ปรากฏการณ์ "จอฟ้า" ประชัน "จอแดง" หรือเวทีพลพรรค ปชป. ปะทะเวทีคนเสื้อแดง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยังมีควันหลงให้พูดถึงในประเด็น "สื่อการเมือง"
ณ อาคารธันเดอร์โดม เมืองทองธานี คนเสื้อแดงแห่แหนกันไปร่วมงาน "ครึ่งทศวรรษความจริงวันนี้" ของสามเกลอเจ้าเก่าคือ วีระกานต์ มุสิกพงศ์ จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
เมื่อต้นปี 2550 "วีระ-จักรภพ-จตุพร-ก่อแก้ว" ได้ร่วมกันจัดตั้งสถานีทีวีดาวเทียม "พีทีวี" แต่ออกอากาศไม่ได้ เพราะรัฐบาลสุรยุทธ์ไม่อนุญาต และ คมช. ก็ขวางเต็มที่
23 มีนาคม 2550 คณะผู้ก่อการพีทีวี จึงตัดสินใจจัดการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเป็นครั้งแรก และพัฒนาเป็นองค์กร "แนวร่วมประชาชนขับไล่เผด็จการ" (นปก.)
21 กรกฎาคม 2551 "วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ" จัดรายการ "ความจริงวันนี้" เป็นครั้งแรกทางช่องเอ็นบีที ตามนโยบายของ จักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลสมัคร ซึ่งรายการดังกล่าวได้ย้ายออกจากช่องเอ็นบีที มาออกอากาศทางช่อง "ดี-สเตชั่น" เมื่อการเมืองพลิกจากขั้วทักษิณเป็นขั้วประชาธิปัตย์
รายการรีเทิร์นความจริงวันนี้ ถ่ายทอดสดผ่านทีวีช่อง "เอเชียอัพเดท" ถือว่าถูกที่ถูกเวลา เพราะห้วงเวลานี้ คนเสื้อแดงไม่พอใจท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ส่งสัญญาณ "เกี้ยเซียะอำมาตย์" เมื่องานครบรอบ 2 ปี เหตุการณ์พฤษภาเลือด !
ในวันเดียวกัน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็วิพากษ์สื่อทีวีของคนเสื้อแดงอย่างตรงไปตรงมา ว่าต้องปรับผังรายการใหม่ ไม่เอารายการขายยาปลุกเซ็กส์หรือขายเครื่องรางของขลัง
เนื่องจากคู่แข่ง "บลูสกาย แชนแนล" ทีวีของคนเสื้อสีฟ้ามาแรง และมีผังรายการทางการเมืองที่น่าสนใจกว่าทีวีคนเสื้อแดง
"บลูสกายเรตติ้งเขาดีดสูงมาก ผู้บริหารสถานีต้องรีบศึกษาเรื่องนี้..." พรศักดิ์ ศรีละมุล พิธีกรปากกล้าแห่งสถานีทีวีดาวเทียมช่อง "เอเชียอัพเดท" พูดผ่านหน้าจอแดงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จึงไม่แปลกใจในการจัดการปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลานคนเมืองเมื่อวันเสาร์ ผู้ควบคุมเวทีได้ให้เครดิตรายการ "สายล่อฟ้า" สุดร้อนแรงของช่องบลูสกาย ด้วยการใช้สัญลักษณ์ "สายล่อฟ้า" บนฉากหลัง และแจกผ้าคาดหัวสีฟ้า ที่มีข้อความว่าสายล่อฟ้าหลายพันชิ้น แถมถ่ายทอดสดผ่านช่องบลูสกาย
ประหนึ่งว่าการชุมนุมที่ลานคนเมืองวันนั้น เป็นรายการ "สายล่อฟ้าสัญจร" เหมือนช่วงหนึ่งที่กลุ่ม นปก.จัดรายการ "ความจริงวันนี้สัญจร" ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และสนามศุภชลาศัย
ต้นปีนี้ "จอฟ้า" เพิ่งปรากฏตัวบนแพลตฟอร์มจานส้มไอพีเอ็ม ช่อง 42 โดยมีจุดขายอยู่ที่รายการ "ฟ้าวันใหม่กับอภิสิทธิ์" และรายการ "สายล่อฟ้า" โดย ศิริโชค โสภา ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต และ เทพไท เสนพงศ์
กรณี "โฟร์ซีซั่นส์ ได้ทำให้รายการสายล่อฟ้าเป็นที่สนใจของผู้คนทั้งประเทศ ซึ่งปฏิกิริยาต่อรายการดังกล่าว มีทั้งบวกและลบ
จริงๆ แล้ว ช่องบลูสกายมีข้อจำกัดในการออกอากาศ เพราะจานส้มไอพีเอ็มเป็นระบบเคยู แบนด์ (จานทึบ) ยังมีผู้ชมไม่มากนัก และเป็นคนที่อยู่ในตัวเมืองเสียเป็นส่วนใหญ่ ผิดกับช่องเอเชียอัพเดท ที่ส่งสัญญาณผ่านไทยคม 5 ระบบซีแบนด์ (จานดำ) ที่มีฐานผู้ชมกว้างใหญ่ไพศาล
ในที่สุด ช่องบลูสกายก็ออกอากาศผ่านดาวเทียมไทยคม 5 เมื่อส่งสัญญาณผ่านช่อง "อายุยืน" ทำให้จอฟ้าขยายฐานผู้ชมเข้าสู่เขตชนบทเช่นเดียวกับจอแดง
จอฟ้าอีกสาขาหนึ่งที่เปิดตัวไล่เลี่ยกันคือช่อง "ไทยทีวีดี" บนแพลตฟอร์มจานส้มไอพีเอ็ม ช่อง 30 ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเท่ากับช่องบลูสกาย เพราะไม่ได้ออกอากาศทางไทยคม 5 และคอนเทนท์ยังไม่หลากหลาย
การเคลื่อนไหวต้าน พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ผ่านมา ช่องบลูสกายได้เข้ามามีบทบาทในการชุมนุมบนท้องถนน โดยใช้ "กลุ่มบลูสกายสายล่อฟ้า" เข้าร่วมแสดงพลังร่วมกับ "กลุ่มเสื้อหลากสี" ของ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ซึ่งตั้งเวทีอยู่คนละด้านกับเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นอกจากนี้ ช่องบลูสกายยังจัดรายการพิเศษ "เกาะติดสถานการณ์" ทั้งในสภาและนอกสภา โดยเฉพาะช่วงชุลมุนวุ่นวายในสภา พิธีกรรายการพิเศษของช่องบลูสกายได้ให้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ "นักข่าวอาสา" รายงานสดจากที่เกิดเหตุแบบทันทีทันใด
เช่นเดียวกับสถานีทีวี "เอเชียอัพเดท" ที่ได้เสนอรายงานสดจากสภา โดยมี ส.ส.เพื่อไทย เป็นคนทำหน้าที่ถ่ายคลิป และรายงานเหตุการณ์แบบนาทีต่อนาที
จอแดง หรือ "เอเชียอัพเดท" เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2553 ซึ่งในการเลือกตั้ง ส.ส.ปีที่แล้ว จอแดงมีส่วนทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น
รายการเรตติ้งสูงทางจอแดงก็มี "ชูธง" จัดโดย จตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งก่อนหน้านั้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ร่วมจัดรายการด้วย แต่เมื่อ "เต้น" เป็นรัฐมนตรี จึงมอบให้ "ตู่" นั่งพูดคนเดียว
รองลงมาคือรายการ "ตรงไปตรงมา" โดย อดิศร เพียงเกษ และเพื่อนพ้องคนเดือนตุลาเสื้อแดง และรายการ "เหลียวหลังแลไปข้างหน้าเพื่อประชาธิปไตย" ของ ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.
ต่อไปรายการความจริงวันนี้ของสามเกลอ อาจมาช่วยกระชากเรตติ้งจอแดงเพิ่มขึ้น เพราะ "ตู่-เต้น" ยังเป็นขวัญใจคนเสื้อแดง และแดงทุกกลุ่มล้วนฟังความคิดความเห็นของคนทั้งคู่
หันทางฟากประชาธิปัตย์ นับวันบทบาทของช่องบลูสกาย ในฐานะกระบอกเสียงของคนเสื้อฟ้า ก็จะมีความสำคัญมากขึ้น เหมือนช่องเอเชียอัพเดทกับคนเสื้อแดง
ต้องจับตาว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะใช้วิธีเดียวกันกับกรณีรัฐบาลอำมาตย์กับ "พีทีวี" ที่บีบไทยคมไม่ให้ส่งสัญญาณผ่านระบบซีแบนด์หรือไม่ ?
แม้เรตติ้งบลูสกายยังสู้เอเชียอัพเดทไม่ได้ แต่สามเกลอก็คงไม่ประมาท...ฤายิ่งลักษณ์จะตัดไฟเสียแต่ต้นลม !