กมธ.ต่างประเทศ เล็งใช้ธรรมนูญกรุงโรมจัดการอภิสิทธิ์สลายชุมนุมเสื้อแดง 91 ศพยันศาลไอซีซีรับเรื่องแล้ว
นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นางเอเวอร์รีน บาลาอิส ตัวแทนศาลอาญาระหว่างประเทศในภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก ร่วมแถลงข่าวหาช่องเอาผิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมือง เม.ย.-พ.ค. 53
นายสุนัย กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะไม่ได้ลงสัตยาบันเป็นภาคีกับศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการแก้ไขกฎหมายภายในที่คุ้มกันพระมหากษัตริย์ แต่ขณะที่ธรรมนูญกรุงโรมไม่รองรับ ดังนั้น ไทยจึงอาศัยช่องทางตามธรรมนูญกรุงโรม บทที่ 12 วรรค 3 ระบุว่า แม้ประเทศนั้นไม่ต้องเป็นภาคีกับไอซีซี แต่ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศยอมรับเขตอำนาจศาล เฉพาะกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนที่สามารถให้ไอซีซีเข้ามาตรวจสอบได้ โดยเฉพาะกรณีการสลายการชุมนุม 91 ศพ เหตุการณ์ภาคใต้ ขณะนี้ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นเรื่องนี้ไปยัง ครม. ให้พิจารณาแล้ว ขณะเดียวกันกรรมาธิการต่างประเทศก็จะเร่งรัดเรื่องนี้ควบคู่กันไป
นายสุนัย กล่าวว่า ส่วนการยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการยื่นในนามที่นายอภิสิทธิ์ถือสัญชาติอังกฤษ โดยประเทศอังกฤษเป็นภาคีกับศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ศาลได้รับฟ้องไปแล้ว แต่ปัญหาคือไม่สามารถเข้ามาดำเนินการในประเทศไทยได้ เพราะไทยยังไม่ได้เป็นภาคีโดยสมบูรณ์ แต่หาก ครม. มีมติประกาศยอมรับเขตอำนาจ และเรื่องดังกล่าวไม่จำเป็นต้องเข้าขอความเห็นชอบจากรัฐสภาฯ ตามมาตรา 190 เพราะกรณีนี้ไม่ผูกพันกับประเทศไทย แต่เป็นกรณีการถือสัญชาติอังกฤษของนายอภิสิทธิ์และเป็นเรื่องของศาลอาญาระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ดี การออกกฎหมายนิรโทษกรรม แม้นายอภิสิทธิ์จะไม่มีความผิดในประเทศไทย แต่ในระดับสากลยอมไม่ได้ ยังถือว่ามีความผิดอยู่ดี