ฐานเศรษฐกิจ 8 สิงหาคม 2555 >>>
นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงความพร้อมในการดูแลความเรียบร้อย กรณีที่ศาลเรียกแกนนำนปช.และจำเลยในคดีก่อการร้ายจำนวน 24 คนมาสอบถามว่า กระทำผิดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ในวันที่ 9 ส.ค. ว่า ทางผู้บริหารศาลอาญาได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ ราชทัณฑ์มาโดยตลอด โดยตอนแรกจะอนุญาตให้กลุ่มคนเสื้อแดงอยู่บริเวณภายในรั้วศาลได้ แต่จากการหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แนะนำว่าควรจะให้กลุ่มคนเสื้อ แดงอยู่นอกรั้วศาล และไม่ให้เข้ามาภายในบริเวณศาลอาญา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายและสามารถควบคุมดูแลได้ง่ายขึ้น จึงเห็นด้วยกับแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีประสบการณ์ดูแลมวลชนมากกว่า
โดยศาลอนุญาติใหจำเลย ทนายความ จะเข้าไปอยู่ในห้องพิจารณาคดี ในส่วนของผู้ติดตามคงเข้าไปได้ไม่มากนัก เพราะมีสื่อมวลชนและตัวแทนฝ่ายผู้ร้องอยู่ในห้องพิจารณาด้วย ซึ่งห้องพิจารณาคดี กำหนดไว้เพียง 35 คน โดยองค์คณะผู้พิพากษาที่จะออกนั่งบัลลังก์สอบถามจำเลยในวันพรุ่งนี้ จะเป็นองค์คณะเดิมซึ่งรับผิดชอบในสำนวนคดีก่อการร้ายมาตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตามผู้บริหารศาลอาญา รวมทั้งองค์คณะผู้พิพากษาที่จะทำหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ ได้ซักซ้อมทำความเข้าใจแล้วว่า พรุ่งนี้ศาลควรทำอย่างไร หรือเรื่องใดสามารถทำได้แค่ไหน
สำหรับขั้นตอนในวันพรุ่งนี้ องค์คณะผู้พิพากษาจะออกนั่งบัลลังก์สอบถามจำเลย ว่าได้กระทำผิดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราว ตามข้อมูลที่ได้จากฝ่ายผู้ร้อง จากสื่อมวลชนต่างๆและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมหรือไม่ โดยศาลจะซักถามไปเรื่อยๆ และให้จำเลยตอบชี้แจง กระทั่งได้ข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอสมควร คาดว่าจะใช้เวลาประมาณเที่ยงเศษ ก็น่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ และจะมีคำสั่งได้ในวันนั้นเลย ยกเว้นกรณีองค์คณะผู้พิพากษาดังกล่าว เห็นว่ามีข้อเท็จจริงหรือดุลยพินิจสมควรให้เลื่อนฟังคำสั่งก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้เชื่อว่าในวันพรุ่งนี้จะไม่เกิดเหตุความวุ่นวาย ชึ่งทางศาลได้ประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อให้ดำเนินการและจัดเตรียมความพร้อมไว้ สำหรับกรณีที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวแกนนำ นปช. บางราย โดยจะส่งตัวไปยังเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งขั้นตอนจะเป็นไปด้วยความรวดเร็วและจะต้องไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
ในส่วนของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมาให้กำลังใจนั้น ขอความร่วมมือว่า หากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรเดินทางมาที่ศาลอาญา เพราะสามารถฟังหรือติดตามข้อมูลจากที่บ้านได้ เนื่องจากสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวให้ทราบอยู่แล้ว และหากเดินทางมาก็อาจจะเกิดความไม่สะดวกรวมทั้งเรื่องการจราจร ส่วนข้อกังวลว่ากลุ่มมวลชนอาจจะทำการละเมิดอำนาจศาลนั้น เห็นว่าโดยหลักการก็เป็นไปได้อยู่ แต่ในทางปฏิบัติค่อนข้างยากพอสมควร ทางศาลอาญาได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ศาลสามารถลาหยุดในวันพรุ่งนี้ได้ เนื่องจากการมาทำงานอาจจะไม่ได้รับสะดวกบางคนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นปช. เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ แกนนำ นปช. และจำเลยคดีก่อการร้ายที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.เพื่อไทย ทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายแพทย์เหวง โตจิราการ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท จะไม่ใช้เอกสิทธิคุ้มครองการเป็น ส.ส. และเดินทางมาตอบข้อซักถามของศาลในคราว เดียวกัน เนื่องจากเห็นว่าหากมาศาลหลังจากปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้วก็คงจะไม่ เป็นประโยชน์มากนัก อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ศาลเพียงแต่เรียกจำเลยมาสอบถาม แต่ในฐานะทนายความเห็นว่าเรื่องเพิกถอนประกันตัวเป็นเรื่องสำคัญ ที่ควรจะทำการไต่สวนจำเลยให้ครบถ้วน จึงอาจจะขอให้ศาลดำเนินการไต่สวนจำเลยด้วย ทั้งนี้เชื่อว่าจำเลยทั้ง 23 คนจะการไปตามข้อเท็จจริง เพราะทุกคนไม่มีเจตนาในการปราศรัยหรือกระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว คาดว่าศาลจะให้โอกาสอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากสุดท้ายศาลสั่งเพิกถอนประกันตัวแกนนำรายใด ทุกคนก็น้อมรับและปฏิบัติตามคำสั่งของศาล ซึ่งในฐานะทนายความก็จะดำเนินการยื่นขอประกันตัวจำเลยอีกครั้ง แต่การประกันตัวในวันดังกล่าวก็คงจะไม่เกิดประโยชน์ เนื่องจากศาลก็คงมีเหตุผลในคำวินิจฉัย ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจตนก็ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย ทั้งนี้ไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยป้องกันและดูแลความเรียบร้อยอยู่แล้ว