ท่านปรองดอง: สุสานมนุษยธรรม
เลิกแล้วเลิกราต่อกันคนผิดไม่ต้องลงทัณฑ์กรรม 112 ลงดาบไว้ทารุณได้เอาใจพ่อ (พ่อทิ,พ่อต.พ่อพงษ์,...)
ต่อเมื่ิอท่านเอ่ยเรื่องปรองดองกลอนบทกาพย์ไม่มีอะไรให้ผมเขียนเทียนไขส่องแสงสว่างถูกปิดพร่ากล้าคิดกล้าแสดงหล่นหายย้ายโยกสู่ความดำมืด
ยืนยันยืนหยัดเพื่อสิ่งใดไกลห่างความเท่าเทียมเกวียนทนขนทรายเข้าประตูสุสานสาปแซ่ซ้องโศกเศร้าไร้ซึ่งมนุษยธรรม
ไอดินกลิ่นดาว
ปฏิรูปคือ ขั้นตอน ของการปรับปรุงเสริมสร้าง ความเข้มแข็ง หรือ แข็งแรง ให้กับระบอบ หรือ ระบบ เช่นการปฏิรูประบอบประชาธิปไตย หรือ การปฎิรูป ระบบเศรษฐกิจทุนนิยม
หรือการปฎิรูป ในนิยามของ รศ.วิทยากร เชียงกูล คือ การปฏิรูปก็น้องๆ การปฏิวัติ คือ ต้องเปลี่ยนแปลง โครงสร้างสังคม เนื้อหาสาระสำคัญด้วย ไม่ใช่ทำแค่โครงการเล็กๆ น้อยๆ หรือ เปลี่ยนแปลง แต่รูปแบบภายนอก
หรือ การปฎิรูป ในนิยามของ อ.ใจ อึ้งภากรณ์ คือ การปฏิวัติที่ดีก็นำไปสู่ การปฏิรูปที่ดีด้วย และส่วนใหญ่ การปฏิรูปมาจากการลุกขึ้นสู้ เช่น ในประเทศไทย พฤษภาทมิฬ ปี 2535 ก็นำไปสู่ รัฐธรรมนูญประชาชาติประชาธิปไตยชนชั้นกลาง เพื่อสร้างพรรคการเมือง และระบบการเลือกตั้ง ที่เข้มแข็ง
ไม่ว่าใครจะนิยาม ตำแหน่งแห่งที่ ของชุดการอธิบายการปฎิรูป อยู่ในความหมายใด แต่ที่ผมนำมาประกอบนั้น ปฎิรูปคือ แก่นแท้ที่ลากเส้น มาจากการเปลี่ยนแปลง ของการปฎิวัติ การลุกขึ้นสู้ และหรือการโค่นล้มระบอบ/ระบบเก่า อย่างการปฎิวัติอภิวัฒน์ 2475 ซึ่งการใช้คำว่าปฎิวัติ ที่แล้วๆมาเป็น เพียงการรัฐประหารยึดอำนาจของกลุ่มนายทหารและไม่ได้เปลี่ยนแปลง โครงสร้างชั้นใดๆ
เมื่อการปฎิรูป ถือกำเนิดจากครรภ์ แห่งมารดาการปฎิวัติ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการต่อสู้/
ลุกขึ้นสู้/รื้อถอนโครงสร้างระบอบ/ระบบเก่า แต่การที่เสื้อแดง,พรคเพื่อไทย,แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไม่สามารถและปฎิเสธที่จะแตะต้องเปลี่ยนแปลง แก้ไข ปรับปรุง รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายใดๆ อันเกี่ยวข้องกับ อำนาจประมุขแห่งรัฎฐาธิปัตย์หรือ หมวดหมู่สถาบันพระมหากษัตริย์ เช่นในเรื่ององคมนตรีเพราะว่า การต่อสู้ที่ผ่านมายังไม่ถึงชัยชนะระดับโครงสร้างส่วนบน (อุดมการณ์/ปรัชญา/แนวคิด/กฎหมาย)
แต่เป็นชัยชนะ ในระดับโครงสร้างส่วนล่าง มิติทางสังคม เท่านั้น
ชัยชนะระดับล่างที่ เสื้อแดง นปช. พรรคเพื่อไทย ได้มานั้นเป็น วิถีทางเพื่อเข้าไปค้ำยัน ในระดับการต่อสู้ทางรัฐสภา ตามข้อเรียกร้อง “ยุบสภา” ซึ่งเป็นข้อเรียกร้อง ทางการต่อสู้ก็จริง แต่ไม่ใช่วิถีทางการลุกขึ้นสู้ ในระดับการปฎิวัติหรืออภิวัฒน์และหรือการรื้อถอน ระบอบ หรือ ระบบเก่า
กล่าวอีกอย่างก็คือ อุดมการณ์ ในการชูธงขับเคลื่อน ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง โครงสร้างทั้งหมด ดังนั้นการปฎิรูปใดๆ จึงไม่อาจเกิดขึ้นภายใต้ระบบรัฐสภา ที่มีพรรคเพื่อไทย เข้าไปนั่งบริหารประเทศ
รัฐบาลพรรคเพื่อไทย อย่างเก่งที่สามารถทำได้ภายใต้กฎแห่งการต่อสู้ที่ตนตั้งระดับไว้ จึงทำได้เพียง การบรรเทาปัญหามิติทางเศรษฐกิจทางสังคมและเป็นที่น่าเสียดายในโอกาสที่พรรคเพื่อไทยและหรือ นปช ไม่คิดที่จะรุกมิติทางศิลปวัฒนธรรมที่แหลมคม ซึ่งจะเป็นการต่อยอดชัยชนะมิติทางสังคม
การที่อำนาจทุนเก่า และ เครือข่ายอนุรักษ์นิยม เปิดช่องทางการปรองดอง ดังกรณีที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เชิญพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี มาเป็นประธานในพิธี "รักเมืองไทยเดินหน้าประเทศไทย" ซึ่งรัฐบาลจะจัดขึ้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์2555 ที่ผ่านมา
ดังการให้สัมภาษณ์ของ โฆษกพรรคเพื่อไทยว่า
"...ทั้งนี้ หากมีแขกผู้ใหญ่มาร่วมงานก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลในสายตาประชาชนมีทิศ ทางที่ดีขึ้น เพราะสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ให้ความเคารพผู้ใหญ่ ในบ้านเมือง และ สามารถประสาน กับทุกฝ่ายได้ ซึ่งพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้ตอบรับเข้าร่วมงานแล้ว นอกจากเชิญ พลเอกเปรมแล้ว รัฐบาลยังเชิญแขกผู้มีเกียรติรวมกว่า 400 คนมาร่วมงาน อาทิ ทูตานุทูต ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานศาล ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ หรือ กยน. เป็นต้น”
จากบทสัมภาษณ์ที่ยกมาเป็นการบ่งบอก สัญญานเปิดช่อง แนวทางปรองดองขึ้นมา และเป็นการโยนลูกภูเขาถามทางว่า เอาคุณทักษิณ ชินวัตรกลับบ้านได้ไหม ? ซึ่งก็เข้าทางของฝ่ายอำนาจทุนเก่า เพื่อต้องการหยุดยั้งชัยชนะทางสังคม ซึ่งมันอาจลุกลาม กลายสภาพไปสู่เส้นทางอุดมการณ์ ประชาธิปไตยแท้จริง ในทางลุกขึ้นสู้ระดับปฎิวัติอภิวัฒน์รื้อ ถอนโครงสร้างระบอบ/ระบบเก่า
ในทัศนะ แห่งการปรองดองนั้น มาตรา 112 ในประมวลกฎหมายอาญาและความผิดใน พ.ร.ก. ในสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีเผาศาลากลาง,เซ็นทรัลเวิลด์ สองข้อกล่าวหา ที่ถูกฝ่ายทุนเก่าอนุรักษ์นิยมให้คงเป็นความผิด และกักเอาไว้ ไม่ให้ปฎิรูป ปรับปรุงแก้ไข เพราะ ม.112 กับ เผาศาลากลาง เป็นนัยยะวิถีทางอุดมการณ์ แห่งการลุกขึ้นสู้ จึงจำเป็นต้องถูกกักไม่ให้ สองข้อกล่าวหานี้ เป็นเรื่องมีพลังแห่งเหตุผลทางสังคม
ซึ่งอันที่จริง กฎแห่งการลุกขึ้นสู้ ข้อกล่าวหาทั้งสอง เป็นเรื่องผิดเสียยิ่ง
