จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน กรณีมีผู้ร้องว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง เป็นประเด็นสำคัญต่อการเมืองไทยและส่งผลต่อเสถียรภาพของการเมือง เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่ติดตามข้อมูลข่าวสารการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,389 คน (เป็นผู้ที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ 1,176 คน ผู้ที่ไม่ได้ติดตาม 213 คน) ระหว่างวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2555 สรุปผลดังนี้
1. การติดตามข่าวการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญของประชาชน ผลการสำรวจ
- อันดับ 1 ติดตามอยู่บ้าง 34.99% เพราะอยากฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย จะได้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น, สื่อต่างๆ มีการนำเสนออย่างต่อเนื่อง, มีผลต่อสถานการณ์บ้านเมือง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่ค่อยได้ติดตาม 28.29% เพราะไม่สะดวก ต้องทำงาน, ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง, รอฟังคำตัดสินในวันที่ 13 ก.ค. ฯลฯ - อันดับ 3 ติดตามโดยตลอด 21.38% เพราะอยากรู้ข้อเท็จจริง, รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศเกี่ยวข้องกับของคนไทยทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่นักการเมืองเท่านั้น ฯลฯ
- อันดับ 4 ไม่ได้ติดตามเลย 15.34 % เพราะเบื่อ ไม่ชอบ ไม่สนใจการเมือง มีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง หาเรื่องโจมตีกันไปมา ฯลฯ
2. ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับประโยชน์จากการติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คือ
- อันดับ 1 ได้รับรู้ข้อเท็จจริงและเห็นท่าทีของทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง/มีความเข้าใจเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากขึ้น 63.22%
- อันดับ 2 ได้รับรู้ขั้นตอนและกระบวนการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ 21.24%
- อันดับ 3 มีข้อมูลเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น/ผลกระทบหลังจากการพิจารณาเสร็จสิ้นลง 15.54%
3. ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ คิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 หรือไม่ อย่างไร
- อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 45.93% เพราะยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องนี้มากพอ ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ, ต่างคนก็ต่างความคิดกันไป, รอฟังคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญดีกว่า ฯลฯ
- อันดับ 2 ไม่เป็นการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 29.66% เพราะเป็นเพียงการแก้ไขบางมาตราเท่านั้น ไม่มีเนื้อหาที่ระบุว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง, คิดว่าเป็นเรื่องที่ผู้ร้องตีตนไปก่อนไข้, เป็นการทำตามสัญญาที่รัฐบาลได้ให้ไว้กับประชาชน ฯลฯ
- อันดับ 3 เป็นการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 24.41% เพราะเหตุผลประกอบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่มีน้ำหนักพอ เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์และช่วยเหลือพวกพ้องมากกว่า ฯลฯ
- อันดับ 1 ยังคงมีแต่การทะเลาะเบาะแว้งแตกแยกมุ่งแต่การเอาชนะคะคานกัน/เห็นแก่ประโยชน์และพวกพ้อง 46.88%
- อันดับ 2 การพิจารณาคดีนี้ต้องอาศัยความยุติธรรม และความเด็ดขาด/ศาลรัฐธรรมนูญแต่ละท่านเป็นที่พึ่ง และเป็นความหวังของประชาชน 29.46%
อันดับ 3 สภาพการเมืองที่ย่ำแย่มาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักการเมือง ใช้อำนาจในทางที่ผิดการคุกคามจากนักการเมือง 9.82% - อันดับ 4 การเมือง ณ วันนี้มีความเกี่ยวข้องโยงใยแทบจะทุกเรื่อง พยายามที่จะเข้าไปแทรกแซงในทุกหน่วยงาน แม้กระทั่งกระบวนการยุติธรรมก็ไม่เว้น 8.04%
- อันดับ 5 การตัดสินครั้งนี้ อาจส่งผลให้ประชาชนมีการชุมนุม หรือเกิดการเคลื่อนไหวทางการเมือง 5.80%
- อันดับ 1 เหมือนเดิม 59.49% เพราะยังคงมีเรื่องผลประโยชน์และความขัดแย้งทางการเมืองอยู่, การเคลื่อนไหว ชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มต่างๆยังมีให้เห็น ฯลฯ
- อันดับ 2 แย่ลง 26.06% เพราะถึงแม้การตัดสินจะสิ้นสุดลง เชื่อว่าเรื่องนี้ยังคงมีการถกเถียงกันไม่จบสิ้น, ยังมีอีกหลายประเด็น ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและยังเป็นปัญหาที่ค้างคาอยู่, เห็นได้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งมีความรุนแรงมากขึ้น ฯลฯ
- อันดับ 3 ดีขึ้น 14.45% เพราะถึงแม้ว่าผลจะออกมาอย่างไร ทุกคนต้องยอมรับและเคารพในการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ, ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเองต่อไปเพื่อเป็นการพิสูจน์ผลงานให้ประชาชนได้เห็น ฯลฯ