เปิดหน้าครบ สหบาทา "รบ.ป"

ข่าวสด 24 มิถุนายน 2555 >>>




อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภาแต่อุณหภูมิการเมืองไม่ได้ เย็นลง
รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ยังต้องเผชิญกับ "กับดัก" ที่ฝ่ายตรงข้ามวางไว้ทุกระยะ
เหมือนที่แกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคนให้เหตุผลตอบโต้หักล้างกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ออกมาประโคมข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่งตัวแทน 2 สุภาพสตรีสูงศักดิ์ กับ 1 สุภาพบุรุษ เป็นทูตเจรจาทาบทามประชาธิ ปัตย์เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย แลกกับการเลิกขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญและร่างกฎหมายปรองดอง ว่าเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง
เป็นไปไม่ได้เพราะว่าปัญหา ของรัฐบาลขณะนี้ไม่ได้อยู่ในสภา เพราะด้วยจำนวนเสียง ส.ส.รัฐบาล ที่มีอยู่ 300 เสียง ถึงอย่างไรก็ชนะวันยังค่ำ
ปัญหาของรัฐบาลแท้จริงอยู่ "นอกสภา" มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ รวมถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งขององค์กรซ่อนเงื่อนเหล่านี้เท่านั้น ที่นับวันสังคม ได้มองเห็นเจตนาของขบวนการ "สหบาทา" ดังกล่าวชัดเจน อย่างที่มีการอ่านเกมกันไว้ล่วงหน้า
ต่อให้รัฐบาลชะลอการผลักดันร่างกฎหมายปรองดองแห่งชาติ รวมทั้งการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3
แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมถอนคันเร่งตาม ไปด้วย
อะไรคือปัญหานอกสภาของรัฐบาล คำตอบโผล่มารางๆ ตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 1 ฟัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดงหลุดกระเด็นจากเก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ตามด้วยการมีคำสั่งถึงประธานรัฐสภาให้ชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ไว้ก่อน เพื่อรอพิจารณาคำร้องของส.ส.ประชาธิ ปัตย์และกลุ่ม 40 ส.ว. ที่ยื่นให้ศาลวินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดคู่กรณีมาชี้แจงวันที่ 5-6 ก.ค. จากนั้นไม่เกินปลายเดือนน่าจะรู้ผล
หลายคนในพรรคเพื่อไทยรวมถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยเชื่อว่า ผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ ส.ส.ประชาธิปัตย์ และกลุ่ม 40 ส.ว. ชงขึ้นไป อาจเปิดช่องนำไปสู่การยื่น "ถอดถอน" คณะรัฐมนตรีและ "ยุบพรรค"
ต่อมาวันที่ 12 มิ.ย. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กรณีลงนามซื้อขายที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยในปี 2545 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน
นายวิชา มหาคุณ หนึ่งในกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า หากส่งเรื่องนายยงยุทธไปให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาล แล้วอัยการสูงสุดไม่ฟ้อง ป.ป.ช. สามารถส่งฟ้องต่อศาลเองได้
ปฏิบัติการรับ-ส่งลูกไปมาระหว่างอัยการกับ ป.ป.ช. ยังปรากฏในกรณีอัยการสูงสุดที่ได้รับสำนวนมาจาก ป.ป.ช. มีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวกรวม 27 คนในคดีปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่วันที่ 25 ก.ค.
ก่อนจะมาถึงคิวผู้ตรวจการแผ่นดินที่ล่าสุดเตรียมจัดทำรายงานเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ให้พิจารณาคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง เนื่องจากนายณัฐวุฒิถูกอัยการสั่งฟ้องตกเป็นจำเลยในคดีชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553
ถึงแม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะพยายามพาตัวเองออกห่างจากประเด็นการเมืองเหล่านี้ ยืนยันรัฐบาลจะเดินหน้าทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ยอมเสียสมาธิไปกับเกมทำลายล้างจากฝ่ายตรงข้าม
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ กรณีองค์การนาซ่าของสหรัฐยื่นขอใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภาของไทย ทั้งที่เป็นเรื่องความร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ทั้งที่เป็นเรื่องการตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติของภูมิภาค
ทั้งที่เป็นเรื่องที่เริ่มในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่วายหยิบมาเป็นประเด็นการเมืองโจมตีรัฐบาล กล่าวหาเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับสหรัฐในการออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ทั้งยังขยายผลต่อเติมให้เป็นเรื่องของการสูญเสียอธิปไตยในดินแดนบางส่วนให้กับสหรัฐ ที่อาจสร้างความไม่พอใจให้กับประเทศพี่ใหญ่อย่างจีนได้
ก่อนสรุปรวบรัดว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 รัฐบาลต้องยื่นขออนุมัติจากที่ประชุมรัฐสภา
ผลคือโครงการความร่วมมือดังกล่าวต้องเลื่อนออกไป เพราะรัฐบาลเองก็ไม่กล้าเสี่ยงกับผลที่จะออกมาหากมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
ระหว่างที่รัฐบาลยังไม่รู้จะทำอย่างไรกับกรณีอู่ตะเภา ปรากฏว่ามีประเด็นร้อนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีมติ 3 ต่อ 2 เสียงจากผู้เข้าร่วมประชุม 4 คน เนื่องจาก นายสมชัย จึงประเสริฐ ติดภารกิจไม่ได้เข้าประชุม
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.เลยใช้สิทธิ์ออกเสียงคนเดียว 2 ครั้ง ให้แจกใบแดงนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ซึ่งกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันวุ่นวายทั้งเรื่องที่ประธาน กกต. ออกเสียงเบิ้ล 2 ครั้ง รวมถึงกรณีมติ กกต. ที่ไม่เป็นเอกฉันท์
แล้วก็เป็น นางสดศรี สัตยธรรม กกต. เสียงข้างน้อย ที่ออกมาตั้งคำถามดังๆ ถึงมาตรฐานการให้ใบเหลืองใบแดงของ กกต. เสียงข้างมาก
ถึงในที่สุดยังต้องรอการพิจารณาชี้ขาดจากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง แต่พรรคเพื่อไทยเตรียมแก้เกมไว้แล้วว่าจะส่งนาย จตุพร พรหมพันธุ์ ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมแทนนายการุณ
สะท้อนอารมณ์เกลือจิ้มเกลือ เหมือนที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.เสื้อแดง ประกาศว่า ? เมื่อคุณจะเอาอย่างนี้ ผมก็จะเอาแบบนี้ ?
ไม่หวั่นเกรงขบวนการสหบาทา ที่ ณ เวลานี้ใครเป็นใครต่างทยอยเปิดหน้าเปิดตาให้เห็นชัดเจน ครบถ้วน แบบไม่ต้องเหนียมอายกันอีกต่อไป