'เหวง' เล่าเรื่องการช่วยเหลือนักโทษการเมือง และเบื้องหลังกลุ่ม ผรท.

Facebook นพ.เหวง โตจิราการ 9 กรกฎาคม 2555 >>>




วันนี้ (9 ก.ค. 2555) นพ.เหวง โตจิราการ ได้เล่าถึงบรรยากาศในการต้อนรับการได้รับการประกันตัวของผู้ถูกคุมขังทางการเมือง จ.มหาสารคาม และเบื้องหลังของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ดังนี้

ยัน นปช. ไม่เคยทอดทิ้งนักโทษเสื้อแดง

เพื่อนๆครับ เช้านี้ (9 ก.ค. 55) ผมพร้อมกับประธานธิดาเฮียสมหวัง (สมหวัง อัสราษี) และคุณเจ๋ง (ยศวริศ ชูกล่อม) ได้ไปร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนของเราที่ศาลกรุณาให้ประกันตัวเพิ่มอีก 9 คนที่เรือนจำหลักสี่บางเขน
นี่แสดงให้เห็นอย่างหนักแน่นว่า แกนนำ นปช. ไม่เคยลืมเลือนพี่น้องที่อยู่ในเรือนจำไม่ว่าใครจะอยู่ที่ไหนแต่อย่างไร ในขณะนี่้พี่น้องเราที่อยู่ในเรือนจำยังมีอีก กว่ายี่สิบคนทั้งที่เชียงใหม่อุดรและคดี 112 แกนนำ นปช. ไม่เคยลืมเลือนและไม่เคยลดละที่จะหาทางให้ได้รับการประกันตัวออกจากเรือนจำแม้แต่วินาทีเดียวครับ
ดังนั้น การใส่ร้ายป้ายสีโดยบางคนที่ทำตัวเป็นคนเสื้อแดงกล่าวหาว่าแกนนำลืมเลือนเพื่อนที่อยู่ในเรือนจำและช่วยเหลือแต่แกนนำกันเองจึงเป็นเรื่องการทำลายการต่อสู้ของพี่น้องเสื้อแดงโดยตรงเลยครับ
ผมเองได้กล่าวกับเพื่อนอีกจำนวนยี่สิบคนในเรือนจำหลักสี่ว่าา ครั้งก่อนที่ได้ไปเยี่่ยมได้แจ้งให้ทราบว่าเราจะยื่นประกันทุกคน แต่ผมคาดว่า อาจจะได้รับการประกันเป็นระลอกๆ บางคนได้ออกก่อน บางคนอาจจะได้ออกช้ากว่า แต่คงจะได้ออกมาทั้งหมดค่อนข้างแน่นอน ดังนั้นคนที่ออกมาก่อนก็จะดีใจ แต่คนที่ออกมาช้ากว่า ก็อย่าเพิ่งเสียกำลังใจเพราะการอยู่ในเรื่อนจำนั้น กำลังใจเป็นเรื่องสำคัญที่สุดอย่าให้ศัตรูทำลายคุณได้เป็นอันขาด หากคุณไม่ทำลายกำลังใจของตนเองแล้วละก็ศัตรูก็ทำลายคุณไม่ได้ดอกครับ ผมเองเคยอยู่ในเรื่อนจำมาก่อน(และอาจจะต้องเข้าไปอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้จากการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ไม่กลัวครับ)จึงรู้ว่ากำลังใจสำคัญที่สุดครับและตนเองนั่นแหละสำคัญที่สุดอย่าทำลายทำร้ายกำลังใจของตนเอง ศัตรูไม่อาจจะมาระคายเคืองอะไรเราได้ครับ
ผมได้บอกว่า การที่เพื่อนเราได้ความเมตตาจากศาลประกันออกไปถึงสองระลอกคือ 13 คนและอีก๙คนต่อมา ย่อมแสดงให้เห็นว่าโอกาศที่ศาลจะให้ประกันส่วนที่เหลือมีสูงมากผมเรียนว่า ศาลท่านจะพิจารณาจากเรื่องที่ ผู้ได้รับการประกันจะหนีหรือไม่นี่แหละสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องจะไปสร้างเรื่องวุ่นวายหรือไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานนั้นผมคิดว่าน่าจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญเมื่อเทียบกับเรื่องจะหลบหนี คราวนี้เมื่อพวกเราได้รับการประกันตัวสองระลอกล้วนเป็นคดีหนักโทษสูงทั้งสิ้นแล้วพวกเราทุกคนที่ได้รับประกันออกมาพิสูจน์ให้ศาลท่านสิ้นสงสัยได้ว่าเมื่อประกันออกมาเรามารายงานตัวต่อศาลอย่างเข้มงวดเคร่งครัดไม่ได้หนีไปไหน นี่จะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อการทำเรื่องประกันเพื่อนเราที่ยังเหลืออยู่เป็นอย่างมาก เพราะนี่จะเป็นหลักฐานอย่างหนักแน่นที่จะกราบเรียนศาลว่าเมื่อให้ประกันออกไปแล้วพวกเราไม่หนีเป็นอันขาดศาลจะได้ให้เมตตากรุณาต่อพวกเราให้การประกันต่อพวกเรา นอกจากนี้เป็นปกติที่ศาลท่านจะกำหนดหลักประกันมากบ้างน้อยบ้าง ในตอนนี้เงินงบประมาณก้อนแรก 43 ล้านได้ใช้หมดไปแล้ว แต่รัฐบาลโดย รมต.ยุติธรรม ก็ได้จัดเงินก้อนใหม่ 68 ล้านไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นจึงเรียนยืนยันอย่างจริงจังหนักแน่นว่า พวกเราทุกคน แกนนำ นปช. ทุกคนไม่มีใครลืมเพื่อนเราในเรือนจำครับ เรายังมุ่งมั่นในการประกันตัวเพื่อนเราที่เหลืออีกต่อไปไม่ลดละ ส่วนเพื่อนเราคดี 112 เราก็เดินหน้าอยู่นะครับ เพราะเพื่อนเราเขามีข้อสรุปของพวกเขากันเองว่า จะดำเนินเรื่องให้คดีสิ้นสุดเพื่อจะได้ขอพระราชทานอภัยโทษเนื่องจากปีนี้เป็นปีมหามงคลใหญ่สองประการ จึงน่าจะมีการพระราชทานอภัยโทษครั้งใหญ่ของประเทศไทย เรากำลังปรึกษาและทำงานกับทุกฝ่ายเพื่อให้เพื่อนเราได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเพื่อพระราชทานอภัยโทษอยู่ครับ

แฉอำมาตย์เอาผลประโยชน์เข้าล่อ ผรท.

เพื่อนๆครับมีข่าวบางสำนักกล่าวถึง ผรท. (ผู้รับใช้อำมาตย์แห่งประเทศไทย) ที่ชื่อ ส.พิชิต ว่าได้ขัดแย้งทางความคิดกับผม แล้วสำนักขข่าวดังกล่าวบอกว่าผมเห็นว่า (ในปี พ.ศ. 2524) สังคมไทยเป็นกึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินาที่มีปัจจัยทุนนิยมเพิ่มขึ้นนั้น
ผมขอชี้แจงเล็กน้อยนะครับ ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด ในครั้งนั้นผมเสนอว่าสังคมไทยได้เปลี่่ยนคุณภาพไปเป็นทุนนิยมแล้ว แต่จะใช้ชื่อทุนนิยมอะไรก็ว่ากันไป สังคมไทยได้เปลี่ยนคุณภาพโดยพื้นฐานเป็นทุนนิยมไปแล้วครับ
แต่ในวันนี้เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้วครับเพราะในวันนี้สถานการณ์การต่อสู้ทางการเมืองได้ท้าทายและตรวจสอบการตัดสินใจทางการเมืองและบทบาทของคนทุกคน ขององค์กรทุกองค์แล้วครับว่า "ท่านจะฉุดลากดึงสังคมไทยอยู่กับที่ให้อยู่ในห้วงเหวแห่งระบอบอำมาตยาธิปไตย หรือท่านจะช่วยกันต่อสู้เพื่อให้สังคมไทยได้ก้าวไปข้างหน้าเป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเสียทีซึ่งแน่นอนครับต้องมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนะครับไม่อย่างนั้น พวกกากเดนทรราชย์พวกสมุนบริวารของอำมาตย์ก็จะนำเอาเรื่อง "ล้มเจ้า" มาใส่ร้ายป้ายสีผมทันที"
ผมอยากจะส่งข่าวไปยัง ผรท. ที่เข้ามาร่วมพัฒนาชาติไทยด้วยความจำเป็นทั้งนี้เนื่องจาก พคท. (พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ไม่ใช่พรรคคุ้มครองอำมาตย์แห่งประเทศไทยนะครับ เพราะขณะนี้มี พคท. สายพันธ์คุ้มครองอำมาตย์แห่งประเทศไทยเกิดขึ้นแล้ว) เพลี่ยงพล้ำจึงทำให้พี่น้องที่เข้าร่วมการต่อสู้ในป่าจึงต้องกลับเข้าบ้านเรียกว่า "คนป่าคืนเมือง" พี่น้องเราเข้าร่วมต่อสู้มายาวนานทั้ืงนั้นหลายๆปี ดังนั้นจึงไม่มีปัจจัยจำเป็นในการครองชีพเหลืออยู่เลย รัฐบาลจึงต้องนำเอางบประมาณแผ่นดินจำนวนหนึ่งที่จำเป็น (ในสมัยนั้น ให้ที่ดินห้าไร่ ควายห้าตัว เงินสดสองหมื่นบาท) แต่พวกทหารเผด็จการบางส่วนต้องการเอาชีวิตความเดือดร้อนของพี่น้องคนป่าคืนเมืองของเราเป็นเครื่องมือทางการเมือง ดังนั้นพวกเขาจึงให้เพียงไม่กี่คน แล้วปล่อยให้พี่น้องส่วนใหญ่เดือดร้อน แต่พอมีสถานการณ์การเมืองที่ดุเดือดขึ้ืนมาพวกเผด็จการก็จะเอาผลประโยชน์ก้อนนี้เข้าล่อเพื่อให้พี่น้องตกไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองของพวกเขา ที่แสดงชัดเจนที่สุดก็คือ เมื่อคราวที่พลเอกสุรยุทธ์จุฬานนท์เป็น นรม. ของพวก รปห.49 สิ่งแรกที่เขาทำเลยก็คือไปหา คนป่าคืนเมือง (ผรท.) ที่อิสานเหนือและภาคเหนือ ใช้สถานความเป็นลูกลุงคำตันผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพปลดแอกฯมาเป็นหน้ากากบังหน้า และไปพบเพื่นโน้มนำให้คนป่าคืนเมือง (ผรท.) ช่วยรัฐบาลทหารเผด็จการ ก็คงให้ผลประโยชน์บางอย่างกับคนบางคนเท่านั้น
เพราะถ้าเขาจริงใจจริงเขาต้องให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันซิครับนี่ให้ไม่กี่คน แล้วก็ปล่อยคนที่เหลือให้ขมขื่นต่อไปและเป็นการสร้างความขัดแย้งความไม่ไว้วางใจกันและกันอีกด้วย ต่อมาก็มีทหารบางคนเอาเรื่องนี้ไปหากิน เพราะการจะได้รับความช่วยเหลือนี้ต้องเข้าเงื่อนไขนะครับ ต้องมีรายชื่อในทะเบียน
ซึ่งพวกทหารบางคนก็สร้างเงื่อนไขคล้ายๆข้อสอบ เพื่อกรองว่าเป็นคนป่าคืนเมืองจริงหรือไม่ เช่นถามว่า วินัยทปท.สิบข้อมีอะไรบ้าง ชื่อของฝ่ายนำอิสานเหนือมีใคร แล้วมีทหารพิทักษ์กี่คนชื่ออะไร พกปืนอะไร
ทหารบางคนก็เอาไปใช้หากินโดยขายข้อสอบครับ ด้วยเงินแพงๆใครอยากอยู่ในบัญชีรายชื่อ ก็ต้องใช้เงินซื้อข้อสอบ แล้วที่หนักกว่านี้ก็คือ มีคนป่าคืนเมืองบางคนทำตัวเป็นนายหน้าและหาเงินกับพี่น้องเราอย่างอำมหิต บอกว่าสนิทกับทหารบางคนแล้วสามารถนำชื่อเข้าบัญชีได้ แล้วเรียกรับเงิน พร้อมกับเงื่อนไขหักเปอร์เซ็นต์เวลาได้เงินเป็นต้น
จึงอยากเรียนพี่น้องคนป่าคืนเมืองทุกคนว่า การเสียสละชีวิตเลือดเนื้อต่อสู้เพื่อสร้างสังคมไทยที่ไม่มีการกดขี่ขูดรีดกันในอดีตที่ผ่านมาเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก
คนไทยและประวัติศาสตร์ไทยได้จดจารึกเรื่องนี้ไว้อย่างงดงามแล้ว ดังนั้นขอพวกเราทั้งหลายอย่าทำลายความงดงามนี้ลงไปเลยไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
ผมเข้าใจครับว่า หลายคนมีความลำบากในการดำรงชีวิตในปัจจุบัน แต่เชื่อผมเถอะครับว่า อาศัยสติปัญญาความซื่อสัตย์สุจริตต่อสู้สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยลำแข้งของตนเองอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีดีกว่า อย่าไปเชื่อสมุนบริวารของทหารเผด็จการบางคนแล้วหลงไปรับใช้พวกเขาเลย และหากท่านทั้งหลายยังยืนบนหนทางแห่งการต่อสู้เพื่อให้สังคมไทยก้าวไปข้างหน้าดังเช่นที่ท่านหรือครอบครัวของท่านได้ทำมาแล้วในอดีตนี่จะเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจมากกว่าที่จะต้องไปกินน้ำใต้ศอกของทหารบางคน ทั้งๆที่เงินที่จะไปช่วยเหลือพวกท่่านนั้นเป็นเงินของประชาชน ไม่ใช่เงินของ กอ.รมน. เงินของนายทหารเผด็จการหน้าไหนทั้งสิ้น
บางคนประกาศว่า "ไม่เกี่ยวข้องการเมือง" นี่ก็เป็นสิทธิส่วนตัวของท่านทั้งหลายที่ผมเข้าไปก้าวล่วงไม่ได้ แต่ผมขอถามว่า "ไม่เกี่ยวข้องการเมือง" ทำได้จริงหรือไม่ ในสังคมที่มีชนชั้น "มีที่ว่างเปล่าแห่งใดในสังคมไทยบ้าง ที่ไม่มีการเมืองเข้าไปครอบครองอยู่" ในสังคมแห่งชนชั้น คนทุกคนในสังคมนั้น ไม่ก็ต้องเข้าข้างหรือช่วยเหลือชนชั้นหนึ่ง ไม่ก็ต้องลงไม้ลงมือทำร้ายทำลายอีกชนชั้นหนึ่งไม่มีใครอยู่นอกเหนือการเมืองดอกครับ ไม่มีใครอยู่เหนือการต่อสู้ทางชนชั้นดอกครับ

ปฏิเสธเคยเรียกรับเงินจาก ผรท.

พวก ผรท. (ผู้ร้ายไทย หรือผู้รับใช้อำมาตย์ไทย) ที่หน้าศาลรัฐธรรมนูญบางคนใส่ร้ายผมว่า ผมไปเรียกรับเงินจำนวนห้าพันบาทเพื่อแลกกับการประกอบโรคศิลป์ของพวกเขา ผมทำได้อย่างไรครับ เป็นไปไม่ได้เลย ผมไม่เคยเจอหน้าพวกนี้เลยตั้งแต่ออกจากป่ามา และพวกนี้บางคนผมรังเกียจเดียดฉันท์จนเกือบจะกลายเป็นเรื่องขยะแขยงด้วยซ้ำไป ยิ่งการไปรับใช้ระบอบอำมาตย์ยิ่งเป็นสิ่งที่ผมชิงชังรังเกียจอย่างยิ่ง ดังนั้นเรื่องที่ใส่ร้ายผมว่าเรียกรับเงินห้าพันบาทจึงเป็นเรื่องโกหกมดเท็จโดยสิ้นเชิง พวกนี้บางคนตอนอยู่ในป่าผมให้การศึกษาวิชาความรู้สุขศึกษาขั้นต้นให้พวกเขาสอนวิชาภาษไทย สอนวิชาภาษาอังกฤษให้พวกเขาด้วยซ้ำไป
เพียงเพื่อเศษเงินจำนวนไม่มากของอำมาตย์ทำให้พวกนี้ขายตัวขายจิตวิญญาณได้ปานนี้ น่าอเน็จอนาถใจอะไรเช่นนี้หนอ