'ตู่' ขู่อดข้าวประท้วงหากถูกถอนประกัน

คมชัดลึก 25 มิถุนายน 2555 >>>




"ตู่" ขู่อดอาหารประท้วงหากถูกถอนประกัน จี้ถาม "วสันต์" ถูกใครข่มขู่ "มาร์ค" ซัด "ตู่" นำมวลชน บุกศาลรธน. เชื่อเป็นกระบวนการลากศาลเข้าสู่ความขัดแย้ง ปูทางรื้อระบบตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ จี้รัฐดูแล ขณะที่ "ศาล รธน." งดแถลงข่าวแจงเหตุยื่นถอนประกัน “จตุพร” อ้างไม่ก้าวล่วงอำนาจศาลอาญา

วันที่ 25 มิ.ย.55 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นี้ศาลนัดสืบพยานจำเลยคดีดำ อ.1962/ 53 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. และ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา ทำนองว่า นายอภิสิทธิ์ นั่งเสมอพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งนี้นายจตุพร ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องพิจารณาว่า ในวันที่ 26 มิ.ย. ตนจะเดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสอบถามกรณีที่ตนถูกสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยื่นถอนประกันคดีก่อการร้าย โดยพบว่าเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2553 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน เคยแจ้งความดำเนินคดีกับตนในคดีหมิ่นประมาท ซึ่งตนไม่เคยรู้มาก่อนว่าถูกแจ้งความ ถ้ารู้ก็จะต้องมีการยื่นคัดค้านตั้งแต่เป็นองค์คณะ และคดีชี้คุณสมบัติของตนแล้ว ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นคู่กรณีกับตนทำให้การขอเพิกถอนการประกันตัวครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเรื่องนี้ตุลาการทั้ง 9 คนต้องรับผิดชอบร่วมกัน รวมทั้งสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่มีอำนาจที่จะยื่นถอนประกันตัวด้วย เพราะจะต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุดเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนี้ใครก็สามารถยื่นถอนประกันได้หมดทุกคน และถ้าหากศาลมีคำสั่งถอนประกันจริงตนจะเดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังเรือนจำและจะอดอาหารตั้งแต่วันแรกที่อยู่ในเรือนจำ เนื่องจากความอยุติธรรม
   “อยากจะถามนาย วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญว่าโดนข่มขู่ ตอนไหนเละใครไปข่มขู่ คนขับรถของนายวสันต์ และมีการแจ้งความดำเนินคดีกับใครหรือยัง และหมายเลขที่โทรเป็นเบอร์อะไร อยากทราบว่ามีการข่มขู่จริงหรือไม่” นายจตุพร กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งตนสมัครเลือกตังซ่อม ส.ส. กทม. เขตดอนเมือง แทน นายการุณ โหสกุล ที่ถูกใบแดงนั้น ตนไม่มีความคิดที่จะลงสมัครเลือกตั้งแทน เพราะคิดว่า นายการุณจะต่อสู้จนชนะคดี อยากตั้งข้อสังเกตุการทำหน้าที่ของ กกต. ครั้งนี้ไม่ปรกติ เพราะนำเรื่องของนาย การุณ มาพิจารณา ทั้งที่ นาย สมชัย จึงประเสริฐ กกต.อีกคนไม่อยู่ และโดยปรกติแล้วตามมารยาทการลงคะแนนของประธาน กกต. จะลงคะแนนก็ต่อเมื่อมติที่ประชุมมีคะแนนเท่ากันและให้ประธานเป็นผู้ชี้ขาด แต่กรณีนี้ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.กลับเป็นฝ่ายลงคะแนน 2 ครั้งโดยให้ใบแดง นายการุณซะเองรู้สึกแปลกใจเหมือนกัน พอนายก่อแก้ว พิกุลทอง ออกมาพูด ว่าจะให้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม แทนนายการุณ ศาลรัฐธรรมนูญก็ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาถอนประกันตัวผมทันที”นายจตุพร กล่าวตอนท้าย

“มาร์ค” ซัด ”ตู่” นำมวลชน บุกศาล รธน.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ประกาศจะนำคนเสื้อแดงบุกศาลวันที่ 26 มิ.ย. ว่า ไม่ทราบว่าจะไปในรูปแบบไหน แต่ไม่ควรใช้วิธีการเอามวลชนหรือความเป็นพรรคพวกของผู้มีอำนาจในรัฐบาลไปขมขู่ศาล รัฐบาลมีหน้าที่คุ้มครองตุลาการให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยอิสระ อย่างไรก็ตามตนมาแปลกใจกรณีการยื่นถอนประกันตัวชั่วคราวนายจตุพร เพราะรู้ดีว่าเงื่อนไขการประกันคืออะไร ซึ่งสิ่งที่ดำเนินการไปขัดกับเงื่อนไขประกันหรือไม่ ทั้งนี้ตนเป็นห่วงว่ากำลังมีความพยายามลากเอาศาลมาเป็นคู่ขัดแย้ง จึงหวังว่าตุลการจะไม่หวั่นไหวและเดินหน้าพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา แต่ต้องเข้าใจว่ารัฐบาล และกลุ่ม นปช. ก็มีกลยุทธ์สำคัญที่หยิบเรื่องศาลขึ้นมากดดันเพื่อให้การตัดสินคดีเป็นไปตามความต้องการของตัวเอง และหวังที่จะรวมมวลชนเสื้อแดงเป็นเอกภาพอีกครั้ง เพราะเริ่มมีปัญหาความแตกต่างระหว่างคนเสื้อแดงในประเด็นอื่น
   “ที่สำคัญคือเป็นการปูทางไปสู่ความพยายามของรัฐบาลในการลดอำนาจตุลการเมื่อมีการแก้รธน. ส่วนที่นายจตุพร ระบุว่าจะมีการยุบศาลรัฐธรรมนูญนั้น ผมเห็นว่าทั้งหมดเป็นการเตรียมการปูทางไปสู่การรื้อระบบการตรวจสอบของประเทศไม่ให้มีการถ่วงดุลย์ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ซึ่งหากเราให้ศาลซึ่งเป็นองค์กรอยู่เหนือการเมือง ถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้ง จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้สังคมขาดที่พึ่ง มีความสุ่มเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความรุนแรงได้ หากรัฐบาลไม่มีการปรามผู้สนับสนุนของตัวเองในเรื่องนี้ ก็คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดภาวะเช่นนั้น รัฐบาลต้องพิสูจน์ว่าไม่สองมาตรฐาน พอเป็นพรรคพวกตัวเองเป็นมวลชนของตัวเองจะทำอะไรก็ได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีความพยายามทำให้กิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความหมายของคำว่าประชาธิปไตย โดยให้แปลความว่าเสียงข้างมีอำนาจที่ไม่มีขอบเขต ซึ่งไม่ใช่หลักประชาธิปไตยในโลกนี้ จึงต้องช่วยกันทำความเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดอะไรสั้นๆ ว่า ประชาธิปไตยเป็นเสียงข้างมาก นอกจากนี้พฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปิดประกาศรายชื่อพร้อมรูปของบุคคลในแวดวงหลายหลายสาขาอาชีพ ก็ต้องถามรัฐบาลในฐานะที่ต้องดูแลประชาชนทั้งประเทศ ว่า กรณีแบบนี้จะไม่ดำเนินการอะไรเลยหรือเพราะเป็นคนของตัวเองจะทำอย่างไรกับกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย และไม่ใช่หลักของรัฐบาลที่มีการบริหารจัดการที่ดีสำหรับคนทั้งประเทศด้วย เพราะภาวะที่เกิดขึ้นเท่ากับคนไทยในสังคมกำลังถูกข่มขู่คุกคาม และตนไม่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะยอมรับกับสภาพที่เกิดขึ้น หากปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ยิ่งทำให้ความขัดแย้งในสังคมทวีความรุนแรงมากขึ้น
   “การลากเอาทุกสถาบันเข้าสู่ความขัดแย้ง การใช้วิธีการเอาพวกจำนวนมากมากดดัน ล้วนเป็นการขยายผลความขัดแย้งสุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงทั้งสิ้น ทั้งนี้การที่รัฐบาลเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเอง คิดว่ามีพวกมากมาปกป้องรัฐบาลเพื่อผลักดันในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ไม่คิดถึงผลกระทบต่อสังคมและประเทศในอนาคต ซึ่งผมไม่อยากเรียกว่าเป็นสภาพของอนาธิปไตย เพราะไม่เชิงเป็นแบบนั้น แต่เป็นลักษณะการเป็นรัฐที่ใช้อำนาจนอกกฎหมาย ผ่านกลไกนอกกฎหมายมาปกป้องตัวเอง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

"ศาล รธน." งดแถลงข่าวแจงเหตุยื่นถอนประกัน “จตุพร”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.20 น. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้แจกเอกสารข่าวชี้แจง กรณีที่สำนักงานฯไปยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) จำเลยที่ 2 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2542 /2553 ต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่างๆ ปรากฎอยู่แล้วในคำร้อง ดังนั้นทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจึงของดที่จะให้แสดงความเห็น เพราะศาลอาญา ได้มีคำสั่งนัดสอบถามนายจตุพร จำเลยที่ 2 แล้วในวันที 23 ก.ค. นี้ ดังนั้นจึงอยู่ในการะบวนการพิจารณาตามคำร้องจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินกระบวนการพิจารณาของศาลอาญาเป็นไปตามกฎหมาย และไม่เป็นการก้าวล่วงอำนาจของศาลอาญา จึงของดให้ความเห็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางสำนักงานได้มีการประชุมเรื่องดังกล่าวในช่วงเช้าอย่างเคร่งเครียด โดยมีการหยิบยกประเด็นที่นายจตุพร และ แกนนำเสื้อแดงได้มีการปราศรัยโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมามาหารือ  และเห็นว่าหากออกมาแถลงจะยิ่งเป็นยั่วยุคนเสื้อแดงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งคำร้องดังกล่าวก็ได้มีกาเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลอาญาไปแล้ว จึงชี้แจงเป็นเอกสาร
ด้านนายสมฤทธิ์ ไชยวงศ์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.จะเดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 26 มิ.ย. นี้ ที่จะมาทวงถามขอบข่ายอำนาจว่าศาลรัฐธรรมนูญใช้มาตรฐานใดในการยื่นคำร้องขอถอนประกันตัวเอง ว่า ในวันนี้ ก็ได้มีการหารือถึงการดูแลความปลอดภัยในระดับหนึ่ง ซึ่งก็ได้มีการประสานไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ ซึ่งเตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้วตามปกติไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีมวลชนติดตามมาด้วยแต่ ซึ่งเท่าที่ทราบตุลาการแต่ละคนก็ยังไม่มีความวิตกกังวลยังคงทำหน้าที่และปฏิบัติงานกับไปตามปกติ ทั้งนี้เมื่อศาลอาญารับคำร้องของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้แล้วศาลรัฐธรรมนูญก็จะไม่มีการแสดงความคิดเห็นหรือตอบโต้ใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากเกรงว่า หากมีการตอบโต้จะเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะกระบวนการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลอาญา ฉะนั้นสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะไม่ไปก้าวล่วง
นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีว่า เรื่องนี้ตนก็ทราบจากทางการรายงานข่าวของสื่อมวลชน ไม่ได้มีการติดต่ออย่างเป็นทางการใดๆเข้ามา แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีความวุ่นวายใดๆเกิดขึ้น และทางศาลฯเองก็ไม่ได้กดดันในเรื่องนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ทางสำนักงานได้เตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อรับเรื่องของนายจตุพรไว้แล้ว