พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยภายหลังการหารือ เตรียมความพร้อมด้านการรักษาปลอดภัยบริเวณสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ในวันอ่านผลคำวินิจฉัยคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าจะมีกลุ่มที่สนับสนุน คัดค้าน และให้กำลังใจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เดินทางมาที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จึงได้มีการวางกำลังเพื่อป้องกันหากมีมวลชนบุกรุกเข้ามายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้วางกำลังไว้จำนวน 3 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ชุดตรวจ รวมทั้งสิ้นประมาณ 600 นาย เพื่อดูแลความปลอดภัยเนื่องจากที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยังมีหน่วยงานราชการอีกหลายแห่งตั้งอยู่ด้วย จะมีการเตรียมแผนรับมือเพื่อรักษาสิทธิ์ และอำนวยความสะดวกให้กับข้าราชการที่จะต้องเดินทางมาปฎิบัติงานในวันดังกล่าว ทั้งนี้ตนให้ความมั่นใจว่าขณะนี้ยังไม่การรายงานข่าวว่าจะมีมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ แต่ก็ได้มีการวางกำลังไว้บริเวณรอบนอก จุดตรวจและชุดลาดตระเวน รวมทั้งชุดสืบสวนหาข่าว ทั้งนี้ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ประจำทั้ง 5 จุดเข้า-ออกอาคาร เพื่อคัดกรองบุคคลเข้าออกในวันดังกล่าวอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตามในวันที่ 12 ก.ค. จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน มาประจำที่ศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมกับซักซ้อมเหตุการณ์จำลองเพื่อเตรียมรับมือในวันจริง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3กองร้อย จะพักค้างคืนที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 12 ก.ค. ด้วย และหากเกิดสถานการณ์ที่คับขับก็สามารถเรียกกำลังเสริมที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้ภายใน 1ชั่วโมง
ส่วนการปฎิบัติการครั้งนี้ จะใช้เพียงอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน ประกอบด้วย โล่ หมวก กันชน และแก๊สน้ำตา ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่ใช่ความรุนแรง ในการควบคุมฝูงชน แต่จะปฏิบัติไปตามมาตราหรือระดับความรุนแรงของมวลชน อย่างไรก็ตามได้นำบทเรียนจากเหตุการณ์ในอดีต โดยเฉพาะการควบคุมมวลชนที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 30-31 พ.ค. ที่ผ่านมา นำมาประยุคใช้และปรับชั้นตอนการควบคุมฝูงชนในครั้งนี้ด้วย
ส่วนมาตรการณ์ดูแลรักษาความปลอดภัยขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า ไม่ได้เพิ่มกำลังหรือต้องจัดเจ้าหน้าที่ไปอารักขา เนื่องจากตุลาการมีเจ้ารักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว การเข้าออก ก็มีช่องทางพิเศษ แต่หากมีมวลชนปิดล้อม ทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะเคลียร์ช่องทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทางตุลาการได้ออกนอกพื้นที่ดังกล่าวอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะ ไม่น่าจะเกิดความวุ่นวายใดๆ แต่หากมีความวุ่นวายเกิดขึ้นก็มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถรับมือและควบคุมสถานการณ์ได้แต่ทั้งหมดนี้ก็ขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบของกฎหมายบ้านเมือง
