ในการประชุมกรรมาธิการพิจารณางบประมาณกระทรวงกลาโหมประจำปี 2556 ซึ่งมี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.เพื่อไทย เป็นประธาน โดยมีผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และปลัดกระทรวงกลาโหมเข้าชี้แจงด้วย ได้เกิดความวุ่นวายพักใหญ่ เมื่อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยกล่าวในที่ประชุมว่า ขณะนี้สังคมมองทหารในภาพลบ 2 เรื่องคือ ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่สามารรถแก้ปัญหาได้เพราะทหารพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อที่จะของบประมาณมากขึ้น และ เหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 10 เม.ย. 53 และ วันที่ 13-19 พ.ค. 53 เจ้าหน้าที่ทหารใช้กำลังรุนแรง โดยการเอา สไนเปอร์เอาปืนมายิงคนไม่เลือกหน้า ไม่เว้นแม้แต่คนขับแท็กซี่ คนขี่จักรยาน หรือคนซื้อของในร้านสะดวกซื้อ แล้วบอกว่ามีชายชุดดำยิงประชาชน เป็นเหตุการที่น่าเศร้า ทำให้กรรมาธิการหลายคนลุกขึ้นประท้วงโดยเฉพาะนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวว่า คำพูดของนายก่อแก้วเป็นการพูดนอกเรื่องที่พิจารณากันอยู่ไม่ควรพูดในห้องประชุมนี้ ทำให้เสียเวลา ถ้าประธานยังปล่อยให้นายก่อแก้วยังพูดอยู่ต่อไป คณะกรรมาธิการในส่วนของฝ่ายค้านจะเดินออกนอกห้องประชุม ซึ่งจะทำให้องก์ประชุมไม่ครบ
หลังจากนั้น นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ กทม. และ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล เสนอให้นับองก์ประชุม พ.อ.อภิวันท์ จึงแก้ปัญหาโดยการสั่งพักการประชุม 15 นาทีเพื่อหารือการวางกรอบการพิจารณา ทำให้ผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และปลัดกระทรวงกลาโหม ทยอยเดินออกจากห้องประชุมไปยังห้องรับรอง
ระหว่างการพักการประชุม นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นำหนังสือที่มีข้อความระบุว่า นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำคนเสื้อแดง ปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันที่ 24 มิ.ย. 55 ว่า จะเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ให้ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแบบประเทศเพื่อนบ้าน ออกมาเปิดเผยและแจกให้ผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ พร้อมเรียกร้องให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือไม่
จากนั้นการประชุมกรรมาธิการงบประมาณจึงเริ่มดำเนินการต่อ โดยนายก่อแก้ว ชี้แจงว่า ส่วนตัวมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าใครต่อสู้โดยไม่เอาสถาบันฯ ก็ไม่เห็นด้วย ขณะนี้เป็นการเข้าวาระการพิจารณางบประมาณต่อ
