กกต. เร่งยกร่างระเบียบเลือกตั้ง ส.ส.ร.

กรุงเทพธุรกิจ 27 เมษายน 2555 >>>


กกต. เดินหน้า ยกร่างระเบียบเลือกตั้ง ส.ส.ร. แล้ว หวั่นปัญหาไม่นำ พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาใช้

นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของกกต.ในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ว่า ก่อนหน้านี้ กกต. ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาเสนอแนะและดำเนินการยกร่างระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ... ที่มีนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต.เป็นประธานได้เริ่มยกร่างระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งส.ส.ร. อยู่ โดยระเบียบนี้จะมีแผนงานภาพรวมการเลือกตั้งเช่นเดียวกับที่กกต.เคยทำในการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา และแม้ว่า กกต. จะไม่เคยจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร. มาก่อน แต่ก็สามารถนำรูปแบบการเลือกตั้ง ส.ว. มาใช้ได้ โดยรายละเอียดอาจจะมีการกำหนดลักษณะการหาเสียงของผู้สมัครลงรับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ร. จะคล้ายกับการหาเสียงของ ส.ว. คือ สามารถหาเสียงในหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับส.ส.ร. ส่วนค่าใช้ในการจัดการเลือกตั้งแต่ละจังหวัดนั้นก็จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าจังหวัดเป็นขนาดและประชากรเป็นจำนวนเท่าใด โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการเลือกตั้งประมาณ 2,5000ล้านบาท ส่วนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตนยังเป็นห่วงสถานการณ์ความรุนแรง จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.กอ.รมน. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
   “กกต. เตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร. แล้ว แม้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะมีการยื่นให้ยุบพรรคการเมืองที่มีส่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ส่งเรื่องมาที่ด้านกิจการพรรคการเมืองให้ดำเนินการเรื่องนี้อยู่ เรื่องนี้จึงยังมีอีกหลายขั้นตอน กกต. ก็ต้องดำเนินเดินหน้าเตรียมจัดการเลือกตั้งส.ส.ร. ต่อไป” นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะทำได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของเรา กกต. มีหน้าที่เพียงทำตามกฎหมาย หากมีกฎหมายที่ถูกต้องกกต.ก็ต้องทำตาม ส่วนความผิดทางอาญาของพรรคการเมืองของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ม.43 ที่ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองเข้าไปช่วยเหลือหรือสนับสนุนการเลือกตั้งส.ส.ร.ที่ตนแสดงความเป็นห่วงก่อนหน้านี้ว่าไม่ได้มีการบัญญัติลงไปในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะมีปัญหาในการลงโทษพรรคการเมืองนั้น เรื่องนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐสภาในการดำเนินการ เพราะเจตนาของรัฐสภามีความชัดเจนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส.ร. จะต้องมีความเป็นกลางไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง เพราะหากใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ว. จะต้องนำ ม.43 ของพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาใช้ด้วย
นายประพันธ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่กกต.มีมติสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชัยภูมิ ว่า จากนี้สำนักงานวินิจฉัยและคดีจะได้เร่งยกร่างคำร้องเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือน พ.ค. และเมื่อศาลรับคำร้องไว้แล้ว นายโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ส.ส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทยจะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ทันที