"พิณภาษณ์" รับเสียใจร่วมทำหนังสือ ส่ง "ปู-ป๋าเปรม" ชี้สุกำพลทำถูกต้องแล้ว ละอายใจถูกการเมืองนำไปเป็นประเด็น

มติชน 31 สิงหาคม 2555 >>>




พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตรา ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ถึงการขอขมา พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า พล.อ.อ.สุกำพล ได้ทำถูกต้องแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นรุ่นพี่ที่เป็นสุภาพบุรุษใจดี และยอมรับว่าในขั้นตอนการประชุมพิจารณาแต่งตั้งนายทหารระดับชั้นนายพลตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม 2551 และข้อบังคับกระทรวงกลาโหม เพราะเรื่องนี้ยังไม่ผ่านคณะกรรมการของ กระทรวงกลาโหมซึ่งมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด จึงไม่ควรที่กรรมการท่านใดจะนำไปเปิดเผยข้ามขั้นตอน ทั้งนี้ กระบวนการการพิจารณายังไม่สิ้นสุด และยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ และรัฐมนตรี ที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในกระทรวง ถือเป็นเรื่องธรรมดาของทหารที่ผู้บังคับบัญชา จะสั่งให้ไปทำอะไรก็ได้ เพราะทหารต้องเชื่อฟัง สั่งให้ไปรบ ไปสงคราม ไปตาย ก็สั่งได้ และผู้ถูกสั่งก็ต้องทำ ไม่มียกเว้น ไม่ว่าตำแหน่งหรือชั้นยศใด เป็นทหารแล้วถ้าสั่งให้ไปทำงานอื่นไม่ได้ ก็ไม่ต้องเป็น
   "จึงรู้สึกเสียใจ และรู้สึกผิดที่มีส่วนร่วมทำหนังสือดังกล่าว รวมถึงหนังสือนำเรียนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนำเรียนพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งไม่ถูกขั้นตอนด้วย ที่ร่วมกระทำไปเพราะถูกกดดันจากผู้ใหญ่ และมีงานเร่งด่วนกระชั้นมาก จึงขาดความรอบคอบในการร่างและตรวจเอกสารและการสั่งให้ไปราชการหรือช่วยราชการนั้น กรมเสมียนตรามีหลักการชัดเจน จะสั่งเพราะกรณีกระทำผิด หรือกรณีไม่ได้กระทำผิดก็ได้ ไม่อยากให้เป็นเรื่องการเมืองมาโจมตีกันแบบฉวยโอกาส  ทำให้ผมรู้สึกละอายที่ทำให้นักการเมืองเข้ามาทำให้วุ่นวาย" เจ้ากรมเสมียนตรา ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งชั้นนายพล พ.ศ. 2551 เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระเบียบการประชุมของคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาการแต่ตั้งชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจความในมาตรา 25 และ 27 แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 (พ.ร.บ.กลาโหม 51) ประกอบกับความในมาตรา 11 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบราชการทหาร 2521 และมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ยศทหาร พุทธศักราช 2479 และโดยความเห็นชอบของสภากลาโหม จึงออกข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้ โดยเฉพาะหมวด 3 คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการแต่งตั้ง ในข้อที่ 13 การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายทหารชั้นนายพลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อที่ 13.1 ในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศ พระมหากษัตริย์จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากข้าราชการชั้นยศ พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ที่ครองอัตราจอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ หรือ พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก