกตั้งชุดปัจจุบันให้อยู่ไป ครบวาระพร้อมกัน จากนั้นจึงเริ่มวุฒิสภาชุดใหม่ที่มีสมาชิกมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
เหตุผล ของนายดิเรกก็คือวุฒิสมาชิกกลุ่มหนึ่งเลือกมาจากกลุ่มบุคคลเพียง 6-7 คน ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนยังถูกจำกัดสิทธิ์ให้ดำรงตำแหน่งอยู่ได้เพียงสมัยเดียว
ไม่ว่าใครจะดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนต่อไป ประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงก็จะยังคงอยู่ต่อไป ไม่ว่าวุฒิสภายังควรจะมีอยู่ต่อไปหรือไม่ หรือถ้ามีอยู่ควรจะมีบทบาทและที่มาอย่างไร จะเป็นตัวถ่วงหรือเป็นเครื่องมือในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากบทบาทและจุดยืนของวุฒิสมาชิกบางส่วนในช่วงที่ ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดข้อถกเถียงและความสงสัยในเจตนาของการเคลื่อนไหวแต่ละเรื่องแต่ ละประเด็น
ว่าเป็นไปเพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ หรือเพื่อพิทักษ์อำนาจของผู้ที่แต่งตั้งตนเองเข้ามา
