ที่ประชุม ส.ว. ขอให้ชะลอลงมติร่างแก้ไข รธน. วาระ 3 และนำเรื่องที่ไม่ขัดแย้งมาพิจารณาก่อน พร้อมจี้รัฐบาลแจงเรื่องให้สหรัฐเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภา ชี้เข้ามาตรา 190 ต้องผ่านรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (11 มิ.ย.) ซึ่งมี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ช่วงแรกได้เปิดให้สมาชิกหารือ โดยนายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง กล่าวฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี กรณีลงมติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม วาระ 3 ที่ยังมีปัญหาว่า อยากให้ชะลอการลงมติดังกล่าวไปก่อน ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนลงมติ เพราะไม่มีใครกล้ายืนยันได้ว่าการขัดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลอย่างไร ด้านนายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา เรียกร้องให้นำกฎหมายอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่เป็นเรื่องที่ขัดแย้งขึ้นพิจารณาก่อน ส่วนนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ขอให้รอคำวินิจฉัยของศาล และเชื่อมั่นในคำสั่งของศาล เพราะถ้าไม่เชื่อมั่นแล้ว ต่างประเทศ คงไม่กล้ามาร่วมทำการค้าด้วย
ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่ว่าสหรัฐจะมาขอใช้ประโยชน์จากสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ว่า ยังไม่มีคำชี้แจงจากรัฐบาล จึงทำให้มีเสียงวิจารณ์กว้างขวางว่าสมควรหรือไม่ เพราะเป็นที่ชัดเจนว่าสหรัฐมีนโยบายเพิ่มกำลังทหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรับมือกับจีน มหาอำนาจใหม่ที่จะมาเป็นคู่แข่งสหรัฐ จึงฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้แถลงรายละเอียดและทิศทางที่จะเป็น และเผยสัญญาดังกล่าวด้วย เพราะเชื่อว่าจะเข้าข่ายกรอบความร่วมมือที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ตามมาตรา 190 เช่นเดียวกับ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ที่เกรงว่าการทำสนธิสัญญาดังกล่าว ระหว่างไทยและสหรัฐจะเป็นหนังสือสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ตามมาตรา 190 ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา พร้อมเห็นว่าไทยไม่ควรอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง ควรดำรงตนเป็นมิตรทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า มีปรากฏการย้ายเจ้าหน้าที่จากสถานทูตไทยในสหรัฐที่ไม่เห็นด้วยกับการแลกเปลี่ยนเรื่องสนามบินกับการเข้าประเทศสหรัฐของอดีตนายกรัฐมนตรี
น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวถึงโครงการจัดซื้อแท็บเล็ตของรัฐบาลว่า เป็นการดำเนินการผิดสเปกเรื่องขาปลั๊กและใบรับรองเกี่ยวกับการแพร่รังสีที่ยังไม่ส่งมา พร้อมเห็นว่า ส่อเค้าทุจริต จึงอยากให้รัฐบาลอย่าปล่อยปละละเลยเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต