ประชาไท 23 สิงหาคม 2555 >>>
21 ส.ค. 55 ที่ศาลอาญา รัชดา นายสนธิ ลิ้มทองกุล จำเลยในคดีความผิดตามมาตรา 112 คดีหมายเลขดำที่ อ.2066/2553 โดยนายสนธิได้ขึ้นเบิกความเป็นพยานตนเอง สวนการสืบพยานในวันที่ 22 ส.ค. ทนายจำเลยได้ขอเลื่อน แต่ศาลไม่อนุญาตจึงขอยกเลิกเนื่องจากเป็นนัดฟังเรื่องถอนประกันแกนนำเสื้อ แดง มีมวลชนมาเป็นจำนวนมากเกรงว่าจะมีเหตุปะทะกัน ส่วนการสืบพยานจำเลยนัดหน้าจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 ส.ค. นี้ โดยมีพยานได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายปานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
นายสนธิ เบิกความว่า ได้นำคำพูดของดารณีมากล่าวบนเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 51 โดยหยิบยกคำปราศรัยของดารณีที่มีการพาดพิงสถาบันในวันที่ 18-19 ก.ค. 51 มาบอกกล่าวกับประชาชน นอกจากนี้ยังมีการปราศรัยของดารณีที่เข้าข่ายเดียวกันในช่วงเดือนมกราคมและ เดือนมิถุนายนปีเดียวกันด้วย แต่ตำรวจกลับส่งฟ้องเฉพาะกรณีเดือนมกราคมและมิถุนายน โดยศาลพิพากษาจำคุกดารณีไปแล้ว แต่ตำรวจไม่ได้ส่งฟ้องกรณีเดือนกรกฎาคม เพราะหากศาลพิพากษาว่าดารณีมีความผิดจริง แม้การกล่าวของดารณีไม่ได้ระบุชื่อ ก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อคดีของตน ตำรวจที่รับผิดชอบจึงไม่ดำเนินการ
นายสนธิ อธิบายว่า ไม่ได้จะกล่าวหาว่าตำรวจกลั่นแกล้ง แต่สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเป็นเช่นนั้น เนื่องจากตำรวจที่ดำเนินการทั้งเจ้าของสำนวนคดีนี้ และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับบัญชาขณะนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความขัดแย้งกับตัวเขาเองโดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ดำเนินคดีข้อหากบฏกับแกนนำพันธมิตรทั้ง 9 คน และเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องระบุว่าการตั้งข้อหาไม่ถูกต้อง แกนนำพันธมิตรฯ จึงฟ้องกลับกับ ป.ป.ช. นอกจากนี้คนที่เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีนี้ก็ยังเป็นคนสนิทของนายเนวิน ชิดชอบอีกด้วย
อัยการถามว่าข้อความที่ดารณีปราศรัยนั้นไม่มีการระบุชื่อ แต่ข้อความที่จำเลยนำมาพูดนั้นมีความแตกต่างกันใช่หรือไม่ นายสนธิตอบว่า หากดูตามตัวอักษรก็ใช่ แต่ดารณีหมายความตามที่ตนได้ปราศรัย
ส่วนเหตุที่ไม่ได้นำซีดีหลักฐานไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ทันทีแต่กลับนำ ไปปราศรัยบนเวทีซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมด้วยนั้น นายสนธิให้เหตุผลว่า เป็นเพราะไม่เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการ จึงต้องการกดดัน กระทั่งวันรุ่งขึ้นกองทัพบกได้ส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดีเอง ทางกลุ่มพันธมิตรฯ จึงดำเนินการเพียงส่งแผ่นซีดีเป็นหลักฐานประกอบ
สนธิยังย้ำด้วยว่าเจตนาของเขากับของดารณีนั้นแตกต่างกัน สังคมเป็นที่รับรู้ทั่วไปว่าฝั่งเสื้อแดงนั้นต้องการล้มล้างสถาบัน ส่วนเขานั้นต้องการปกป้องสถาบัน ดังที่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับความจงรักภักดีมากมาย ไม่ว่าการจัดเวทีที่หอประชุมใหญ่พูดเรื่องการถวายคืนพระราชอำนาจ การจัดพิมพ์หนังสือพระราชอำนาจ และยังเคยกล่าวอาศิรวาท หนังสือพระราชอำนาจ พระองค์รับสั่งมาว่าพระองค์ทรงชอบมาก นอกจากนี้ยังมีการลงนามถวายพระพรที่ ร.พ.ศิริราช มีการตั้งคัตเอาท์ขนาดใหญ่ในที่ชุมนุมในวาระเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รวมไปถึงการเสด็จไปเป็นประธานงานพระราชทานเพลิงศพของน้องโบว์ อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่เสียชีวิตจากการสายการชุมนุม 7 ต.ค. 51 และพระองค์ยังรับสั่งกับพ่อของน้องโบว์ว่า น้องโบว์เป็นเด็กดี รักชาติบ้านเมือง รักสถาบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องกับคดีทุกคนลงชื่อ และเลขบัตรประจำตัวประชาชนด้วย เนื่องจากเป็นระเบียบใหม่ของศาลอาญา โดยที่หน้าประตูห้องพิจารณาคดีเกือบทุกคนมีป้ายประกาศเขียนขอความร่วมมือดัง กล่าวไว้ ลงชื่อโดยเลขานุการศาลอาญา และให้เริ่มต้ังแต่ 1 ส.ค. 55 เป็นต้นไป