ท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมือง 2 ขั้วที่เดินมาถึงจุดเขม็งเกลียว ระหว่างนั้นก็มีความเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาด คือกรณีการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "นักรบประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" หรือกลุ่มอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเพื่อประชาชน (ผรท.) กันถึงสองครั้งสองครา
ครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ระดมคนอำเภอต่างๆ ใน จ.ขอนแก่น และใกล้เคียง ตั้งเวทีปราศรัยและออกแถลงการณ์สนับสนุนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้องคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกล่าวโจมตีคนของพรรคเพื่อไทยที่เคยเข้าป่าร่วมอุดมการณ์กับ ผรท. อย่างนายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ต่อต้านคำสั่งศาลให้รัฐสภาชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3
อีกครั้งคือการชุมนุมเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เปลี่ยนเวทีมาจัดที่สนามทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี เมืองหลวงของคนเสื้อแดง
ครั้งนี้เรียกตัวเองให้ดูขลังกว่าเดิมว่า "กองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย" ระดมคนจากหลายจังหวัดภาคอีสานมาชุมนุมปกป้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ภายใต้การนำของ นายทองดี นามแสนโคตร หรือสหายพิชิต ชาวบ้านหนองแวงโซ่ อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ผู้ประสานงานกลุ่ม ที่ออกโรงเชิญชวนสมาชิกตามพื้นที่ต่างๆ เข้ามารายงานตัวกลับเข้าสู่กรมกอง และ นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 ที่ขึ้นเวทีปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
วอร์มเครื่องเช็กชื่อกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายทองดี จึงนำแนวร่วม 200 คนเคลื่อนตัวเข้ากรุงเทพฯ ไปปักหลักชุมนุมให้กำลังใจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา
แต่ละคนจัดเต็มในชุดทหารปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย (ทปท.) ถือธงแดงผืนใหญ่ มีดาวแดงขลิบขอบเหลืองตรงกลาง เดินกันขวักไขว่อยู่ด้านหน้าสำนักงานศาลฯ ถ.แจ้งวัฒนะ จนเสร็จการไต่สวนคดี
อย่างไรก็ตามการแสดงตัวของกลุ่มดังกล่าวเกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง กระทั่งสหายตัวจริงอย่าง นายปราโมทย์ พรหมพินิจ หรือ "สหายรับรอง" ในฐานะประธานกลุ่ม ผรท. ต้องออกมาปรากฏตัว นัดประชุมสมาชิก 5 พันคนจาก 19 จังหวัดภาคอีสานและเหนือตอนบน ที่ศาลาการเปรียญวัดจำปาทอง บ.โพนตูม หมู่ 4 ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ประกาศจุดยืนว่าการเคลื่อนไหวปกป้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่นโยบายและเจตนารมณ์ของกลุ่ม ผรท.
ระบุด้วยว่า กลุ่มของ นายทองดี มีสมาชิกผรท.อยู่เพียงไม่กี่คน พวกนั้นไม่ใช่พลัง ไม่ใช่ ผรท. ตัวจริง ซึ่งเป็นคนละกลุ่ม พวกตนไม่ให้ความสนใจอยู่แล้ว
"ผรท. แท้จริงจะไม่เกี่ยวข้องการเมืองเด็ดขาด เพราะการเมืองจะต้องแก้ด้วยการเมือง" สหายรับรองยืนยันหนักแน่น
พร้อมกันนี้ยังมีถ้อยแถลงของ ผรท. ตัวจริง ซึ่งเป็นองค์กรในเครือข่ายของ "ธง แจ่มศรี" หรือ สหายประชา ธัญญไพบูลย์ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ชี้แจงข้อเท็จจริงและย้ำจุดยืนการต่อสู้ของ ผรท. ไว้ดังนี้
ถ้อยแถลงผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เพื่อประชาชน
ปรากฏการณ์เมื่อวันที่ 8 และ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจำนวนหนึ่งเรียกตนเองว่า "นักรบประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ออกมาชุมนุมกันที่ขอนแก่น และอุดรธานี ตามลำดับ และออกแถลงการณ์โจมตี คุณจาตุรนต์ ฉายแสง อ.ธิดา และ หมอเหวง (โตจิราการ) เรื่องคัดค้านคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ
จำนวนคนเข้าร่วมมีพอสมควร แต่ไม่ได้มากมายเหมือนบางสื่อโหมกระพือ ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านสวมบทบาทเป็น ผรท. และมีทหารจำนวนหนึ่งแต่งกายชุดทปท.ร่วมขบวนด้วย หลายคนเป็นเพื่อนของพวกเราเอง
นี่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เป็นสีสันและมีนัยทางการเมืองที่น่าจับตามอง "ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เพื่อประชาชน" กลุ่มของเราที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ กำลังเฝ้าติดตามปรากฏการณ์อันเป็นสีสันแห่งประชาธิปไตยแบบไทย ไทย นี้อย่างพินิจพิเคราะห์
บัดนี้กลุ่มชนชั้นและชั้นชนต่างๆ ในสังคมได้แสดงจุดยืนของตนแล้วอย่างเปิดเผย เหลือเพียงแต่กาลเวลาและสังคม จะพิสูจน์ความถูก-ผิดเท่านั้น เสียตรงที่หลังฉากบนเวทีนั้น เราเห็นเงาตะคุ่มตะคุ่มของบุคคลบางกลุ่มยังไม่ชัดเจนนัก
ร้ายยิ่งกว่านั้น พวกเขายังแอบอ้างว่า ลุงธง (ธง แจ่มศรี) เป็นผู้สั่งให้จัดการชุมนุมในครั้งนี้
เราขอแสดงความเสียใจกับกลุ่ม "นักรบประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่กล้าแสดงออกอย่างเปิดเผยและไม่กังวลต่อความรู้สึกของมวลชนที่ต่อสู้เพื่อประชา ธิปไตย และประณามการกระทำดังกล่าวที่แอบอ้างลุง เอาเกียรติภูมินักรบประชาชนไปรับใช้พวกอำมาตย์ มันเป็นการย่ำยีวีรชนปฏิวัติของเราที่ได้เสียสละชีวิตในการต่อสู้ที่ผ่านมาอย่างบัดซบที่สุด
เราขอชื่นชม คุณจาตุรนต์ ฉายแสง (สหายสุภาพ) ที่ยืนหยัดในอุดมการณ์ประชาธิปไตย กล้าชี้ถูกชี้ผิดต่อคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกลไกอำนาจรัฐปฏิกิริยาล้าหลังอย่างไม่หวั่นไหวโลเล
ขอชื่นชม อ.ธิดา (สหายปูน) และนายแพทย์เหวง (สหายเข้ม) ที่ยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับมวลชนอย่างเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว
ขอชื่นชมนักวิชาการ นักการเมือง ครูบาอาจารย์ที่ใช้ความรู้ความสามารถ ความกล้าหาญ ตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์ระบบการปกครองที่มีความไม่เป็นธรรมตามครรลองประชาธิปไตย
แสดงให้เห็นว่าผู้คนในสังคมได้ตื่นตัวแล้ว ยากที่ใครๆ จะชักจูงได้ นอกจากพวกขายอุดมการณ์ที่ออกมาชุมนุมทวนกระแส หวังจะใช้มวลชนฆ่ามวลชน ใช้ ผรท. ที่ขายอุดมการณ์ฆ่า ผรท. ที่ยึดมั่นอุดมการณ์
ขอให้ท่านเชื่อเถิดว่า มีแต่มวลชนเท่านั้นจึงจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ สิ่งปฏิกูลทั้งหลายถ้าไม้กวาดไม่ถึง มันย่อมไม่หนีไปเอง ขอให้ยืนหยัดต่อสู้และใช้ไม้กวาดมวลชน กวาดสิ่งปฏิกูลสังคมลงถังขยะปฏิวัติศาสตร์ให้จงได้
พวกเราได้รับการอบรมบ่มสอนจากพรรคตลอดมา ให้รับใช้ประชาชน ฉะนั้น หากการต่อสู้นั้นเพื่อประชาธิปไตยของประชาชนแล้ว เราจะยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับท่านจนถึงที่สุด
สังคมไทยของเราอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย การต่อสู้ระหว่างพลังประชาธิปไตยกับพลังอำมาตยาธิปไตยจะไม่หยุดนิ่ง มีแต่จะยกระดับสูงขึ้น สูงขึ้น จนกว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะแก้ตกไป
เราเชื่อว่าพลังที่เกิดใหม่ เป็นธรรมและก้าวหน้า จะเข้าแทนที่พลังปฏิกิริยาที่ไม่เป็นธรรมที่เน่าเฟะและล้าหลังอย่างแน่นอน ดังปรากฏในประวัติศาสตร์โลกทุกยุคทุกสมัย
นั่นเป็นกฎวิวัฒนาการของสังคมมนุษย์ซึ่งจะไม่หันเหไปตามเจตนาของคนเรา
กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เพื่อประชาชน ขอแจ้งให้กลุ่ม "นักรบประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่ออกมาต้านกระแสให้ทราบด้วยว่า
เราลงจากเขาคืนสู่เมืองเพื่อร่วมพัฒนาชาติไทยให้ก้าวหน้าเป็นประชาธิปไตยตามอุดมการณ์ของเรา ขอให้พวกท่าน นักรบประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกลับสู่กรมกองของพวกปฏิกิริยาเถิด ไม่ต้องมาประกาศชักชวน ส่วนพวกเราจะยืนหยัดต่อสู้อยู่กับมวลชนจนกว่าจะได้รับชัยชนะ
