โฆษก ทบ. ไม่สนใจ "ดีเอสไอ" ไม่เชื่อคำให้การ 2 พลแม่นปืนใช้กระสุนซ้อมยิงสลายเสื้อแดง มั่นใจ มีกฎหมายรองรับการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมส่ง เอ็ม 16 ให้ตรวจ ยัน ไร้หลักฐานยิงผู้ชุมนุมเจ็บ-ตาย...
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมทำหนังสือถึงกองทัพบก เพื่อขออาวุธปืนเอ็ม 16 ไปตรวจสอบหลังจากพลแม่นปืน 2 นาย เข้าให้ปากคำกับ ดีเอสไอ ก่อนระบุว่า ภาพปืนที่ปรากฏไม่ใช่สไนเปอร์ เป็นปืนเอ็ม 16 และใช้กระสุนซ้อมยิงว่า ต้องว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่ง ดีเอสไอ มีอำนาจและสิทธิที่จะร้องขออาวุธไปตรวจสอบตามหน้าที่ ทั้งนี้กองทัพบก ถือยืนยันการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 2 นายชี้แจงกับ ดีเอสไอไปแล้ว หากกองทัพบก ได้รับหนังสือขออาวุธปืนไปตรวจสอบ ก็จะจัดส่งอาวุธปืนดังกล่าวไปให้
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ ดีเอสไอไม่เชื่อคำให้การของทหาร 2 นาย ใช้กระสุนซ้อมยิง ขู่กลุ่มผู้ชุมชนพระราม 4 (บ่อนไก่) และซอยงามดูพลี ไม่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตของกลุ่มเสื้อแดงนั้น ก็เป็นเรื่องของ ดีเอสไอ เพราะเจ้าหน้าที่ให้การไปแล้วเขาปฏิบัติอย่างไร ก็ชี้แจงไปอย่างนั้น ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็เป็นเรื่องของดีเอสไอ กองทัพบกไม่ขอวิจารณ์ เพราะเรื่องอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน
เมื่อถามว่า ดีเอสไอ ระบุว่า คำให้การของทหารทั้ง 2 นายขัดแย้งกับท่าทางที่ปรากฏ เหมือนไม่ใช่กระสุนซ้อมยิง พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ คงไม่สามารถให้ความเห็นได้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ยืนยันไปตามคำให้การ ก็เป็นเรื่องของดีเอสไอที่ต้องไปพิจารณา
"ขณะนี้ มีเพียงภาพที่เป็นคลิปบันทึกการปฏิบัติงานของนายทหารทั้ง 2 นายเท่านั้น ไม่ปรากฏหลักฐานว่า ยิงไปแล้วมีคนล้มหรือบาดเจ็บจากการกระทำดังกล่าว และนายทหารทั้ง 2 นาย ก็ชี้แจงไปแล้วว่าเป็นกระสุนซ้อม ส่วนใครจะเชื่อไม่เชื่อก็เป็นเรื่องของเขา" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
เมื่อถามว่า ทาง ดีเอสไอ ระบุว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธปืนเอ็ม 16 ทั้งในส่วนของเกลียวลำกล้องปืน และจะพยายามหาหัวกระสุนมาพิสูจน์ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ถือเป็นปัญหาของดีเอสไอ เรามีหน้าที่เพียงจัดส่งอาวุธปืนไปให้ตามขั้นตอนทางกฎหมาย เมื่อส่งไปแล้วจะเป็นปัญหาอุปสรรคในการหาข้อเท็จจริงอย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ
