พล.อ.เปรม แนะเกิดมาต้องตอบแทนแผ่นดิน ย้ำประเทศเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยึดเป็นของตัวเองไม่ได้ สาปแช่งคนทรยศต้องพินาศ
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวบรรยายพิเศษในงานสัมมนาเนื่องในโอกาสครบรอบ 12 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติตอนหนึ่งว่า
"ผมเชื่อมั่นว่าชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครมีสิทธิยึดถือเป็นของตนเองได้ พระสยามเทวาธิราชมีจริง ซึ่งพระสยามเทวาธิราชจะปกป้องคนดี สาปแช่งคนที่ไม่ดี คนที่ทรยศต่อชาติบ้านเมืองให้พินาศไป ซึ่งผมเชื่ออย่างนั้น ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เป็นคุณธรรมจริยธรรมของแต่ละบุคคล" พล.อ.เปรม กล่าว
พล.อ.เปรม กล่าวว่า จริยธรรมค้ำจุนชาติมีความหมายมาก แต่เมื่อพูดถึงคำว่า จริยธรรม มีความเห็นส่วนตัวต้องพูดถึงคำว่าคุณธรรมควบคู่ไปด้วย เพราะจะมีความสมบูรณ์ในความหมายมากขึ้น
ทั้งนี้คนเราเกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ตนเป็นคนคิดเองคำพูดนี้ด้วยตนเองตั้งแต่สมัยอยู่ที่ตึกไทยคู่ฟ้า และก็พูดให้สาธารณะได้ยิน ปัจจุบันยังชอบพูดประโยชน์นี้ ชอบพูดมากๆ แต่ก็คิดว่า คนชอบฟังคงมีไม่เท่าไหร่
"การตอบแทนบุญคุณแผ่นดินคือ การทำความดี เพื่อให้แผ่นดินมีความสุข ช่วยกันสร้างคนดีในแผ่นดิน ให้มีจำนวนมากจนต้องเบียดเสียดกัน อีกความหมายหนึ่งคือ ไม่ทำชั่ว ไม่ทำให้แผ่นดิน คนในแผ่นดินมีปัญหา ซึ่งทั้ง 2 ประการนี้เฉพาะคนดีเท่านั้นที่ทำได้ เพราะเป็นเรื่องที่ทำยาก การทำความดีคนไม่ดีทำไม่ได้"
ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่างถึงการทำความดีว่า แม้ทำยาก แต่ยังสามารถทำได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยากกว่านั้น คือการรักษาความดี ให้คงอยู่กับผู้ทำจนกระทั่งตาย อันนี้ค่อนข้างยากที่สุด ทั้งนี้ มีหลายคนในประเทศของเราทำความดีให้ปรากฏ จนได้รับการยกย่องสรรเสริญ ศรัทธา แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถรักษาความดีไว้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก
สำหรับการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน พลเอกเปรม กล่าวว่า สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
1. มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2. ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดี อันนี้ก็ไม่ต้องมีคำอธิบาย
3. คนที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้องประพฤติปฏิบัติตนให้แบบอย่าง เป็นคนไทยต้องมีความเป็นไทย มีความเป็นธรรม เป็นนายคนต้องมีแต่ให้ รับได้อย่างเดียวคือรับความทุกข์ ลำบากยากเข็นของผู้อื่น
4. ตอนอยู่ที่ตึกไทยคู่ฟ้าสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ผมเห็นว่า ปัญหาของชาติบ้านเมืองที่เป็นปัญหาสำคัญที่สุดคือ ความยากจน เราจะต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ด้วยการหาหนทางขจัดความยากจนในประเทศของเราให้ได้
5. เราต้องยึดถือปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
6. ต้องทำงานให้คุ้มค่าคุ้มเวลา คุ้มความเป็นคน เกิดเป็นคนต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน พร้อมยึดหลักประหยัด สะดวก เรียบง่าย สะดวก
7. ต้องดำรงรักษาวัฒนธรรมของไทย เพราะเป็นการรักษาบ้านเมืองของเรา ซึ่งสามารถทำได้ โดยไม่ต้องฝึกเล่นโขนที่ยากๆ แต่ทำได้โดยรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น พูดภาษาถิ่น ไม่ควรเห่อหรือลอกเลียนฝรั่งจนไม่เหลือความเป็นไทย น่าเสียดายความเป็นไปของเรา
8.ผู้ใหญ่ ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ต้องดูแลยุวชน เยาวชนของประเทศ เพราะเด็กมีความสำคัญต่อชาติบ้านเมือง แม้ความรับผิดชอบไม่ได้มีบัญญัติไว้ที่ไหน ในรัฐธรรมนูญก็ไม่มี แต่ถ้าเรามุ่งตอบแทนคุณแผ่นดินก็ต้องถือเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบดูแลให้เด็กเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของชาติบ้านเมืองให้ได้
9.คนดีเท่านั้นที่จะมีคุณธรรมและจริยธรรม แต่ถ้าเปิดพจนานุกรมราชบัญญัติสถานจะพบนิยามของคุณธรรมจริยธรรมที่ไม่ค่อยชัดเจน ซึ่งจากการไปศึกษาหาความรู้ เราต้องพูดคำว่าคุณธรรม จริยธรรมไปพร้อมๆ กันถึงได้ความสมบูรณ์ ทั้งนี้ คุณธรรม หมายถึง ความดีที่มีอยู่ในใจของตน ทำให้ผู้มีคุณธรรมประพฤติดี มีธรรมะควบคุมจิตใจ ให้คิด พูดดี โดยเฉพาะกับผู้อื่น คุณธรรมเป็นความรู้นึกคิดดี ที่เมื่อยึดมั่น จะฝั่งอยู่ในจิตใจ โดยคนที่มีคุณธรรมนั้นจะต้องซื่อสัตย์ คิดดี พูดดี ทำดี คิดตรง พูดตรง ไม่พลิกพลิ้วในการกระทำและคำพูด มีเมตตาช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ ไม่เบียดเบียนคนอื่น แม้ไม่มีผู้พบเห็น ไม่ข่มเหงผู้ที่อ่อนแอ ไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง หรือทุจริต ขณะที่ จริยธรรม หมายถึงความประพฤติทางวาจา ที่แสดงออกถึงธรรมะที่มีอยู่ในใจ
จากนั้น พล.อ.เปรม ได้เป็นประธานมอบรางวัลเกียรติยศ "คนดีแห่งแผ่นดิน" ให้แก่ นายชาญชัย จารุวัสตร์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการสถาบันกรรมการบริษัทไทย ที่ผลักดันให้ภาคธุรกิจมีธรรมาภิบาล สร้างประเทศที่ใสสะอาด และนายดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าไทย แกนนำในการอาสารณรงค์และต่อต้านคอร์รัปชั่นในแวดวงราชการ การเมือง ธุรกิจ ทั้งนี้ แม้บุคคล 2 จะล่วงลับไปแล้ว ได้มีตัวแทนมารับมอบรางวัลดังกล่าว