แนวหน้า 21 สิงหาคม 2555 >>>
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงกรณีศาลนัดสอบถามนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย กับพวกแกนนำและแนวร่วมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยคดีร่วมกันก่อการร้ายรวม 19 คน กระทำผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราว กรณีปราศรัยโจมตีข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 22 ส.ค. ว่า จนถึงขณะนี้นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ร้อง ยังไม่ได้ยื่นหลักฐานการปราศรัยของนายยศวริศ ตามสถานที่ต่างๆส่งให้ศาลเพิ่มเติมตามที่ได้แถลงไว้ต่อศาล เช่นเดียวกับฝ่ายนายยศวริศก็ยังไม่ได้ส่งเอกสารหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาให้ศาลเช่นกัน ในส่วนของจำเลยอื่นที่ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนสอบถามเสร็จสิ้นแล้วยังไม่มีการเขียนคำสั่งแต่อย่างใด
การนัดฟังคำสั่งเพิกถอนปล่อยชั่วคราว 19 จำเลย คดีก่อการร้ายนั้น นายทวีกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับองค์คณะผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนใช้ดุลยพินิจและมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้ามองในแง่บวก ศาลอาจมีคำสั่งยกคำร้อง ไม่เพิกถอนการประกันตัวจำเลยทุกคน เป็นอันยุติเรื่องเพิกถอนประกัน หรือศาลอาจมีคำสั่งให้เพิกถอนปล่อยชั่วคราวจำเลยบางส่วน และยกคำร้องไม่เพิกถอนจำเลยบางส่วน หรือถ้ามองในแง่ลบสุดขั้ว ศาลอาจมีคำสั่งเพิกถอนปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งหมด 19 คน เพราะถือว่าเป็นจำเลยชุดเดียวกันมีข้อกำหนดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวใกล้เคียงกัน แม้จำเลยบางคนจะไม่ได้กระทำผิดเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม ตามหลักกฎหมายบุคคลใดกระทำบุคคลนั้นต้องรับผิดชอบ
ทั้งนี้ หากศาลมีคำสั่งไม่เพิกถอนคำสั่งปล่อยชั่วคราวจำเลย ศาลอาจกำหนดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวเพิ่มเติมให้เข้มงวดขึ้นก็สามารถทำได้ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าเงื่อนไขเดิมยังไม่เพียงพอ เพราะหลักการกำหนดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวจำเลย เพื่อป้องกันจำเลยไม่ให้ไปกระทำผิดซ้ำที่จะกระทบกับคดี ป้องกันผู้เสียหายจากภยันตรายใดๆ และเพื่อให้สังคมมีความปลอดภัย ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาที่เปิดทางให้ศาลนำมาบังคับใช้ได้ สุดท้ายขึ้นอยู่กับศาล ยังไม่ทราบว่าจะมีคำสั่งให้ถอนหรือไม่ถอน ปล่อยตัวจำเลยมากน้อยแค่ไหนอย่างไร หรืออาจยกเลิกเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวเดิม และกำหนดเงื่อนไขปล่อยตัวขึ้นมาใหม่ให้มีประสิทธิผล
"เงื่อนไขเดิมที่ศาลกำหนดไว้ มีการแปลความกันแบบศรีธนญชัย จึงอาจต้องยกเลิกเงื่อนไขเดิมและกำหนดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวใหม่ให้ชัดเจน ข้อ 1 ว่าอย่างไร ข้อ 2-4 ว่าอย่างไร ให้ฟังแล้วเข้าใจได้ทันที ไม่ต้องตีความ” อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าว
และว่า หากศาลมีคำสั่งคำร้องเพิกถอนปล่อยชั่วคราวจำเลยอย่างไร ในวันที่ 22 ส.ค. นี้แล้ว หากจะมีบุคคลใดยื่นคำร้องขอเพิกถอนปล่อยชั่วคราวพวกจำเลยในคดีก่อการร้ายอีกครั้ง ตามหลักกฎหมายคงไม่สามารถอ้างเหตุการณ์ ในสถานที่เดียวกันมายื่นเพิกถอนปล่อยชั่วคราวจำเลยต่อศาลได้อีก เพราะถือว่าศาลได้วินิจฉัยไปแล้ว และหากศาลวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานของผู้ร้องยังไม่เพียงพอ สั่งให้ยกคำร้องแล้วฝ่ายผู้ร้องจะไปหาพยานหลักฐานใหม่มาเพิ่มเติมเพื่อให้ศาลวินิจฉัยใหม่คงทำไม่ได้ เพราะจะเป็นการยื่นคำร้องซ้ำ
เมื่อถามว่าการเพิกถอนปล่อยชั่วคราวจำเลยครั้งนี้ เนื่องจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญและนายนิพิฎฐ์ยื่นคำร้อง หรือศาลพบเจอหลักฐานการทำผิดเงื่อนไขของจำเลย จึงออกหมายเรียกมาสอบถาม นายทวีกล่าวว่า ตนในฐานะอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญามีความตั้งใจอยู่แล้ว ที่จะเรียกจำเลยทั้ง 24 คนมาสอบถาม เพราะตนได้เห็นภาพข่าวทางสถานีโทรทัศน์เอเชียอัพเดท ที่เผยแพร่ภาพข่าวปรากฏพฤติการณ์ของจำเลยที่ขึ้นปราศรัยชัดเจน จึงเตรียมนำเรื่องปรึกษาหารือกับผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญและนายนิพิฎฐ์ยื่นคำร้องเข้ามาพอดี จึงเปิดโอกาสให้ทั้งสองมาเป็นผู้ร้องและแถลงต่อศาลประกอบด้วย เหมือนเช่นตอนนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง จำเลยที่ 24 ขอประกันตัวต่อศาลอาญา แต่ศาลไม่อนุญาต จึงไปยื่นศาลอุทธรณ์แล้วศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว หลังนายอริสมันต์ ได้รับปล่อยชั่วคราวไป 2 วัน ตนกลับไปดูทีวีเสื้อแดงที่บ้านเห็นข่าวนายอริสมันต์ขึ้นพูดบนเวทีเสื้อแดงที่ จ.นครราชสีมา คำพูดมีลักษณะคาบลูกคาบดอก หมิ่นเหม่มาก จึงไปปรึกษากับองค์คณะให้เรียกมาสอบถามดู หลังจากนั้นนายอริสมันต์ ซึ่งได้บวชเป็นพระแล้วเดินทางมาศาลแต่ได้ให้การปฏิเสธ แต่ศาลก็มีหลักฐาน และไม่อยากต่อล้อต่อเถียง ตนกับเจ้าของสำนวนจึงเห็นตรงกันสมควรให้โอกาสจำเลยอีกสักครั้ง จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนไป ซึ่งหลังจากนั้นนายอริสมันต์ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ดูได้จากไม่มีใครยื่นเพิกถอนปล่อยชั่วคราวนายอริสมันต์
ถามต่อว่าศาลติดตามพฤติการณ์ของจำเลยทุกคนที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวมาโดยตลอด นายทวี กล่าวว่า ศาลเป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลย ดังนั้น ศาลจึงมีหน้าที่ต้องควบคุมตรวจสอบพฤติการณ์จำเลยที่ได้รับการประกัน ว่าพวกจำเลยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้หรือไม่ ศาลจะทำเป็นไม่รับรู้ รอให้บุคคลอื่นมายื่นคำร้องต่อศาลอย่างเดียวไม่ได้ ในเมื่อศาลเป็นคนปล่อย ศาลก็ต้องตรวจสอบ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาจมีการไปพูดปราศรัยตามจังหวัดต่าง การตรวจสอบก็ยากลำบาก แต่ศาลก็ต้องทำ