นนทบุรี 8 ก.ค.- ที่ริเวอร์ ไลน์ เพลส นนทบุรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ออกแถลงการณ์เพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง ภายใต้หัวข้อ “ปัญหารัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมาตรการแก้ไข” ทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำให้ไม่เกิดความขัดแย้งบานปลาย คือวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการกระทำที่ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือไม่นั้น ศาลรัฐธรรมนูญจะหยุดความขัดแย้งได้โดยการไม่พิจารณาคำร้องดังกล่าว เพราะไม่ว่าจะตัดสินออกมาทางใด เชื่อว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งและสร้างความไม่พอใจให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน
พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เป็นห่วงว่าวงรอบความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเมื่อ 40 ปีที่แล้ว จะวนกลับมา ถึงขั้นที่ประชาชนจะนำอาวุธมาทำร้ายกัน ซึ่งตนไม่อยากเห็นเช่นนี้ ขณะนี้ทุกฝ่ายต้องยอมรับว่าไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริง ดังนั้นศาลควรชี้แจงทำความเข้าใจ และทำให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริงในบ้านเมือง ส่วนจะได้รับการตอบสนองกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตนไม่ได้คาดหวังเพราะเป็นครั้งแรกที่ออกมาแสดงความเห็น ซึ่งศาลอาจบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ก็ได้ แต่อย่างน้อยถือเป็นการช่วยสะกิดให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงปัญหา เพราะปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแม้ว่าจะร่าง รธน.ใหม่ขึ้นมา ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะถูกฉีกอีก ตนยังพูดเล่น ๆ ว่าถ้าร่างใหม่คราวนี้ให้ร่าง 2 ฉบับ เพื่อป้องกันการถูกฉีก
ทางด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวิจิฉัยกรณีมีผู้ร้องให้ตรวจสอบกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 13 ก.ค. ว่า ทุกอย่างอยู่ที่คำตัดสิน ถ้ามีเหตุมีผลทุกคนก็ยอมรับได้ ถ้าไม่มีเหตุผล จะมีปัญหาตามมาแน่ ดังนั้นหากเขียนคำวินิจฉัยออกมาฝืนความรู้สึกประชาชน จะนำไปสู่การต่อต้านของประชาชน นอกจากนี้การที่มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 คน แสดงความต้องการถอนตัว ยังเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้มีข้อกังขาว่าตุลาการจะตัดสินอย่างไร
ต่อข้อถามว่าหากมีการตัดสินยุบพรรคจะกระทบกับสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รัฐบาลไม่เกี่ยว ขอให้เลิกคิดว่าจะเป็นอย่างนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรียังอยู่ในตำแหน่งไม่มีผลกระทบกับเสถียรภาพรัฐบาลแน่ เมื่อรัฐบาลยังอยู่จะไปตั้งรัฐบาลแข่งได้อย่างไร ต่อข้อถามว่า พล.อ.ชวลิต เสนอให้ชะลอการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติออกไปก่อน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นความเห็นของผู้ใหญ่ ไม่ขอแสดงความคิดเห็น
ขณะเดียวกัน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม เรียกร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดมาตรา 68 หรือไม่ โดยขอให้ดูกระแสสังคม ขณะที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยยึดความสงบเรียบร้อยและสถานการณ์การเมืองเป็นหลัก ว่า เป็นความเห็นที่ไม่ถูกต้อง เพราะศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาตามหลักข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ไม่ควรสนใจกระแสสังคม ซึ่งไม่สามารถยืนยันความผิดถูกหรือเที่ยงธรรมได้ เพราะความถูกต้องของกฎหมายบ้านเมืองกับสถานการณ์ทางการเมือง ต้องแยกแยะเป็นคนละส่วนกัน ถ้าจะยึดกระแสสังคมหรือคำนึงถึงความวุ่นวาย บ้านเมืองก็ไม่สามารถที่จะดำรงหลักนิติรัฐ นิติธรรมได้