วันที่ 27 เมษายน 2555 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง ผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่อง ขอให้ตรวจสอบจริยธรรม นายจรัล ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไปเป็นผู้บรรยายพิเศษในการอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 3 ประจำปี 2554 ที่ห้องประชุมชั้น 7 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 เมษายน 2555 ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ผู้ถูกร้องคือ นายจรัล ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่อยู่ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร A เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพ 10210
ข้อ 2 ข้อเท็จจริง วันที่ 20 เมษายน 2555 ช่วงเช้าประมาณเวลา 10.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดนัดอ่านคำสั่งตามคำร้องเรื่องพิจารณาที่ 3/2555 และเรื่องพิจารณาที่ 4/2555 ซึ่งมีคณะกรรมการตุลาการออกนั่งบัลลังค์เพื่ออ่านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 16/2555 และคำสั่งที่ 17/2555 จำนวน 7 ท่าน จากจำนวนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 ท่าน โดยหนึ่งในตุลาการที่ไม่ได้นั่งบนบัลลังค์คือ นายจรัล ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงตามข่าวที่เกี่ยวข้อง(สิ่งที่ส่งมาด้วย) ว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 20 เมษายน 2555 นายจรัล ภักดีธนากุล ในฐานะ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ไปกล่าวบรรยายพิเศษเรื่องมาตรฐานจริยธรรมทางการเมือง กับการสร้างจิตสำนึกสาธารณะหลักการกับข้อเท็จจริง แก่นักศึกษาที่เข้าอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 3 ประจำปี 2554 หรือ พตส. 3 ณ ห้องประชุมชั้น 7 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
จึงเกิดประเด็นตามมาว่า การที่นายจรัล ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหน้าที่ในการพิจารณาวินิจฉัยคดีในศาลรัฐธรรมนูญ ทำไมจึงไม่ออกนั่งบัลลังค์ในเช้าวันที่ 20 เมษายน แต่กลับไปเป็นวิทยากรทำการบรรยายในหลักสูตร พตส. 3 ดังกล่าว ซึ่งข้อเท็จจริงอาจมีปัญหาตามมาว่า การกระทำดังกล่าวจะเป็นการขัดต่อประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง จริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่
ข้อ 3 ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ ประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องจริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ ในข้อที่เกี่ยวข้อง เช่น ในหมวด 4 จริยธรรมเกี่ยวกับกิจการอื่น ข้อ 26 วรรคสอง กำหนดว่า “ผู้พิพากษาจักต้องไม่ประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพ หรือกระทำกิจการใด อันจะกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือเกียรติศักดิ์ของผู้พิพากษา” หรือข้อ 28 กำหนดว่า “ผู้พิพากษาไม่พึงแสดงปาฐกถา บรรยาย สอน หรือเข้าร่วมสัมนา อภิปรายหรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อสาธารณชน ซึ่งอาจกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือเกียรติศักดิ์ของผู้พิพากษา”
ข้อ 4 จากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญควรเป็นไปอย่างเคร่งครัด คือ การปฏิบัติหน้าที่ในการพิจารณาวินิจฉัยคดี แต่สำหรับการกระทำกิจการอื่นนั้น ตุลาการศาลรัฐธรรมนุญสมควรจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น จากข้อเท็จจริงที่พบ จึงเกิดประเด็นให้พิจารณาตามมาว่า เหตุผลที่ทำให้นายจรัล ภักดีธนากุล ไม่ได้ออกนั่งบัลลังค์เพื่ออ่านคำสั่งเช่นเดียวกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 7 ท่าน เป็นเพราะต้องไปเป็นวิทยากรบรรยายในหลักสูตร พตส. 3 ใช่หรือไม่ หากเป็นกรณีตามข้อเท็จจริงดังกล่าว ผู้ตรวจการแผ่นดินควรจะเข้าไปทบทวนประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง จริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่
ข้อ 5 จึงเรียนมาเพื่อขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบประมวลจริยธรรมของศาลรัฐธรรมนูญด้วยว่า เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 อย่างครบถ้วนแล้วหรือไม่ และการกระทำดังกล่าวของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจตุลาการ จะเข้าข่ายส่อไปในทางที่จะขัดต่อจริยธรรมตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ หรือไม่
