มติชน 1 พฤษภาคม 2555 >>>
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 เมษายน ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ.... เป็นวันที่ 9 ต่อจากวันที่ 26 เมษายน โดยนายสามารถ แก้วมีชัย ประธาน กมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฯ ชี้แจงว่า มาตรา 291/6 ที่กำหนดให้การคัดเลือก ส.ส.ร. จากองค์กรภาคเศรษฐกิจสังคมและองค์กรภาคเอกชนนั้นจะทำให้เกิดความหลากหลายเพื่อให้ได้ ส.ส.ร. ที่มีความรู้ในทางปฏิบัติ นอกจากได้ผู้ที่มีความรู้ทางทฤษฎี ทั้งนี้ ไม่ต้องห่วงที่ประธานรัฐสภาแต่งตั้งคณะกรรมการ 15 คน มาตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับการเสนอชื่อ ส.ส.ร. เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จแล้วแล้วใครไม่ขาดคุณสมบัติก็เสนอรายชื่อให้ประธานรัฐสภาจำแนก 3 กลุ่ม คือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์และกลุ่มผู้มีประสบการณ์ จากนั้นประธานรัฐสภาจะเรียกประชุมรัฐสภาให้คัดเลือกบุคคลต่างๆ เหล่านั้น
"มั่นใจทุกสิ่งที่ประธานรัฐสภาดำเนินการตามหลักเกณฑ์และกฎหมายบัญญัติ และประธานรัฐสภาจะต้องมีคณะทำงานช่วยกันดูเพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุดท่ามกลางสายตาของสมาชิกรัฐสภา ส่วนที่ห่วงใยเวลาการคัดเลือกในรัฐสภา ที่เกรงว่าเสียงข้างมากจะได้เปรียบนั้น ขณะนี้สมาชิกรัฐสภามี ส.ส. 499 คน มี ส.ว. 146 คน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ส.ส. และ ส.ว. ต้องไม่อยู่ใต้อาณัติครอบงำใดๆ และการลงคะแนนเลือก ส.ส.ร. เป็นการลงคะแนนลับ ผมเชื่อในเกียรติภูมิจะช่วยกันเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดเข้ามาเป็น ส.ส.ร. เพราะระบบนี้เป็นระบบที่สรรหามาให้รัฐสภาคัดเลือก ทั้งนี้ ยืนยันว่าประธานรัฐสภาไม่สามารถประกาศชื่อองค์กรที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้" นายสามารถ กล่าว