"นิคม" รับพระราชโองการโปรดเกล้าฯเป็น ปธ.วุฒิสภาแล้ว ลั่นเดินหน้า 4 ภารกิจ

มติชน 24 สิงหาคม 2555 >>>




ห้องรับรองพิเศษ ชั้น 2 อาคารรัฐสภา 2 เมื่อเวลา 08.09 น. วันที่ 24 สิงหาคม สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้มีพิธีรับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา ให้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา จากนั้นได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 และสักการะพระสยามเทวาธิราช ทั้งนี้ นางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันทร์รัตนปรีดา รองประธานวุฒิสภาคนที่2 สมาชิกวุฒิสภา และข้าราชการ เข้าร่วมแสดงความยินดีด้วย                 


จากนั้นนายนิคม ให้สัมภาษณ์ว่า ภารกิจแรกที่จะทำทันทีคือสิ่งที่แสดงไว้ในวิสัยทัศน์ 4 ประการคือสร้างความเป็นกลาง ไม่อยู่ภายใต้อาณัติของใคร โดยยึดหลักนิติธรรมภายใต้ระเบียบข้อบังคับ หรือกฎหมาย จะไม่ดำเนินการภายใต้กระแสสังคมหรือแรงกดดัน การสร้างความเข้มแข็งให้กับคณะกรรมาธิการเป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นตัวเชื่อมโยงที่จะนำปัญหาของประชาชนมาแก้ไข นอกจากนี้จะเพิ่มวันประชุมจากเดิมมีเพียงวันจันทร์จะเพิ่มวันอังคารเริ่มตั้งแต่ 13.00 น.จนถึงประมาณ 17.00-1800 น. เนื่องจากยังมีกฎหมาย กระทู้ถามที่ค้างจำนวนมาก ไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติของรัฐบาล ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล               


นายนิคม กล่าวว่า จะสนับสนุนงานของสมาชิกทำอย่างไรให้ข้าราชการมีขวัญกำลังใจมีอนาคตในการทำงาน อาจจะปรับโครงสร้างและวิธีการทำงาน เพราะโครงสร้างของรัฐสภามีความซ้ำซ้อน และแยกส่วนกันอยู่ ระหว่างสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เช่นตำรวจสภา โรงพิมพ์ ไอที และห้องสมุด ความจริงสิ่งเหล่านี้ควรเป็นในนามของรัฐสภา ซึ่งควรจะมีการปรับปรุงหากทำได้ก็จะทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพและประหยัดงบประมาณ สิ่งใดที่เหมือนกันก็ให้อยู่ด้วยกัน อาจจะมีการเลขาธิการรัฐสภาเพียงคนเดียวก็ได้ ทั้งนี้ต้องไปพูดคุยหารือกับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร               


นายนิคม กล่าวอีกว่า กรณีการแต่งตั้งองค์กรอิสระโดยเฉพาะป.ป.ช.เริ่มมาแล้ว วุฒิสภาจะต้องแสดงถึงศักยภาพในการที่จะใช้วิธีการพิจารณาผู้ที่จะดำรงตำแหน่งอย่างถี่ถ้วน คนที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในการทำหน้าที่ อย่าไปกังวลว่าตนเข้ามาแล้วจะแก้หรือยุบ แต่จะเข้ามาช่วยทำให้องค์กรเข้มแข็งมากขึ้น               


"หลายคนสงสัยและกังวลว่าเรื่องการถอดถอนจะไม่เป็นกลาง ผมยืนยันว่าจะทำหน้าที่เป็นกลาง เพราะเคยทำมา 3 ครั้งแล้วแสดงให้เห็นว่าใช้หลักกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสมาชิกก็ใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา เพราะไม่มีพรรคการเมืองหรือสังกัด" นายนิคม กล่าวและว่าในวันจันทร์ที่ 27 ส.ค.วุฒิสภาจะเริ่มพิจารณาการถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ