ถ่วงความเจริญ

ข่าวสด 28 มิถุนายน 2555 >>>




ทั้งที่คณะกรรมการกฤษฎีกายืนยัน กรณีองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซ่า ขอใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อทำโครง การตรวจสอบการก่อตัวของก้อนเมฆช่วงมรสุมเดือนส.ค.-ก.ย. นี้ ไม่เข้าเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190
ทั้งที่นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐยืนยัน นาซ่าเป็นองค์กรด้านพลเรือน นักวิทยาศาสตร์ เครื่องบิน อุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพสหรัฐ
ทั้งที่ผู้นำเหล่าทัพไทยไม่ว่าทัพบกหรือทัพเรือยืนยัน ไม่ใช่เรื่องความมั่นคง ไม่ใช่เรื่องการสูญเสียอธิปไตย แต่เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องทางวิชาการที่ไทยจะได้รับประโยชน์
ทั้งที่นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ไทยต่างเล็งเห็นประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ คือ ประโยชน์ด้านข้อมูลวิชาการ ประโยชน์ด้านการสร้างบุคลากรและการสร้างภาพลักษณ์
ตามที่นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ สทอภ. ระบุ
   "นานาชาติจะได้เห็นเจตนาดีของไทยที่จะช่วยมวลมนุษยชาติ ที่ผ่านมาทำมาแล้วสิบกว่าจุดกระจายทั่วโลก เมื่อเราร่วมมือทำโครงการนี้ไทยจะมีที่ยืนในฐานะประเทศที่ช่วยให้ได้ข้อมูลในภูมิภาค"
ไม่นับผลสำรวจเอแบคโพลที่ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 63.5 เห็นควรให้นาซ่าเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อศึกษาการก่อตัวของชั้นบรรยากาศโลก
ถึงมีเสียงหนุนมากมาย แต่เพื่อความรอบคอบ รัฐบาลให้เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 179 ในสมัยประชุมรัฐสภาที่จะเปิด 1 ส.ค. นี้ ตามเงื่อนไขวันเวลา จึงเป็นอันว่าโครงการของนาซ่าต้องล้มพับไปอย่างน่าเสียดาย
กระนั้นก็ตามในมุมกลับกัน ถ้าหากรัฐบาลไม่นำเรื่องเข้ารัฐสภา ฝ่ายค้านก็จะไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องก็ต้องถูกยับยั้งไว้อยู่ดีเหมือนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เผลอๆ รัฐบาลยังจะโดนยุบพรรคซ้ำสาม
ทีนี้รู้หรือยังว่า ใคร...ถ่วงความเจริญประเทศชาติ ?