“มาร์ค” แจงไม่ไปศาลในฐานะพยาน ปมมาตรา 68 เหตุศาลไม่เรียก ยันจุดยืนเดิมแก้รัฐธรรมนูญได้ แต่ไม่ใช่ แก้ทิ้งทั้งฉบับ...
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ทางบลูสกายแชนแนลทีวี ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เปิดการไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้อง ในกรณีคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ ซึ่งมีชื่อตนเองเป็นพยานฝ่ายผู้ร้องว่า ตนถูกอ้างเป็นพยาน ศาลก็ส่งหนังสือมาบอกมีคำสั่งให้ไปศาลในวันที่ 5 ก.ค. แล้วก็ให้ส่งคำชี้แจงเป็นเอกสาร ก่อนวันจันทร์ที่ 2 ก.ค. ภายในวันที่ 2 ก.ค. จึงได้ส่งคำชี้แจงเอกสารไปเรียบร้อย ศาลก็รับไว้ แต่ว่าเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ก็มีการประชุมของศาลรัฐธรรมนูญ และได้กำหนดว่าการที่จะเรียกพยานมาไต่สวนนั้น จะเอาใครอย่างไรบ้าง โดยระบุชื่อมาแล้ว พยานฝ่ายผู้ร้อง มี อ.สุรพล นิติไกรพจน์ ส่วนวันที่ 6 ก.ค. ก็จะมีตัวแทนของผู้ถูกร้อง ก็มีคุณโภคิน พลกุล ก็แปลว่าคนอื่นก็ไม่ต้องไป ตนก็ไม่ต้องไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีสื่อบางสื่อระบุว่าตนเคยให้สัมภาษณ์ว่า ให้รับรัฐธรรมนูญไปก่อน แล้วไปแก้ไข ทำไมตอนนี้มาคัดค้านอะไรนั้น กรณีนี้อยากชี้แจงว่า
1. ที่บอกว่าให้รับไปก่อน แล้วก็แก้ไข แต่ไม่ได้บอกว่าให้รับไปก่อน แล้วก็มาล้มทั้งฉบับ
2. การแก้ไขก็มีการทำไปแล้ว 2 ครั้ง 2 ฉบับ แล้วก็มีประเด็นไหนที่คิดว่าอยากจะแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เช่น อยากจะเปลี่ยนว่า สมาชิกวุฒิสภา ที่มาอำนาจอะไรต่างๆ เป็นอย่างไร ก็เสนอมา ตนก็ไม่เคยคัดค้าน หรือบอกว่าแก้ไม่ได้
ที่ตนไม่เสนอแก้ ในเวลาที่เขาไปสรุปมาบางเรื่อง เพราะเห็นว่าเป็นการแก้แล้วเพิ่มอำนาจให้กับตัวเอง ก็ไม่ทำ ซึ่งไม่ได้มีตรงไหนเลยที่ไปบอกว่าแก้ไขไม่ได้ แต่รูปแบบที่ปัจจุบันกำลังจะทำแล้วไปแสดงเจตนาชัดว่า จะไปก้าวล่วง คือ ไปลดอำนาจของฝ่ายตุลาการ ลดอำนาจการตรวจสอบ ยืนยันว่าตนไม่เห็นด้วย มีเท่านั้น และตนไม่ได้ไปขัดอะไรกับจุดยืนเดิมที่เคยพูดไว้เลย