'เต้น' รับมติ ครม. ชะลอแก้ 'รธน. วาระ 3' หวั่นเดินหน้าสู่วิกฤต วอนมวลชนเข้าใจ รับเห็นใจ'นายกรัฐมนตรี' เพราะเห็นชัดกว่า
13 มิ.ย. 55 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และแกนนำคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ถึงข่าวที่ระบุว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา กล่าวในที่ประชุม ครม. ว่าหน่วยข่าวความมั่นคงวิเคราะห์ว่าหากเดินหน้าไม่ถอยแก้รัฐธรรมนูญ ระวังไม่โดนขาไปก็โดนขามา ว่า คงไม่สามารถขยายความอะไรมากกว่านั้น หลังจากการประชุมก็ไม่ได้หารืออะไรต่อ ทีประชุมเห็นตรงกันว่าควรชะลอการลงมติวาระสามเอาไว้ก่อน เพราะสถานการณ์การเมืองมีความละเอียดอ่อน
"ตนเห็นว่าสถานการณ์แบบนี้รัฐสภาควรมีความมั่นคงและแสดงจุดยืนให้ชัดเจน และปฏิเสธการแทรกแซงก้าวก่ายของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรใดที่จะทำให้โครงสร้างประชาธิปไตยบิดเบี้ยวสับสน ณ วันนี้่ความเห็นส่วนตัวยังเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อที่ประชุม ครม. สรุปเช่นนั้นตนก็ต้องเป็นมติ แต่ก็อยากให้ที่ประชุม ครม. เคารพความเห็นของตนด้วย สถานการณ์หลังจากนี้ 1 เดือนจะเห็นสิ่งที่เราเคยคาดการณ์เอาไว้" นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า หลายคนเห็นว่าการที่รัฐสภาชะลอ กลายเป็นการยอมรับท่าทีบทบาทของศาล รธน. หากเขาตัดสินว่าบทบัญญัติขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็จะทำให้กระบวนการแก้ไขโดยชอบเข้าสู่วิกฤตอย่างแท้จริง และจะนำไปสู่วิกฤตกรเมืองอย่างแน่นอน อีกด้านอธิบายข้อมูลทางลึกว่าหากเดินหน้าวาระสามในเวลานี้ก็จะมีฝ่ายตรงข้ามหยิบเป็นประเด็นร้องต่อว่าเจตนาขัดคำสั่งศาล และหากตีความลงมติวาระ 3 กฎหมายก็กำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯใน 20 วัน หากศาลชี้ว่ามีปัญหาให้ชะลอการยื่นทูลเกล้าฯ ก็ต้องตีความว่าหากชะลอเกิน 20 วันขัดต่อ รธน. จะทำอย่างไร แต่หากต้องนำขึ้นทูลเกล้าจะเป็นประเด็น การตัดสินใจก้าวนี้จะเป็นหมากบังคับให้เดินเข้าไปถึงพื้นที่อันตราย แม้ว่าตนเองจะมีมุมวิเคราะห์หนึ่งแบบ แต่อีกแบบใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ประกอบว่าทางฝ่ายสภาเสนอว่าจะมีการปิดประชุม ครม. ก็ต้องเดินตามแนวสภา
"ในสถานการณ์แบบนี้อยากให้ประชาชนได้ติดตามเหตุการณ์ด้วยความเข้าใจสถานะที่รัฐบาลเผชิญอยู่ แม้ว่ามุมความคิดเรื่องรัฐธรรมนูญจะต่างกัน แต่ที่ทุกฝ่ายเห็นตรงคือสถานการณ์การเมืองไม่เดินออกไปจากวงของความขัดแย้ง รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่อาจจะอยู่ในจุดที่ปลอดภัยเลย" นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า ตนก็ตั้งคำถามว่าเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าหากถอยแล้วเขาจะหยุด หากหลังจากนี้ศาลแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ขึ้นมาอีกจะว่าอย่างไร แต่ที่ประชุมก็บอกว่า อ่านแล้วรวบรวมแล้วเดินแบบนี้จะดีกว่า
ต่อกรณีการอธิบายต่อคนเสื้อแดงนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ลำบากใจกับการอธิบาย เพราะทุกอย่างชัดเจนว่าคนเสื้อแดงไม่ใช่เจ้าของรัฐบาล และรัฐบาลไม่ได้เป็นเจ้าของคนเสื้อแดงทั้งสองฝ่ายเป็นแนวร่วม ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิที่จะปฏิบัติต่าง หากทุกฝ่ายยังหันหน้าไปทางประชาธิปไตยเหมือนกัน ก็ยังเป็นมิตรกัน มุมหนึ่งตนก็เห็นใจนายกฯ ว่าจากจุดที่ท่านอยู่เห็นอะไรชัดกว่าที่เป็นอยู่