
'สุริยะใส' จี้ 'สถาบันพระปกเกล้า' ถอนผลวิจัยปรองดอง หลังสภาฉีกเงื่อนไข ชี้หากยังเพิกเฉยคงหนีไม่พ้นต้องตกเป็นจำเลยสังคมแน่
6 เม.ย. 55 นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวถึงการลงมติรับรายงานแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งาติของคณะกรรมาธิการปรองดองว่า การลงมติวานนี้ได้ละเลยและเพิกเฉยต่อเงื่อนไข 3 ข้อ ของสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะที่เป็นเจ้าของงานวิจัยการสร้างความปรองดอง เพราะในแถลงการณ์ของสถาบันพระปกเกล้าที่แถลงไว้เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบัน ระบุไว้ชัดว่าให้ให้ยืดอายุกรรมาธิการปรองดองไปถึงสิ้นปี และให้นำรายงานการวิจัยไปรับฟังความเห็นของประชาชนทั้งประเทศ รวมทั้งสถาบันพระปกเกล้าไม่เห็นด้วยถ้าจะมีการรวบรัดลงมติ แต่จากการประชุมสภาผู้แทนเมื่อวันที่ 5 เม.ย. นั้น ได้ฉีกเงื่อนไขและข้อเสนอแนะของสถาบันพระปกเกล้าทั้ง 3 ข้อ แล้ว ส.ส. ปีกฝ่ายรัฐบาลนอกจากรวบรัดตัดตอนเลือกงานวิจัยบางข้อที่ตัวเองได้ประโยชน์มาอภิปรายแล้ว ยังมีท่วงทำนองของการตำหนิบทบาทของสถาบันฯ อย่างชัดเจน
นายสุริยะใส ระบุอีกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ก็มีความจำเป็นที่ นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ฐานะที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์งานวิจัยต้องถอนรายงานการวิจัยออกมาทันที ตามที่ได้แถลงจุดยืนไว้ โดยไม่ต้องกลับไปขอความเห็นหรือมติจากสภาสถาบันพระปกเกล้าอีกแต่อย่างใด ตนไม่เชื่อว่าสถาบันพระปกเกล้าจะปล่อยเลยตามเลยหรือไม่สนใจในจุดยืนและเงื่อนไขการปรองดองที่ตัวเองประกาศไว้ เพราะถ้าเพิกเฉยหรือไม่รับผิดชอบต่อแถลงการณ์ที่เคยประกาศให้สังคมทราบก่อนหน้านี้ สถาบันพระปกเกล้า ก็หนีไม่พ้นต้องตกเป็นจำเลยสังคมอย่างแน่นอน เพราะที่ประชุมสภาผู้แทนฯ ซึ่งเมื่อวานไม่ใช่บรรยากาศของการนับหนึ่งการปรองดอง แต่เป็นการนับหนึ่งสงครามปรองดอง
"สำหรับอนาคตการปรองดองจากนี้ไป ผมคิดว่าการประชุมสภาเปลือยธาตุแท้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลชัดเจนแล้วว่าปรองดองหมายถึงการนิรโทษกรรมและฟอกผิดและคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวเท่านั้น อยากเตือนพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลว่าเมื่อไหร่ที่รัฐบาลเดินหน้าเรื่องนี้ก็เท่ากับไปปลุกขบวนการต้านทักษิณกลับมาอีกครั้งและสังคมการเมืองไทยก็จะวนกลับไปนับหนึ่งก่อน 19 กันยายน 49 อีกครั้งอย่างแน่นอน" นายสุริยะใส กล่าว
