กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์ วิพากษ์รัฐต้องกระจายอำนาจสู่ประชาชน ไม่กระจุกอำนาจแค่ชนชั้นนำ และพวกเผด็จการใบสั่งพรรคการเมือง อ้างประชาชนตื่นตัวแล้ว
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์จัดเสวนาในเรื่อง ‘จากอำนาจรัฐรวมศูนย์อำนาจ สู่การกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นและชุมชน’ โดยมี ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นายบรรเจิด สิงคะเนติ คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นายคมสัน โพธิ์คง สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา นายศักดิ์ณรงค์ มงคล นักวิชาการอิสระ โดยมีประชาชนที่สนใจเข้าร่วมฟังเสวนาในครั้งนี้กว่า 300 คน โดยนายบรรเจิด กล่าวว่า การปรากฏตัวของระบบเผด็จการโดยพรรคการเมืองนายทุน คือเปรียบเทียบเป็นเผด็จการที่มีอานุภาพขนาดไหน สมัยนาซีเป็นเพียงแต่บอกรัฐบัญญัติเท่านั้น แต่ประเทศไทยในวันนี้เป็นเผด็จการที่จะออกรัฐธรรมนูญตามใบสั่งของพรรคการเมือง อำนาจรัฐไทยมันอยู่เพียงแค่ชนชั้นนำเท่านั้น สภาพปัญหาโครงสร้างสถาบันการเมือง 80 ปีของไทยนั้นมีปัญหา
1. ชนชั้นนำฝ่ายอนุรักษ์
2. อนุรักษ์และกลุ่มทุน
3. กลุ่มนายทุนที่ผ่านพรรคการเมือง
ชี้ให้เห็นว่าอำนาจของประชาชนนั้นยังไม่มีพื้นที่จริง เหตุผลก็เพราะว่าประเทศไทยใช้ระบบตัวแทนผ่านพรรคการเมือง
“พรรคการเมืองของไทยไม่ใช่ผ่านจากประชาชนอย่างแท้จริง สภาตอนนี้เป็นเพียงแค่ของคนที่เป็นเจ้าของพรรค ตัวแทนของพรรคการเมืองคือเจ้าของพรรคเท่านั้น นี่คือสภาพการปัญหาของพรรคการเมืองไทยในขณะนี้ ซึ่งตอนนี้เจ้าของพรรคก็เริ่มส่งสัญญาณปรองดองแล้ว สำเร็จหรือไม่ต้องรอไปโหวตในสภา โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องอาศัยพลังอย่างแท้จริง คือพลังของประชาชนที่ทุกคนต้องการ เพราะตอนนี้ประชาชนทุกคนได้ตื่นตัวแล้ว” นายบรรเจิด กล่าว
นายคมสัน กล่าวว่า ทำไมการกระจายอำนาจเราไม่ค่อยไปไหน รัฐธรรมนูญเรื่องการกระจายอำนาจมันเป็นการรวบอำนาจที่ประชาชนส่วนใหญ่นั้นอาจมองไม่เห็นด้วย 3 วิธี
1. เรื่องการจัดสรรงบประมาน
2. การบริหารบุคคลท้องถิ่น
3. การวางหลักการปกครองท้องถิ่น
ภายใต้ระบบรัฐสภาแบบนี้สมาชิกส่วนใหญ่มาจากกลุ่มทุน ไม่มีจากภาคประชาชนที่แท้จริง ในแง่หลักการทางกลุ่มของเราปัญหาคือทุนมันใหญ่เกินไป เมื่อทุนมีอำนาจที่เป็นเนื้อเดียวกัน การรวมศูนย์อำนาจอย่างเด็ดขาดในสภาโจทย์ของเราคือให้ทุนนั้นเล็กลง และแย่กว่าการกระจายอำนาจ โครงสร้างทางการเมืองแบบสภาควรจะต้องปฏิรูปโครงสร้างการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง
ด้าน นายโอฬาร กล่าวว่า ปัญหาตอนนี้คืออย่าเลือกผู้สมัครที่เป็นตัวแทนพรรคการเมือง แต่ให้เลือกคนที่เป็นตัวแทนประชาชนอย่างจริงจัง ในระยะยาวถ้าพรรคการเมืองเขาเห็นด้วยกับพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ ถ้าเขาเห็นด้วยและยอม จะพัฒนาระบบที่ไปลดทอนอำนาจรัฐส่วนกลาง และการบริหารเงินงบประมาณลงไปสู่ท้องถิ่นจริงๆ และทำงานภายใต้ความต้องการของชุมชน แบบนี้พวกเราก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก แต่เชื่อว่ายาก ทางเลือกสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะมีการปิดเวทีเสนา พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม แกนนำภาคีเครือข่ายสยามสามัคคี ได้มาให้กำลังใจในการเสวนาครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้งกล่าวบนเวทีเสวนาว่า ปัญหาของประเทศในขณะนี้ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหา และสยามประชาภิวัฒน์ได้เสนอทางออกมาให้แล้ว แนวความคิดนี้ตนคิดว่าเป็นแนวคิดที่น่าสนใจจึงมาให้กำลังใจในครั้งนี้ แต่แนวความคิดนี้จะขับเคลื่อนไม่ได้ถ้าประชาชนทั่วไปยังไม่ยอมรับ แนวคิดนี้เป็นแนวคิดน่าสนใจที่ทุกคนจะต้องช่วยกันขับเคลื่อนไปให้ได้