ศาลนัดฟังคำสั่งเพิกถอนประกันตัวแกนนำ นปช. วันที่ 22 ส.ค. นี้



ทีมข่าว นปช.
9 สิงหาคม 2555




วันนี้ (9 ส.ค. 55) ห้อง 704 ศาลอาญา (รัชดา) มีการพิจารณาคำร้องขอถอนประกันตัว ก่อแก้ว พิกุลทอง (กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 55) และ ยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก) (กรณีปราศรัยเวทีหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 55)
เวลาประมาณ 10.10 น. ศาลขึ้นบังลังก์เพื่อพิจารณาคดี โดยในวันนี้ พงษ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง (จำเลยที่ 11) ได้ให้ทนายความมาแจ้งแก่ศาลว่า ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้เนื่องจากพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล (จำเลยหลายคนยังไม่ได้มาถึงศาล แต่ทนายจำเลยเหล่ายืนยันต่อศาลว่า จะเดินทางมาในวันนี้)
ศาลได้บรรยายฟ้องให้จำเลยที่ 2 (จตุพร พรหมพันธุ์) และ จำเลยที่ 7 (ยศวริศ ชูกล่อม) ฟังว่า ผู้ร้องที่ 1 (นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ: ส.ส.ปชป.) ได้ร้องต่อศาลว่า การปราศรัยของจำเลยทั้งสองที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 55 เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับตุลาการ รธน. (ยศวริศเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของตุลาการ รธน. 7 คน) และการให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 55 เป็นการยุยงให้เกิดความวุ่นวาย (ก่อแก้วบอกให้ประชาชนเตรียมเบิกเงิน และเตรียมต่อสู้ขั้นแตกหัก หากตุลาการ รธน. วินิจฉัยว่า ร่างแก้ไข รธน. เป็นการล้มล้างการปกครอง) โดยขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวจำเลยทั้งหมด
ระหว่างการพิจารณาทนายจำเลยที่ 4 (นพ.เหวง โตจิราการ), ทนายจำเลยที่ 5 (ก่อแก้ว พิกุลทอง), ทนายจำเลยที่ 9 (การุณ โหสกุล) และ ทนายจำเลยที่ 10 (วิภูแถลง พัฒนภูมิไท) ร้องคัดค้านต่อศาล โดยทนายทั้งหมดเห็นว่า ช่วงนี้เป็นช่วงระหว่างเปิดสมัยประชุมของรัฐสภา หากมีการไต่สวนจำเลยทั้งสี่ที่เป็น ส.ส. อาจขัด รธน. มาตรา 131 จึงขอให้ศาลเลื่อนการพิจารณาคำร้องนี้ไปก่อนจนกว่าจะปิดสมัยประชุมรัฐสภา
ศาลได้ถามความเห็นจากจำเลยทั้งสี่ซึ่งจำเลยทั้งสี่ให้การตรงกันว่า ถ้าไม่ผิด รธน. ก็ยินดีให้ไต่สวนมูลฟ้อง จึงทำให้เกิดการโต้เถียงระหว่างทนายจำเลยและศาลเป็นเวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า แม้ว่าการพิจารณาเพิกถอนการประกันตัวครั้งนี้อาจเป็นการก่ำกึ่งต่อการขัด รธน. แต่การพิจารณาคำร้องครั้งนี้เป็นเพียงการสอบถามอย่างกว้างๆ ไม่ได้พาดพิงไปถึงพยานที่เป็น ส.ส. ทั้งห้า (รวม ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) รวมทั้งการพิจารณาเพิกถอนประกันตัวจำเลยที่ 2 และ 7 เป็นเรื่องเฉพาะตน จึงให้เดินหน้าต่อไป ส่วนจำเลย 5 คนที่เป็น ส.ส. ให้เลื่อนการสืบพยานออกไปเป็นตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 55 โดยจะสืบพยานทุกวันพุธ-พฤหัสบดีจนกว่าจะเปิดสมัยประชุมรัฐสภา
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3 คนได้เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาในคดีอื่นต่อจำเลยที่ 17 (สุรชัย เทวรัตน์) และร้องขอต่อศาลขอควบคุมตัวซึ่งศาลอนุญาตให้ควบคุมตัวภายหลังการพิจารณาคดีในวันนี้เสร็จ
นิพิฏฐ์ ให้การต่อศาลว่า เมื่อวันที่ี 7 มิ.ย. 55 ยศวริศให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่หน้ารัฐสภาเพื่อขับไล่ตุลาการ รธน. ทั้งเจ็ดคน และปราศรัยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของตุลาการ รธน. ทั้งเจ็ด เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเกลียดชังจึงผิดเงื่อนไขการขอประกันตัว พร้อมเปิดวีซีดีการปราศรัยของยศวริศ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 55 ดังนั้นจึงขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนการประกันตัวจำเลยทั้ง 19 คน (ยกเว้นจำเลย 5 คนที่เป็น ส.ส.)
ระหว่างนั้นทนายจำเลยที่ 11 (พงษ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง) ร้องคัดค้านต่อศาลว่า เนื้อหาในวีซีดีดังกล่าวพาดพิงเฉพาะตุลาการ รธน. เท่านั้น ไม่มีเนื้อหาส่วนใดพาดพิงถึงผู้ร้องในคดีนี้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องนี้ รวมทั้งนิพิฏฐ์ก็ไม่ได้เป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้จึงไม่สามารถยื่นคำร้องนี้ได้
ทนายของยศวริศคัดค้านต่อศาลว่า ผู้ร้องที่ 1 เพิ่งยื่นคำร้องต่อศาลในตอนเช้าวันนี้ จึงทำให้จำเลยยังไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของพยานหลักฐานได้จึงขอให้ศาลเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้จำเลยได้ตรวจสอบพยานหลักฐานของผู้ร้อง ศาลจึงยอมให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปเป็นวันที่ 22 ส.ค. 55 เวลา 9.00 น. และนัดฟังคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน
ศาลได้เรียกพยานที่เหลือทั้ง 17 คนมาสอบถาม โดยบางคนให้การว่า ไม่เคยขึ้นกล่าวปราศรัย บางคนเคยขึ้นปราศรัย แต่เป็นไปตาม รธน. ศาลจึงนัดฟังคำสั่งเพิกถอนการประกันตัววันที่ 22 ส.ค. 55 เวลา 15.00 น.