คมชัดลึก 30 เมษายน 2555 >>>
'ถวิล' ร้องศาลปกครอง หลัง กพค. เมินเสนอยกเลิกคำสั่งเด้งพ้นเลขา สมช. พร้อมขออำนาจศาลคุ้มครองชั่วคราว แฉ 'ศราวุธ' อคติ ลงมติซ้ำ 2 หน
30 เม.ย. 55 นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ อดีตเลขาธิการสภาความมั่งคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวกรณีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (กพค.) มีมติยกคำร้องภายหลังจากที่ขอความเป็นธรรมจากคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 152/2554 ซึ่งสั่งโอนย้ายตนจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ไปดำรงตำแหน่งอื่นโดยมิชอบว่า วันนี้ได้ไปยื่นร้องต่อศาลปกครอง ตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ทั้งนี้เพื่อ
1. ขอให้ศาลปกครองพิจารณาคำสั่งโอนย้ายที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากเมื่อพิจารณามูลเหตุก่อนหน้านี้เชื่อได้ว่าคำสั่งดังกล่าวที่ให้ตนไปตำแหน่งอื่นนั้น เกิดขึ้นเพื่อต้องการให้ตำแหน่งเลขาธิการสมช.ว่างลง และเปิดทางให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รับหน้าที่แทน ก่อนจะผลักดันให้พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลดำรงตำแหน่งผบ.ตร.มิใช่สั่งย้ายเพราะประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่
2. ขอให้ศาลปกครองวินิจฉัยกระบวนการพิจารณาคำร้องของ กพค. เพราะก่อนหน้านี้เมื่อมีการร้องเรียนไปยัง กพค. แล้วนั้น กพค. ได้ตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยประเด็นดังกล่าวขึ้นมา โดยมีนายศราวุธ เมนะเศวต ประธาน กพค. เป็นประธานกรรมการพิจารณาด้วย และทราบมาว่าผลจากที่ประชุมกรรมการชุดเล็กนั้นมีมติ 2 ใน 3 เสนอยกมติคณะรัฐมนตรีให้โอนย้ายตน แต่เมื่อประเด็นดังกล่าวถูกนำมาในที่ประชุมใหญ่ กพค. และมีการลงมติซ้ำ ผลปรากฎว่าที่ประชุมมีมติ 3 ต่อ 3 ขณะที่นายศราวุธ ที่ได้ลงมติคัดค้านยกเลิกคำสั่งสำนักนายกฯ ซึ่งเปรียบได้กับว่าคัดค้านไม่ให้ตนกลับเข้ารับตำแหน่งเลขาฯ สมช. ในตอนแรกนั้น ใช้อำนาจในฐานะประธาน กพค. ชี้ขาดอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นขอตั้งข้อสงสัยว่ากระบวนการเช่นนี้โปร่งใสหรือไม่ และการกระทำของนายศราวุธเป็นไปด้วยความอคติหรือไม่
3. ขอให้ศาลปกครองคุ้มครองคำสั่งชั่วคราว เพราะหากทอดเวลาออกไปไม่เป็นคุณกับตน
นายถวิล กล่าวว่า ขณะนี้ศาลยังไม่มีกำหนดวันนัดพิจารณา ส่วนหลักฐานที่จะนำไปยื่นคำร้องนั้นส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเดิมที่เคยยื่นให้กับ กพค. รวมถึงจะเพิ่มเติมในส่วนกระบวนการพิจารณาของกพค.ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมีเจตนาที่มิชอบ และเต็มไปด้วยอคติด้วย ทั้งนี้กรณีที่ประชุม กพค. มองว่าผู้ที่ให้ข้อมูลกับสาธารณะถึงการโอนย้ายตนในครั้งนี้คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่มีอำนาจในการสั่งย้ายตนจึงยกคำร้องไปนั้นเป็นประเด็นโต้แย้งที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้มีอำนาจโดยตรงคงไม่ออกมาพูดตรงๆ ว่าต้องการจะย้ายตนให้พ้นจากตำแหน่งแน่นอน
