ที่นี่ตอบโจทย์: ปรองดอง...ในมุมมองของ “ธิดา ถาวรเศรษฐ”



ทีมข่าว นปช.
11 กรกฎาคม 2555




อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ร่วมออกรายการที่นี่ตอบโจทย์ ทางสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2555

เมื่อบ้านเมืองมีการขัดแย้งกันอย่างรุนแรง มีการแตกแยกเป็นสองฝ่ายต่างฝ่ายต่างหาทางออกกันไม่ได้ จึงต้องหาทางออกโดยราชประชาสมาสัยโดยเอาผู้นำทั้ง เหล่ากองทัพ รัฐสภา นายกรัฐมนตรี ทหาร ตำรวจทั้งหมด เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว แล้วขอพระราชวินิจฉัย

นี่มันเป็นการเลอะเทอะ นี่มันเป็นเรื่องการเมืองการปกครองซึ่ง มีระบอบ มีระบบ มีกฎหมาย และรัฐสภารัฐธรรมนูญ ที่พูดแบบนี้แสดงว่าคุณโยนทุกอย่างทิ้งหรอ และนำเรื่องนี้ไปเป็นภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการพูดที่ไร้ความรับผิดชอบ และเลอะเทอะเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ประชาชนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และทุกอย่างจะต้องมีการสนองพระราชองค์การ เพราะฉะนั้นปัญหานี้เป็นปัญหาที่ประชาชนต้องแบกรับไม่ใช่นำไปโยนให้พระเจ้าอยู่หัว ถ้าพูดถึงการเป็นลูกที่ไม่รู้จักโต ทุกอย่างต้องให้พ่อเป็นคนตัดสิน ซึ่งคุณโตจนป่านนี้แล้ว พวกคุณต้องรับผิดชอบเอง คุณต้องอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มีพ่อเป็นมิ่งขวัญ ภาระหน้าที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ ต่างๆพวกคุณจะต้องทำเอง ซึ่ง อ. บอกได้เลยว่า เลอะเทอะและไม่เป็นการรับผิดชอบ

อ.ปราโมทย์ บอกว่าจะมีการฆ่ากันอยู่แล้ว จะให้เกิดสงครามการเมืองกันหรออย่างไร

ใครฆ่าใครจะฆ่าใครใครมีอาวุธ โดยรอบที่แล้วที่มีคนตายก็เพราะมีคนเอาอาวุธไปยิง มีการใช้การทหารแทนที่จะใช้การเมือง ในรอบนี้ถ้าหากเป็นไปตามครรลอง แม้กระทั่งตามรัฐธรรมนูญ 50 ก็ตามถ้าเป็นไปตามครรลองประเทศชาติก็จะเรียบร้อย แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมองว่าไปทำตามครรลองนี้แล้วพวกจะแพ้ ไม่เป็นไปตามครรลอง ประเทศชาติก็จะเสียหายหมด อ. จึงอยากจะบอกว่าจะต้องตรงไปตรงมา นี่ขนาดรัฐธรรมนูญปี 50 คนเสื้อแดงยังมีคนยอมรับ เพราะแม้ว่าประชามิติครั้งนี้แย่มากมีคนหลอกให้รับๆไปก่อน พอจะแก้ก็แก้ไม่ได้ ถึงกระนั้นเราก็ยอมรับ แต่ถ้าตอนนั้นคนเสื้อแดงบอกไม่เอา โดยครั้งนั้นมีการมาหลอก เรายังไม่ทำ เรายอมถอยเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปได้และณ บัดนี้ แม้กระทั้งรัฐธรรมนูญ 50 พวกคุณยังไม่ทำตามเลย คุณไปเติม “อาจจะ” คุณไปเติม “จินตนาการ” แบบนี้คุณมองหรือเปล่าว่าคนตัดสิน คือคนดู ประชาชนจะคิดยังไง คุณไม่มีทางไปแล้วหรืออย่างไร คุณถึงต้องมาอ้าง ราชประชาสมาสัย ซึ่งนี่เป็นการไม่รับผิดชอบผลแห่งการกระทำใดๆ จึงไปโยนเรื่องให้พระเจ้าอยู่หัว

ถ้าวันศุกร์นี้มีคำตัดสินออกมา และไม่ได้เป็นผลดี หรืออาจจะเป็นผลร้ายต่อพรรคเพื่อไทย
นปช. จุดยืนคืออะไร

จุดยืนของ นปช. ที่ผ่านมายังไม่เคยเปลี่ยน โดยประการแรกเรามองว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิรับคำร้องนี้ และตัวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ตุลาการหลายคนไม่ควรที่จะมาเป็น เหตุผลเพราะตัวเองเป็นคนร่าง และตัวเองมีส่วนได้เสีย และมาเป็นพอมาเป็นจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้  เพราะฉะนั้นจุดยืนของ นปช. คือ เราเห็นตุลาการชุดนี้ทำผิด ทำตัวอยู่เหลือรัฐธรรมนูญแทรกแซง อำนาจนิติบัญญัติ และการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ไปยับยั้งรัฐสภา และก็ไปเอาตัวประธานรัฐสภามาไต่สวน ซึ่งถ้าพูดแล้ว ถือว่าเป็นการผิด ระบอบประชาธิปไตย จุดยืนของเรามองว่า ศาลรัฐธรรมนูญทำไม่ถูก เรายื่นถอดถอนตามระบบ ตามรัฐธรรมนูญนี้ เรายื่นไปที่วุฒิสภาเพื่อดำเนินการต่อไป

ถ้าเกิดศาลรัฐธรรมนูญ มีคำตัดสินมาว่า ที่ทำทั้งหมดนี่เป็นการล้มล้างการปกครอง นำไปสู่ยุบพรรคการเมือง ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี นปช. จะเคลื่อนอย่างไร
เริ่มแรกเราไม่เห็นด้วยแน่นอน ว่าจะเป็นการล้มล้างการปกครองตรงไหน ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น มาจนถึงผล ซึ่งมองว่าศาลรัฐธรรมนูญควรที่จะยอมรับการกระทำผิดของคุณเอง สำหรับเราและประชาชนเราต้องปรึกษากัน แต่อย่างหนึ่งจะบอกได้ว่าเราไม่ใช่ฝ่ายกระทำ แต่เรายังเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ ซึ่งเรากำลังมองว่า เขากระทำต่อประชาชน ต่อประเทศชาติระดับไหน ฉะนั้นเราต้องประเมินอีกที นอกจากนั้นเราจะต้องสำรวจความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ ความคิดเห็นของฝ่ายการเมือง ความคิดเห็นของคนเสื้อแดง การขับเคลื่อนของเราจะต้องไม่เป็นการขับเคลื่อนเพื่อทำลายประเทศ ต้องมีลักษณะสร้างสรรค์ และต้องรวมไปกับประชาชนส่วนใหญ่

และในวันศุกร์นี้จะมีการชุมนุมหรือไม่

ในวันศุกร์นี้เราจะไม่มีการชุมนุม แต่หลังจากนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเราต้องการความเป็นเอกภาพในการขับเคลื่อนและต้องการพลังที่ชอบธรรมที่สุด สิ่งที่เราทำจะต้องชอบธรรมที่สุดและจะต้องไม่เป็นการข่มขู่ใดๆ เพราะเราต้องการให้คนส่วนใหญ่ไปกับเรา เพราะปรากฎการแสดงออกของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและการเมืองขณะนี้เป็นระบอบอมาตย์

ใครเป็นคนสร้าง คุณทักษิณ ให้มีอิทธิฤทธิ์ มากขนาดนี้

ฝ่ายอมาตย์

ถ้าอมาตย์อยากสู้กับคุณทักษิณ อ.ธิดา จะให้คำแนะนำอย่างไร

เราจะให้คำปรึกษาในสิ่งที่คุณทำไม่ได้ คือคุณเปลี่ยนจุดยืนมาอยู่ที่ประชาชน คุณต้องเห็นคนเป็นคนเท่ากัน เท่านี้พอและที่เหลือ คือ ความสามารถ เพราะที่คุณทักษิณเป็นอย่างนี้ คุณอย่าไปโทษคุณทักษิณ คุณต้องโทษตัวคุณเองกัน คือระบอบอมาตย์ทำให้คุณทักษิณ มีอิทธิฤทธิ์ได้ขนาดนี้ คุณต้องลองสำรวจตัวเอง เหมือนพรรคประชาธิปัตย์ คุณต้องสำรวจตัวเอง ไม่ใช่วันๆเอาแต่ด่าคนเสื้อแดง และเอาอย่างคนเสื้อแดง ลอกแบบคนเสื้อแดงเพราะที่คุณทักษิณเป็นแบบนี้เพราะระบอบอมาตย์สร้างขึ้นมา และการมองไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา การดูถูกดูหมิ่นประชาชน ไม่ให้ค่าของความเป็นคนเท่ากัน ประเทศจะก้าวต่อไปได้อย่างไร ซึ่งการเลือกตั้งออกมาทุกครั้งประชาชนตัดสินแล้ว จนต่างประเทศเขารู้กันแล้ว ว่าประชาชนต้องการให้ใครมาเป็นรัฐบาล และก็จะไม่เปลี่ยนด้วย นี่คือสิ่งที่ต่างประเทศยอมรับแล้ว ซึ่งระบอบอมาตย์ก็ยอมรับเหมือนกันว่าเป็นเช่นนี้ แต่ก็หาสาระพัดวิธี ที่ยิ่งทำต้นทุนก็ยิ่งเสื่อม

แล้วที่นี้จะทำอย่างไรจะหาทางยอมชอม หรือ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมจนนำไปสู่ความขัดแย้ง

ง่ายที่สุดเลย แต่ทำไม่ได้ คือ รักประชาชน ให้เกียรติประชาชน มองคนเป็นคนเท่ากัน เพราะฉะนั้นถ้าคุณเพียงแต่รักประชาชน และต้องยอมรับว่าคนในสังคมนี้ ต้องใช้มติของมหาชนในการจัดการประเทศนี้ และนี่เองก็คือระบอบประชาธิปไตย

จุดยืนโดยส่วนตัว อ.ธิดา และ นปช. สู่ต่ออำนาจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่างไร

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทำไม่ถูก โดยหลักการ เพราะเราเป็นตัวแทนของคนจำนวนมากถ้าการนำของเราไม่มีหลักการนั้น เราจะนำพาไม่ได้ หลักการของเรานั้นคือว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทำเกินกว่าอำนาจในระบอบประชาธิปไตย เกินกว่ารัฐธรรมนูญ เกินกว่ารัฐสภา และเรายื่นถอดถอนตามระบบจำนวนหนึ่ง และมีอีกจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นการแสดงตัวของประชาชน ว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับศาลรัฐธรรมนูญและต้องการถอดถอน
สรุป เราต้องมีจุดยืนอยู่บนหลักการของเรา เพราะถ้าหากเราทำไม่ถูกประชาชนและคนเสื้อแดงก็จะหันหลังให้กับเรา และการนำของเรา เราจึงต้องระมัดระวังมากคือ ต้องถูกต้อง ต้องเป็นธรรมและไม่ทำให้ประเทศเสียหาย

และทั้งหมดนี้จะไปเยี่ยมศาลหรือไม่

ยังไม่ไปหรอก คือเราก็เป็นผู้ใหญ่ แต่ศาลเองจะเป็นผู้ใหญ่หรือไม่เราก็ไม่รู้ คือเราจะดู และคอยส่งเสียงเตือน แต่ด้านหนึ่งเราจะบอกท่านผู้ชมด้วยว่า ในความขัดแย้งนี้เราไม่ใช่ด้านหลักของความขัดแย้ง ตัวด้านหลักของความขัดแย้ง คือ เป็นผู้มีอำนาจของการกระทำและผู้มีอำนาจแห่งการกระทำนั้นคือผู้กำหนดชะตากรรมของประเทศ เพราะฉะนั้นท่านจะให้ประเทศเป็นอย่างไร ผู้ที่มีอำนาจและกำหนดชะตากรรมของประเทศ ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เรา