มติชน 6 เมษายน 2555 >>>
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเสียงข้างมากเห็นชอบรายงานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ว่า หลังจากนี้เมื่อส่งรายงานของกรรมาธิการ ไปยังรัฐบาล ก็จะกลายเป็นเรื่องของการรับลูก การชงลูก ระหว่างกรรมาธิการ และรัฐบาล เพื่อนำรายงานดังกล่าวไปเป็นข้ออ้างในการลบล้างผลคดีของ คตส. กับการนิรโทษกรรมต่อไป และจะกลายเป็นชนวนของความขัดแย้งรอบใหม่ และจะเป็นการเริ่มต้นคู่ขัดแย้งคู่ใหม่ ระหว่างกรรมาธิการ กับสถาบันพระปกเกล้า และสถาบันพระปกเกล้ากับรัฐบาล ขณะเดียวกันถ้ามีการนิรโทษกรรมก็จะทำให้เกิดปัญหาลุกลามกลายเป็นวิกฤตของประเทศอีกครั้ง
"เราได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว แต่ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การปรองดองไม่มีทางเกิดขึ้นได้ด้วยวิธีการบังคับเอา การใช้เสียงข้างมากบังคับเอา สิ่งที่จะได้คือ ความยุติธรรมของผู้ชนะ แต่มันไม่มีทางได้ความปรองดองที่แท้จริง ฉะนั้นเป็นหน้าที่ของสังคมที่จะต้องติดตามอย่างรู้เท่าทัน ถ้าเกิดความเสียหายกับบ้านเมืองนอกจากรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ คณะกรรมาธิการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดชอบด้วย" นายจุรินทร์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการนิรโทษกรรมมากน้อยแค่ไหน นายจุรินทร์ กล่าวว่า อนุมานได้ว่าจะต้องกลับมาโดยไม่มีความผิด แสดงให้เห็นว่าจะต้องมีการนำรายงานกรรมาธิการ นี้ไปเป็นข้ออ้างอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่มาจินตนาการเอาเอง โดยไม่มีที่มาที่ไป
เมื่อถามว่า แถลงการณ์สถาบันพระปกเกล้าทั้ง 3 ข้อ ถ้าส่งไปยังรัฐบาลแล้วไม่สามารถกระทำได้ทั้งหมด นายจุรินทร์กล่าวว่า ต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ
1. สถาบันพระปกเกล้าไม่ได้มีความเห็นส่งให้รัฐบาล แต่เขามีความเห็นให้ส่งไปยังคณะกรรมาธิการ
2. การจัดเสวนา สถาบันพระปกเกล้าเขาจะเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน แต่ถ้ารัฐบาลทำรัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพหลัก ซึ่งสภาพของความเป็นกลางและความน่าเชื่อถือได้ มันก็ต่างกัน จะเชื่อได้อย่างไรว่าผลการจัดเสวนาจะเชื่อถือได้ และเขาจะไปหยิบยกบางประเด็นมาดำเนินการหรือไม่
"ไม่สามารถตอบได้ว่ารูปแบบวิธีการล้างผิดของเขาจะออกมาแบบไหน แต่เชื่อว่าธงของการล้างผิดมีอยู่ แต่อยู่ว่าจะทำเมื่อไหร่ และรูปแบบเป็นอย่างไร สิ่งที่เรากังวลไม่ใช่เรื่องของการขัดขวางผลประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง แต่เราเป็นห่วงระบบนิติรัฐ ถ้าคำพิพากษาศาลฎีกายังล้มล้างได้ด้วยการใช้เสียงข้างมาก ต่อไปก็ไม่มีการเกรงกลัวกฎหมาย" นายจุรินทร์ กล่าว
