มติชน 17 เมษายน 2555 >>>
เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 17 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าปีนี้เป็นปีมหามงคลเหมาะที่จะกลับประเทศ ว่า คงไม่ได้หมายถึงการจะขอพระราชทานอภัยโทษอะไร แต่ท่าน (พ.ต.ท.ทักษิณ) ก็มีสิทธิเพราะเป็นคนไทย แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรกเป็นเรื่องที่เกิดจากการปฏิวัติ แล้ว คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) คนก็รู้กันว่า คตส. เป็นศัตรูกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มาก่อน ถ้าช่วงนั้นไม่ตั้ง คตส. และส่งให้กับ ป.ป.ช. ผลคดีก็อาจเป็นอีกแบบหนึ่ง ฉะนั้นเมื่อ คตส.เริ่มต้นไม่ถูก ผลของ คตส. ก็ไม่ถูก แล้วทำไมพรรคฝ่ายค้านถึงชอบเหลือเกิน ถ้าเป็นการดำเนินคดีธรรมดาๆ ไม่มีการปฏิวัติไม่ตั้งองค์กรพิเศษตนก็ยอมรับได้
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ช่วงเวลาผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง นั้นก็เหมาะสมอยู่ในเวลานี้ โดยให้รัฐสภาเป็นคนตัดสิน การเสนอกฎหมายมี 4 แนวทาง คือ
1. รัฐบาล
2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนเพียง 20 คน
3. องค์กรอิสระ และ
4. ประชาชน
โดยให้สภาตัดสิน อภิปรายในสภาและใช้เสียงข้างมากว่าเห็นด้วยหรือไม่ และการเขียน พ.ร.บ.ปรองดอง ไม่ควรระบุ ตัวบุคคล รายละเอียด แต่ต้องเขียนภาพรวมและทุกภาคส่วนต้องได้รับความเป็นธรรมที่เกิดจากผลกระทบจากการปฏิวัติ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยว่าการปฏิวัติจะมาสร้างหรือมาทำลายคนหนึ่งคนใด และออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ก็ไม่ได้ด้วย เพราะ พ.ร.ก. จะต้องเป็นเรื่องฉุกเฉิน จำเป็นและเร่งด่วน
"ขณะนี้ ส.ส. ที่จะร่วมกับผมนั้นมีเยอะทั้งเหนือและอีสาน และไม่จำเป็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามารับโทษและขออภัยโทษ เพราะ พ.ร.บ.ปรองดอง ทุกคนได้ประโยชน์ หมดขอเพียงให้พรรคเอ่ยปากใช้ผม ส่วนจะต้องล้างคดี คตส. หรือไม่ ตนก็พูดรายละเอียดไม่ได้มาก ถ้าพรรคใช้ผมถึงเวลาก็ต้องเปิดต่อสาธารณะ ไม่จำเป็นต้องเป็นมติพรรคก็ได้ ยกหูโทรศัพท์สั่งการมอบหมายมาเลยก็ได้" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ส่วนรายงานวิจัยของสถาบันพระปกเกล้านั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนก็ไม่เห็นด้วย เป็นใครมาจากไหน มาวิจัยแล้วจะให้มีผลทางกฎหมาย ดังนั้น ต้องเป็น พ.ร.บ.ปรองดอง เท่านั้น ส่วนข้อเสนอของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่จะให้ปรองดองต้องมีการเจรจาในทางลับกันก่อนนั้น ตนคิดว่าก็ทำไม่ได้ ต้องดัน พ.ร.บ.ปรองดอง ผ่านสภาแล้วโหวตเห็นด้วยไม่เห็นด้วยเท่านั้น
