เพื่อไทยประชุม 17 เม.ย. ถกแก้รัฐธรรมนูญ สั่ง ส.ส. ลงพื้นที่แจงประชาชน ปัดไม่ได้รวบรัดแต่เป็นขั้นตอนของสภา พร้อมเดินหน้ากระบวนการปรองดอง ยันออกกฎหมายต้องรับฟังความเห็นตรวจสอบทุกมิติ เชื่อ “ทักษิณ” กลับไทยไม่กระทบปรองดอง แนะทุกฝ่ายควรลืมอดีต...
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ในวันที่ 17 เม.ย. พรรคจะประชุม ส.ส. เพื่อกำหนดท่าทีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะมอบหมาย ส.ส. ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และชี้แจงว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นจุดเริ่มต้นของความปรองดองของคนในชาติ และนโยบายของรัฐบาลหลังบริหารประเทศไป 7 เดือน มีผลงานรัฐบาลที่ทำไปแล้วในปีแรก มีมากกว่า ร้อยละ 50 ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญก็เป็นสัญญาประชาคมที่หาเสียงไว้ ทั้งนี้ การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่ได้รวบรัดรีบเร่ง แต่เป็นไปตามขั้นตอนของสภา ซึ่งหลังจากมีสภาร่างรัฐธรรมนูญแล้วก็ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี จึงจะแล้วเสร็จ แต่กระบวนการเริ่มต้นในสภาน่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 1 พ.ค. นี้
สำหรับการสร้างความปรองดองไม่ใช่ความต้องการของพรรคเพื่อไทยฝ่ายเดียว แต่เป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ในสังคม เห็นได้จากโพลสำนักต่างๆ ที่ออกมาว่าเห็นด้วย และมติของ ส.ส. และ ส.ว. ในสภา ส่วนการจะออกกฎหมายปรองดองหรือไม่นั้น คงต้องใช้เวลาและดูกระบวนการที่ถูกต้อง ซึ่งจะต้องเป็นไปอย่างเปิดเผย และผ่านการตรวจสอบในทุกมิติ หลังรายงานของคณะกรรมาธิการปรองดองส่งไปให้คณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) เพื่อไปหารือกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสถาบันพระปกเกล้า ว่าจะดำเนินการอะไรต่อไป โดยเฉพาะประเด็นการจัดสัมมนาหรือจะเสวนาหาแนวทางว่าจะออกมาแบบใด และเมื่อได้ข้อยุติที่เกิดจากการเห็นพ้องของทุกฝ่ายแล้ว ปคอป. จึงจะส่งเรื่องกลับมายังคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ส่งต่อให้สภาฯ ดำเนินการต่อ ดังนั้น ทุกเรื่องต้องมีการถ่วงดุล ตรวจสอบ กลั่นกรองทุกมิติ เพื่อให้กฎหมายปรองดอง ต้องมีการรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ไม่ใช่การใช้เสียงข้างมากลากไปอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศจะเดินทางกลับไทยใน 3-4 เดือน ว่า ถือเป็นสิทธิ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะบอกผ่านไปยังประชาชนที่ชื่นชอบ และที่ผ่านมามีการพูดในลักษณะเดียวกันมาโดยตลอด ซึ่งส่วนตัวอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับโดยเร็ว และจะต้องกลับอย่างสมเกียรติ และเชื่อว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทยจริง ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการปรองดองที่รัฐบาลกำลังเดินหน้า ซึ่งทุกฝ่ายควรลืมอดีต ไม่นำมาเป็นประเด็นปัญหา และกระบวนการทางกฎหมายจะยกเลิกหรือไม่นั้น ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง แต่การปรองดองจะต้องเดินหน้าต่อไป
