มติชน 26 มิถุนายน 2555 >>>
วันที่ 26 มิ.ย. เวลา 11.00 น. ที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ ญาติพี่น้องของ 13 ผู้ต้องขังคดีทางการเมืองวางเพลิงเผาทรัพย์และบุกรุกสถานที่ราชการในระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 เดินทางมายังเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ เพื่อรอรับญาติของตนเองกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดมุกดาหาร หลังจากศาลจังหวัดมุกดาหารได้ออกหมายปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขัง ด้วยหลักทรัพย์จากกองทุนยุติธรรมเป็นเงินสดในการยื่นประกันตัวคนละ 2 ล้านบาท รวมทั้งหมด 26 ล้านบาท ท่ามกลางกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยชื่นมื่นยินดีของญาติที่มารอรับ ผู้ต้องขัง 13 คนที่ได้รับปล่อยตัว ประกอบด้วย นายประครอง ทองน้อยนายวินัย ปิ่นศิลป์ชัย นายณัฐวุฒิ พิกุลศรี นายสมัคร ลุนริลา นายแก่น หนองพุดสานายวิชิต อินตะ นายวิชัย อุสุพันธ์ นายนพชัย พิกุลศรี นายพระนม กันนอก นายไมตรีพันธ์คูณ นายทินวัฒน์ เมืองโครตร นายทวีศักดิ์ แข็งแรง และนายดวง คนยืน
นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมสภาทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวว่าต้องขอบคุณศาลยุติธรรมที่ได้กรุณามีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อผู้ต้องขังจะได้ใช้สิทธิเสรีภาพตามกฎหมายในการแสดงความบริสุทธิ์ของตนเองสู้คดีทั้งหมดต่อไป หลังจากนี้ในวันที่ 27 มิถุนายนจะยื่นคำร้องเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังในเขตศาลจังหวัดกรุงเทพฯจำนวน 14 คน ซึ่งคาดว่าด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานต่างๆ ศาลยุติธรรมจะได้กรุณาพิจารณาต่อไป โดยจะมีการปล่อยตัวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ส่วนผู้ต้องขังในจังหวัดอื่นๆ จะใช้กรณีที่ศาลจังหวัดมุกดาหารปล่อยตัวนี้นำเรียนต่อศาลเพื่อขอให้ปล่อยตัวและรอคำสั่งศาลต่อไป
ขณะที่นายวินัย ปิ่นศิลป์ชัย ผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวกล่าวภายหลังจากที่ได้รับอิสรภาพว่ารู้สึกดีใจมากในวันนี้ที่ได้ออกมาเจอหน้าลูกกับภรรยาอีกครั้ง รวมถึงยังเป็นห่วงเพื่อนคนอื่นที่ยังถูกกุมขัง ยอมรับว่าตอนที่ถูกกุมขังอยู่รู้สึกเครียดและกดดันมากจนต้องกินยานอนหลับ แต่บรรยากาศภายในมีแต่คนรู้จักกันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้างและต้องขอบคุณสภาทนายความและกระทรวงยุติธรรมที่ช่วยเหลือในครั้งนี้
ส่วนนายวิจารย์ ปิ่นศิลป์ชัย ผู้เป็นบิดา กล่าวแสดงความรู้สึกว่าตั้งแต่ที่ได้รับทราบข่าวว่าลูกชายจะได้รับการปล่อยตัวรู้สึกดีใจจนน้ำตาไหลไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกชายจะได้รับอิสรภาพอีกครั้ง เมื่อวาน (25 มิ.ย.) จึงรีบเดินทางออกจากจังหวัดมุกดาหารพร้อมญาติพี่น้องในเวลาสองทุ่มด้วยรถตู้จำนวน 3 คัน มาถึงเรือนจำนี้เวลาตีห้าของวันนี้เพื่อรอพบหน้ากับลูกชาย