
ภท.ครบรอบ 3 ปี ลั่นเป็นฝ่ายค้านไม่ทำตัวค้านทุกเรื่อง แต่ทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ชี้ปัญหาขัดแย้งเกิดจากนักการเมืองชิงอำนาจ “อนุทิน” ให้รอดู 2 เดือนนั่งหัวหน้าพรรค ย้ำ “เนวิน” ทำทีมบอลมีความสุขแล้ว สร้างชื่อให้พรรคทางอ้อม “ชวรัตน์” วอนอโหสิถอยคนละก้าว ...
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 เม.ย. พรรคภูมิใจไทย ได้จัดงานครบรอบ 3 ปีภายใต้ชื่องาน ก้าวสู่ปีที่ 4 พรรคภูมิใจไทย โดยมีแกนนำพรรค อาทิ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตประธานรัฐสภา นางพรทิวา นาคาศัย เลขาธิการพรรค นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รวมถึง ส.ส.และสมาชิกพรรคเข้าร่วมงาน โดยมีการนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป มาสวดมนต์ในพิธีทำบุญ กระทั่งเวลา 12.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นำแจกันดอกไม้เข้าอวยพร และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาในขณะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ทำหน้าที่สำคัญในการแก้ปัญหาบ้านเมือง และเมื่อมาเป็นฝ่ายค้าน ได้เสนอญัตติเรื่องปรองดอง ถือเป็นจุดยืนที่ทำมาก่อนคนอื่น และทำหน้าที่ฝ่ายค้านโดยไม่ทำตัวค้านทุกเรื่อง แต่จะทำเรื่องที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
ทั้งนี้ ปัญหาความขัดแย้งในประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนมากมาย แต่จะต้องมีการเริ่มต้นบรรยากาศปรองดองให้เกิดขึ้นเสียก่อน ดังนั้น การอภิปรายที่ผ่านมา เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงท่าทีความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย ว่ามีความคิดต่อความขัดแย้งอย่างไร หากเอาประชาชนเป็นตัวตั้งเชื่อว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ไม่ได้เกิดจากประชาชน แต่เกิดจากนักการเมือง ที่แย่งชิงอำนาจ โดยมีประชาชนเป็นเหยื่อ ดังนั้นการจะเริ่มแก้ปัญหา ต้องเริ่มจากนักการเมือง
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง กระแสข่าวหลังการปลดล็อกทางการเมืองจะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แทนนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ว่า ขอให้ถึงเวลานั้นก่อน เพราะมีเวลาอีก 2 เดือน ส่วนเรื่องการปลดล็อกของกลุ่มบ้านเลข 111 คิดว่าคงไม่มีแรงกระเพื่อมมากนัก เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา ผ่านการเลือกตั้งมา 2 ครั้ง ก็ไม่มีคนบ้านเลขที่ 111 มาเกี่ยวข้อง จึงคิดว่าไม่น่ามาให้ความสนใจมาก เพราะไม่ได้มีใครกำหนดว่าเมื่อพ้นแล้วจะต้องได้รับตำแหน่งทางการเมือง
ส่วนโอกาสการกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น การเมืองทุกวันนี้ต้องไม่ถือว่ากลุ่มไหนพรรคไหน แต่ต้องคิดว่าอะไรที่ทำให้บ้านเมืองสงบสุข ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจดีขึ้น โดยช่วงปีนี้ เป็นช่วงที่มีโอกาสที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งเรื่องการปรองดอง การแก้รัฐธรรมนูญ ถือโอกาสเริ่มต้นใหม่ ทำให้ประเทศเข้มแข็งขึ้น ต้องมองข้ามและยอมปิดตาข้างหนึ่ง ทุกอย่างจะกลับมาดี ส่วนการทำงานร่วมกับนายเนวินนั้น ที่ผ่านมานายเนวินมีความสุขกับการทำทีมฟุตบอล และได้ทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ถือเป็นการช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับพรรคทางอ้อม
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เมื่อนายอนุทินพ้นการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง มีสิทธิ์ที่จะเล่นการเมืองได้ ส่วนการที่นายชัย ชิดชอบ ระบุว่า นายอนุทิน เหมาะที่จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ถือเป็นความคิดเห็นของนายชัย ไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าเหมาะหรือไม่ เพราะเป็นพ่อลูกกัน ทั้งนี้ เชื่อว่าคนที่ปลดล็อกทางการเมืองจะมาช่วยทำให้การเมืองดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้หวังที่จะให้ประเทศชาติ มีความสงบสุข และจะถือโอกาสวางมือ เพื่อพักผ่อนบ้าง และหากจะให้เกิดบรรยากาศปรองดอง จะต้องมีการถอยคนละก้าวเพื่อที่จะทำให้ฟ้าใสขึ้น ส่วนการนิรโทษกรรมให้กับบางคนนั้น คนเราสามารถทำผิดได้ทุกคน และคนที่ผิด ก็ต้องให้โอกาสแก้ไข เมื่อแก้ไขแล้ว ต้องรู้จักให้อภัย เรื่องหนักก็จะกลายเป็นเบา ต้องรู้จักอโหสิให้กัน และต้องมีคุณธรรม
