"เพื่อไทย" ยืนกรานไม่ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรธน. ย้ำต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุดก่อน

ข่าวสดออนไลน์

14 กรกฎาคม 2555

วันที่ 14 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคเพื่อไทยได้หารือภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง โดยเห็นว่า การร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ผู้ร้องยังต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุดก่อนส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มิเช่นนั้นอนาคตต้องวุ่นวายในการพิจารณากฎหมายต่างๆ หากฝ่ายตรงข้ามต้องการเตะถ่วงก็จะไปร้องค้านต่อศาลรัฐธรรมนูญ หากร้องสักพันเรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญจะทำงานไหวหรือไม่ นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่เห็นด้วยที่ศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาพิจารณาในมาตรา 291 เพราะมาตราดังกล่าวไม่ได้ระบุว่า ต้องทำประชามติก่อนยกร่างรัฐธรรมนูญ อีกทั้งรัฐธรรมนูญปี 50 ก็ยกร่างเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยทำประชามติ ซึ่งสวนทางกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

นายจิรายุกล่าวว่า พรรคยังเห็นว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีความสับสน เพราะศาลไม่กล้าฟันธงโดยใช้คำว่า ควรลงประชามติ ซึ่งคำว่า “ควร”ต้องตีความตามกฎหมาย ไม่มีสภาพบังคับใช้ตามกฎหมาย ไม่แน่ใจว่าคำว่า “ควร” จะต้องทำหรือไม่ทำ อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยพร้อมปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ส่วนความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญต้องรอการประชุมพรรคในวันที่ 16 ก.ค.ว่าจะมีทางออกอย่างไร ขณะนี้มีสามทางออกคือ 1.การเดินหน้าลงมติร่างรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ต่อ 2.การทำประชามติก่อน 3.การแก้ไขเป็นรายมาตรา ซึ่งส.ส.หลายคนแสดงความเห็นว่า หากจะแก้รายมาตราและควรแก้มาตรา 68 เป็นมาตราแรก ตนจะเสนอให้แก้เลยว่า การยื่นตามมาตราดังกล่าวต้องทำผ่านอัยการสูงสุดเท่านั้น ไม่สามารถยื่นโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ทุกอย่างจะได้มีความชัดเจน ส่วนตัวเห็นว่า ทางออกที่ดีสุดคือ การแก้ไขเป็นรายมาตรา โดยเฉพาะมาตราที่เกี่ยวกับองค์กรอิสระที่มีปัญหา ส่วนการเดินหน้าลงมติวาระ 3 ต่อไปคงไม่เหมาะ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ยังไม่ปกติ ขณะที่การทำประชามติก็สิ้นเปลืองงบประมาณเกินไป

นายจิรายุ กล่าวว่า นอกจากนี้คณะกรรมการของพรรคที่ได้ติดตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญยังพบความผิดปกติในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ที่ดัชนีหุ้นตกลงไปเกือบ 20 จุด เพราะศาลรัฐธรรมนูญไปอ่านคำวินิจฉัยเกือบเวลา 15.00 น. แต่พออ่านคำวินิจฉัยจบ ตลาดหุ้นก็ดีดขึ้น 12 จุด ซึ่งพบว่า มีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มไปช้อนซื้อหุ้นอสังหาริมทรัพย์และพลังงานในช่วงเวลาดังกล่าวจำนวนมากผ่านทางโบรกเกอร์ โดยอาจมีการวางแผนปล่อยข่าวการยุบพรรค แล้วมาช้อนซื้อหุ้น ขอให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ไปตรวจสอบด้วย มีคนได้ประโยชน์จากการช้อนซื้อหุ้นในช่วงเวลาดังกล่าวหรือไม่ เพราะมีนอมินีนักการเมืองบางคนไปจดกระดานหลักทรัพย์และซื้อหุ้นล็อตใหญ่ในช่วงหุ้นตก

นายจิรายุ กล่าวว่า ส่วนในวันที่ 17 ก.ค. สภาผู้แทนราษฎร โดยนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเรียกประชุมส.ส. 246 คน ของพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการอย่างไรกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยนำความเห็นจากที่ประชุมส.ส.เพื่อไทยในวันที่ 16 ก.ค.มาร่วมพิจารณาด้วย ขณะเดียวกันก็ทราบประธานวุฒิสภาก็จะเรียกประชุมส.ว.เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวเช่นเดียวกัน