พท. เปิดเวที ′สุนทรียเสวนา′ คุย ′อำมาตย์-กองทัพ-เสื้อเหลือง′ เหวงเชื่อปรองดองจบปี 56

มติชน 17 เมษายน 2555 >>>


′วุฒิสาร′ แนะลดข่าวขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 16 เมษายน นายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะหัวหน้าคณะวิจัยรายงานปรองดอง ของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ประเด็นปรองดองจะเกิดขึ้นเร็วหรือช้าไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่สิ่งที่ควรทำก่อนอันดับแรก คือ
1. สื่อหลักควรลดการเสนอข่าวที่เป็นความขัดแย้ง และ
2. ม็อบควรลดการออกมาชุมนุมที่ละเมิดกฎหมาย จากนั้นควรมีการสานเสวนาโดยหาจุดร่วมที่ตรงกันนายวุฒิสารกล่าวว่า ข้อเสนอเรื่องการลดและถอยจุดยืนของทุกฝ่ายเพื่อหาทางออก และบรรยากาศเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะพรรคการเมืองก็เคยเชิญหัวหน้าพรรคมาคุยกันเรื่องการไม่แตะต้องสถาบันมาแล้วก็เป็นเรื่องที่ดี ดังนั้น ควรมีการพูดคุยกันในประเด็นจุดร่วม แม้แต่การนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็พูดถึงการกลับมาสู้คดี ไม่ได้แปลว่าจะต้องเร่งเรื่องการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้งหมด หรือการให้อภัยคดีที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง ต้องคุยกันว่าแบบไหนที่ยอมรับได้
   "สังคมคาดหวังว่าเมื่อเกิดกระบวนการพูดเรื่องปรองดองขึ้นมาแล้ว ก็ไม่อยากให้เป็นแค่ไฟไหม้ฟาง จึงควรพูดคุยสร้างบรรยากาศให้ดี ก่อนจะเปิดเผยประเด็นที่เป็นจุดร่วมสู่สาธารณะ" นายวุฒิสาร กล่าว

′บิ๊กบัง′ ติงเร่ง กม. ปรองดอง

ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ (มภ.) ในฐานะประธาน กมธ.ปรองดอง สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี ส.ส.เพื่อไทย (พท.) ระบุว่า จะออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปรองดองว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรค พท. และยังไม่เห็นรายละเอียดร่าง พ.ร.บ. ว่ามีเนื้อหาอย่างไร จะออกมาในรูปแบบไหน กมธ.ปรองดอง มีหน้าที่เพียงหาวิธีการปรองดองเท่านั้น โดยผลการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้า ก็มีข้อเสนอแนะหลายอย่าง อาทิ การค้นหาความจริง การให้ความเป็นธรรม และองค์ประกอบต่างๆ ตนเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ต้องนำมาพิจารณาร่วมกันในการสร้างความปรองดอง
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า การที่ พท. เสนอให้ออกเป็น พ.ร.บ. หรือ พ.ร.ก. ก็ตาม ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องศึกษาว่าการจะดำเนินการในลักษณะดังกล่าวจะไปเพิ่มความขัดแย้งให้แก่สังคมหรือไม่ ขอให้นำข้อเสนอแนะของสถาบันพระปกเกล้าไปศึกษา และต้องฟังความเห็นส่วนใหญ่ของสังคมว่าเห็นอย่างไรด้วย

′วัฒนา′ ยัน ′แม้ว′ กลับชอบธรรม

ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องนโยบายปรองดอง หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯระบุว่าจะกลับไทยภายในปีนี้ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ไม่ตอบคำถามนี้และเดินฝ่าวงล้อมสื่อมวลชนขึ้นรถออกจากทำเนียบรัฐบาลไปทันที
นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท. ในฐานะรองประธาน กมธ.ปรองดอง เปิดเผยถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าจะกลับประเทศภายในปีนี้ว่า ท่านก็พูดแบบนี้มาหลายปีแล้ว แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมา กระบวนการทางกฎหมายต้องถูกต้องชอบธรรม กระบวนการทั้งหลายที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
นายวัฒนากล่าวว่า มีผลการศึกษาจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) หรือสถาบันพระปกเกล้าเอง ต่างเห็นตรงกันว่า การบังคับใช้กฎหมายที่เกิดขึ้นภายหลังการปฏิวัติไม่ชอบด้วยหลักนิติธรรม อาทิ การยุบพรรคการเมือง การตัดสิทธิทางการเมือง หรือกระบวนการของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สิ่งเหล่านี้ล้วนนำมาซึ่งความขัดแย้งทั้งสิ้น ดังนั้น เราจึงควรล้มเลิกกระบวนการต่างๆ ที่ไม่เป็นธรรม เพื่อคืนความชอบธรรมให้แก่ผู้ที่รับผลกระทบ

ยันไม่มีนิรโทษฯ ′ทักษิณ′

นายวัฒนากล่าวว่า การคืนความเป็นธรรมต้องเริ่มต้นจากการเยียวยาก่อน ซึ่งไม่ได้หมายความถึงการนิรโทษกรรม แต่เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยปกติ ไม่ใช่แค่ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว แต่รวมถึงประชาชนทุกคน การที่จะกล่าวหาใคร ทำไมไม่ให้เขาได้พิสูจน์ตัวเอง เราต้องให้เขากลับมาพิสูจน์ตัวเองภายใต้กระบวนการยุติธรรมที่เป็นสากล สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องมีการออกกฎหมาย แต่จะเป็นในรูปแบบไหน หรือใครจะเป็นผู้ดำเนินการ ก็ต้องว่ากัน
   "การออกกฎหมาย ไม่ใช่จะเป็นการไปล้มเลิกความผิด แต่ให้เขากลับมาเข้าสู่การตรวจสอบ ในกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องใหม่ เอาความจริงมาพูดกัน อย่าไปสร้างเงื่อนไข หรือเอาเปรียบคนที่ได้รับผลกระทบ ผมยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่ในกระบวนการนิรโทษกรรม คนที่ได้ประโยชน์คือประชาชน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือก สุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ มากกว่า อย่าไปกลัวว่าใครจะลอยนวล" นายวัฒนา กล่าว

′เหวง′ ชี้ปี 56 ปรองดองเสร็จ

นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท. และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การดำเนินการสร้างความปรองดองเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกระบวนการสร้างความปรองดอง ตามรายงานของ กมธ.ปรองดอง และผลวิจัยการสร้างความปรองดองของสถาบันพระปกเกล้า ขณะนี้ พท. กำลังจัดรูปแบบต่างๆ อยู่ เพื่อให้ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการสร้างความปรองดองสำเร็จภายในสิ้นปี 2556
นพ.เหวง กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เราเชื่อมั่นว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม จากนั้น จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และยกร่างรัฐธรรมนูญ คาดว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม 2556

ใช้ ′สุนทรียเสวนา′ คุยทุกกลุ่ม

นพ.เหวง กล่าวว่า ส่วนการสร้างความปรอง ดองนั้น พท. อยู่ระหว่างออกแบบการ "สุนทรียเสวนา" กับฝ่ายต่างๆ ตามแนวทาง กมธ.ปรองดอง โดยจะให้พูดคุยกัน 2 ระดับ คือ
1. ระดับบน หมายถึงกลุ่มที่มีอำนาจในการตัดสินใจถึงทิศทางการต่อสู้ การเคลื่อนไหว ที่ส่งกระทบต่อความขัดแย้งภายในประเทศ ซึ่งคือกลุ่มที่คนเสื้อแดงเรียกว่าอำมาตย์ ผู้นำมวลชน เช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) รวมถึงกองทัพ
2. ระดับล่าง คือระดับประชาชน ที่เป็นส่วนสำคัญที่มีความขัดแย้งอยู่ ให้เกิดบรรยากาศการพูดคุยและการสร้างความปรองดอง เพื่อให้ฝ่ายต่างๆ ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความอยุติธรรม ความไม่เท่าเทียมกัน การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 การตั้ง คตส. ไปจนถึงเหตุการณ์การชุมนุมต่างๆ การสั่งสลายการชุมนุม เมื่อได้ข้อสรุปร่วมกันก็จะนำไปสู่การจัดการด้านความปรองดองว่าจะออกมารูปแบบไหน เริ่มมีผู้แสดงความเห็นว่าควรจะออกมาเป็นกฎหมาย เพื่อให้เป็นรูปธรรม