
เมื่อนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล (เสี่ยตือ) ในฐานะแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา คนในบ้านเลขที่ 109 ที่ต้องถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมืองไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นมือขวาคนสนิท ของ "พญามังกร" แห่ง จ.สุพรรณบุรี อย่างนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ให้เกียรติกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ออกมาแสดงความคิดเห็นในช่วงเทศกาลแห่งความสุขคนไทย (วันสงกรานต์) กับเรื่องร้อนๆ ทางการเมือง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักวิชาการ หรือกลุ่มมวลชนจากฟากฝั่งใด หรือแม้แต่ประชาชนคนไทย ก็ไม่ควรจะมองข้าม
"ทุกคนปรารถนาที่จะเห็นความปรองดองเกิดขึ้น จึงมีความพยายามคิดหารูปแบบเพื่อนำไปสู่ความปรองดอง จนมีหลากหลายรูปแบบ แม้กระทั่งการให้ อดีตนายกฯ ทักษิณ พูดคุยกับ ประธานองคมนตรี ซึ่งทุกคนก็ล้วนแต่อยากจะเห็นความปรองดองกันทั้งสิ้น ผมคิดว่าเรากำลังลองแนวทางรัฐสภากันอยู่ว่าจะได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องไปลองแนวทางอื่น ซึ่งมีอีกหลายแนวทาง" แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า การให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาคุยกัน หรือการให้แต่ละกลุ่มมาคุยกันว่าจะทำอย่างไร เพราะไม่มีใครอยากให้บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ เพราะความปรองดองเป็นสิ่งที่ผู้คนในระบอบประชาธิปไตยต้องการเห็น ซึ่งแนวทางรัฐสภาอาจจะเป็นอีกแนวทางที่อาจทำให้บรรลุเป้าหมายตามที่คนคาดหวังไว้ แต่สุดท้ายมันก็เกิดความบานปลาย ความขัดแย้ง
"ผมเชื่อว่าสังคมไทยมีทางออก เพราะเรามีเป้าหมายเดียวกันที่จะให้ทุกคนปรองดองและประเทศชาติสันติสุขอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาคใต้ หรือการแตกแยกทางความคิด ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน แต่มีจุดที่จะเดินไปยังเป้าหมายแตกต่างกัน ซึ่งเรากำลังแสวงหาหนทางนั้นอยู่
การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลังสงกรานต์จะเป็นอย่างไร ?
ไม่อยากให้มองในแง่ลบ แต่อยากให้มองแง่บวกมากกว่า เนื่องจากการที่อดีตนายกฯ ทักษิณ เดินทางมาลาวและกัมพูชา มันจะทำให้เกิดการไปมาหาสู่ การรดน้ำดำหัว น้ำอาจจะทำให้คนใจเย็นและมีสติขึ้น ผมคิดว่าสิ่งที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ต้องการเห็นในตอนนี้คือ สังคมคืนสู่สภาวะปกติ คุณอภิสิทธิ์ หรือ พล.อ.สนธิ ก็เชื่อว่าสุดท้ายมีเป้าหมายเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น เราอย่างเพิ่ง "ตีตนไปก่อนไข้"
หลังสงกรานต์คาดว่าจะมีมวลชนหลายกลุ่มมาเคลื่อนไหว ?
เราแค่คิดคาดการณ์ไป แต่ความจริงอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ วันนี้เหตุการณ์ยังไม่เกิด อย่าหวาดวิตกไปก่อน ผมเชื่อว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดสังคมไทยจะมีสติในการคลี่คลายปัญหา ผมไม่มองในแง่ร้าย เพราะสงกรานต์เป็นช่วงปีใหม่ การรดน้ำดำหัวอาจจะก่อให้เกิดสันติไมตรีช่วงนั้นก็ได้
ท่านสนับสนุนหนทางของสถาบันพระปกเกล้าหรือไม่ ?
ผมสนับสนุนหนทางไหนก็ได้ เพราะมันสามารถลองผิดถูกได้ตลอด ถ้าลองแล้วไม่ได้ก็หาหนทางใหม่ ซึ่งดีกว่าไม่มีหนทางเลย ในระบอบประชาธิปไตยไม่มีใครได้ 100% หรือเสีย 100% ที่สุดแล้วก็ต้องปรองดองกัน
นี่ก็นับเป็นแนวคิดที่ดูจะเป็นการคิดแบบที่เรียกว่า "คิดบวก" ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า คนไทยทุกคนก็อยากให้การเมืองเป็นไปในแบบที่ นายสมศักดิ์เสนอ แต่ในความเป็นจริงจะเป็นเช่นไร จะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แบบหนังน่ารักๆ หรือจะจบแบบ "เลือดนองท้องช้าง" แบบภาพยนตร์บู๊ล้างผลาญ สังคมไทยจะต้องเป็นผู้เลือก และคงต้องเฝ้าดูความเป็นไปต่อจากนี้ว่าอยากให้หนังจบลงแบบใด ?
