จตุพร พรหมพันธุ์ เปิดชุดข้อมูลแดง "ใคร" ปฏิวัติ ?

มติชน 4 เมษายน 2555 >>>




   "ประวัติศาสตร์ยังไม่จบ แต่ละส่วนย่อมมีความเชื่อและมีคำอธิบาย ฉะนั้น คำตอบจึงอยู่ในหัวใจของแต่ละคนอยู่แล้ว"
บรรยากาศการเมืองในการประชุมรัฐสภา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่าง "รัฐบาล" กับ "ฝ่ายค้าน" ในการแสดงจุดยืนต่อ "รายงานผลการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง" ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ (กมธ.ปรองดอง)
สะท้อนชัดเจนว่า "ความปรองดอง" ในสังคมไทยที่หลายฝ่ายเรียกร้องนั้นเกิดได้ยากยิ่ง
ซึ่งสอดคล้องกับคำทำนายของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ก่อนหน้านี้ที่บอกเอาไว้ว่า "การปรองดอง" จะเกิดขึ้นไม่ได้หาก "ความจริง" ทุกอย่างยังไม่ได้รับการเปิดเผย
ซึ่ง "พล.ต.สนั่น" มั่นใจว่านั่นจะเป็น "กุญแจ" ที่จะล้างคำสาป "ปรองดอง" !
โดยเฉพาะ "ความจริง" เบื้องหลังการ "ยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549" ซึ่ง "พล.ต.สนั่น" ทิ้งระเบิดคำถามให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน กมธ.ปรองดอง และอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ผู้สั่งเคลื่อนกำลังล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
...ใครอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ?
...พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เกี่ยวข้องหรือไม่ ?
แม้วันนี้ "พล.อ.สนธิ" ในฐานะของ "ผู้กระทำการยึดอำนาจ" จะยังไม่กล้าเปิดปากถึงเบื้องหลังความเชื่อมโยงทั้งหลาย โดยเบี่ยงเบนไปว่า "แม้ตายก็เปิดเผยไม่ได้"
แต่ จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำคนเสื้อแดงคนสำคัญ ยืนยันกับ "มติชนรายวัน" ถึง"ชุดข้อมูล" ของ "คนเสื้อแดง" ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการ "ยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549" ที่นำมาใช้เป็น "ประเด็นหลัก" ในการขับเคลื่อนการต่อสู้ ซึ่งสะท้อน "ความจริง" ในใจ "คนเสื้อแดง" ได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลของคนเสื้อแดง ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการยึดอำนาจครั้งนั้นคืออะไร

ที่มาที่ไปของการรัฐประหารนั้น พวกเราได้พูดไปจนเกือบครบถ้วนแล้วหลายครั้ง และหลังจากนี้ไปก็ไม่น่าจะมีชุดข้อมูลที่เกี่ยวกับเบื้องหลังการปฏิวัติที่มากกว่าที่พวกเราเคยพูดไปแล้วอีก เพราะ พล.อ.สนธิได้บอกเองแล้วว่าตายไปก็ยังพูดไม่ได้ เพราะฉะนั้น มีทางเดียวที่จะทำให้เรารู้ข้อเท็จจริงทั้งหมดคือรอให้ พล.อ.สนธิตาย แล้วเอาหนังสือที่บอกว่าได้เขียนเอาไว้นำออกมาเปิดเผย

คำถามของ พล.ต.สนั่น ถือว่าเป็นข้อมูลใหม่สำหรับคนเสื้อแดงหรือไม่

คำถามที่ พล.ต.สนั่น ถามเป็นคำถามและเป็นคำตอบในเวลาเดียวกัน เป็นคำถามที่ พล.ต.สนั่น ได้เตรียมคำตอบของตัวเองเอาไว้แล้ว เพราะประเด็นคำถามและคำตอบของ พล.ต.สนั่น นั้นผมและแกนนำคนเสื้อแดงได้ยินมาหลังจากช่วงสงกรานต์เมื่อปี 2554 ครั้งหนึ่งแล้ว โดยผ่านพวกเราบางคนมาแจ้งกับผม พวกผมก็ได้ฟังแต่ก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร

คำตอบของ พล.อ.สนธิ ที่ว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลังปฏิวัติ อาจจะไม่ตรงกับที่คนเสื้อแดงพูดมาในช่วง 5-6 ปีนี้

ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ ได้ให้เหตุผลว่าใครอยู่เบื้องหลังมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ผ่านการให้สัมภาษณ์ ต่างกรรมต่างวาระมาตลอด โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.เปรม เราก็ได้ยินมา รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มประชาชนทั้งหลายด้วย

เพราะอะไรจึงเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ พล.อ.เปรม

คือถ้าเราย้อนไปในขณะนั้นก็จะเห็นได้ว่าคนในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เองไม่ใช่หรือ ที่ออกมาสัมภาษณ์ผ่านสื่อก่อนว่า พล.อ.เปรม นั่งบัญชาการอยู่ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ แล้วพฤติการณ์ก็ปรากฏว่า พธม.เป็นผู้เปิดประตูให้เกิดการยึดอำนาจ เหมือนกับรู้เห็นเป็นใจ คือพูดง่ายๆ ว่าสร้างเหตุผลแวดล้อม โดยปลุกระดมสร้างความเชื่อให้กับประชาชน อีกฝ่ายหนึ่งก็ใช้กำลัง เหมือนเป็นพวกเดียวกัน เพราะฉะนั้นเมื่อเขาพูดมันก็เหมือนกับคนที่ร่วมทีมเดียวกันพูด
ถ้าย้อนกลับไปดูตั้งแต่ยึดอำนาจเป็นต้นมา พวกเราจะหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.เปรม มาตลอด ตั้งแต่ก่อนจนถึงหลังการยึดอำนาจ จนกระทั่งคนของ พธม. ออกมาพูดถึงข้อมูลความเกี่ยวโยง แล้วทาง พล.อ.เปรม และคณะก็ไม่มีใครออกมาชี้แจงอะไร ดังนั้น การนิ่งเฉยจึงเท่ากับการยอมรับ เพราะได้ยินคำถาม...เราจึงนำสิ่งนี้มาอธิบายความ จากนั้นวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 พวกเราก็เดินทางไปบ้านสี่เสาฯ ในบริบทที่ว่าต้องการคำตอบจากท่านว่าเกี่ยวข้องตามที่ พธม. ออกมาพูดหรือไม่ แต่เวลานั้นกลับไม่มีคำตอบ แล้วยังกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
สิ่งที่ พล.ต.สนั่น ถาม พล.อ.สนธิ วันนี้ถ้า พล.ต.สนั่น พูดตั้งแต่วันที่เราไปบ้านสี่เสาฯ ปัญหามันก็จะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที แต่พอโอกาสนั้นไม่มีการชี้แจงอะไรกลับมา ถ้าถามว่าวันนี้เชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไรนั้น คำตอบก็อยู่ในหัวใจของทุกคนอยู่แล้ว

คำพูดของแกนนำ พธม. คนหนึ่ง ไม่น่าจะมีน้ำหนักพอให้คนเสื้อแดงปักใจเชื่อถึงขั้นใช้เป็นประเด็นนำในการเคลื่อนไหวต่อสู้
โดยกระบวนการความเชื่อและอีกหลายอย่าง เมื่อประมวลเหตุการณ์ในขณะนั้นประกอบกับสิ่งเหล่านี้ มีการพูดโดยคนที่อยู่ในขบวนการที่เกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจทำให้ปฏิเสธไม่ได้
อย่างที่บอกตอนแรกเราไม่เคยคิดเรื่องที่เกี่ยวโยงกับ พล.อ.เปรม เลย จนกระทั่งสถานการณ์มันพัฒนาไปถึงขั้นมีงานเลี้ยงของ
ผู้ชนะ ขององค์กรต่างๆ โดยมีแกนนำ พธม. ไปร่วมงานที่โรงแรมย่านสุขุมวิท หลังจากนั้นก็มีถ้อยคำต่างๆ ออกมา เราจึงมาเรียงพฤติกรรมแวดล้อมของ พธม. และคนที่ได้รับอานิสงส์ ผลพวงต่างๆ แล้วจึงเดินทางไปที่บ้านสี่เสาฯ เพื่อที่จะถามว่าจริงไหม คือถ้าวันนั้นตอบกลับมาว่าไม่จริง ไม่เกี่ยวข้อง เราก็กลับ แล้วสถานการณ์มันก็จะไม่เลยเถิดมาถึงตรงนี้

หากย้อนไปดูคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลายวาระ อาทิ "มีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" นั้นหมายถึงใคร

ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นคำตอบชัดเจนในเวลานั้น คือขณะที่มีการต่อสู้อยู่แล้ว แต่วันนี้คืออดีตเราได้พูดไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นปัจจุบันก็ไม่ต้องพูดซ้ำอีก เพราะได้แสดงความเห็นไปหมดแล้ว และขณะนี้เราก็ไม่ได้เปลี่ยนความคิดเห็นในส่วนนั้น

ยืนยันในชุดข้อมูลของตัวเอง

วันนี้ถ้าเราเดินทางไปแสวงหาสิ่งเหล่านั้น เราคงไม่ได้เพิ่มอะไรขึ้นมาอีกแล้ว วันนี้เราก็ไม่ได้ลืมอดีต แต่ว่าอดีตมันมีอยู่แค่นั้น เราไม่สามารถที่จะมีข้อมูลมากกว่าที่มีอยู่ได้อีกแล้ว และเราได้วิพากษ์วิจารณ์มาหมดแล้ว โดยที่แต่ละฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นกันครบถ้วน

ถ้า พล.อ.สนธิ ยืนยันว่าเบื้องหลังการยึดอำนาจไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.เปรม แสดงว่าชุดข้อมูลของคนเสื้อแดง อาจจะผิดมาตลอด
ผมยังไม่เคยบอกเลยว่าผมจะเชื่อใครเลย... เพราะสถานการณ์ขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะต้องเชื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะประวัติศาสตร์ยังไม่จบ แต่ละส่วนย่อมมีความเชื่อและมีคำอธิบายของตัวเอง ฉะนั้น คำตอบจึงอยู่ในหัวใจของแต่ละคนอยู่แล้ว สิ่งที่ พล.อ.สนธิอธิบายว่า คิดยึดอำนาจเพียง 2 คนนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ พล.อ.สนธิ พูดมาตลอด 4-5 ปีแล้วเหมือนกัน ดังนั้น วันนี้จึงเป็นเพียงแค่แต่ละคนได้แสดงความคิด ขณะที่ทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป
วันนี้คำพูดของ พล.ต.สนั่น ที่ถามไปยัง พล.อ.สนธิ นั้นมีสิ่งผิดปกติบางอย่าง พล.ต.สนั่น อาจจะมีเจตนาเพียงแค่ต้องการจะสื่อสารอธิบายให้ พล.อ.เปรม แต่ว่าคนที่ต้องการผลผลิตจาก พล.ต.สนั่น ก็เอาไปขย้ำต่อ หลายองคาพยพพยายามขับเคลื่อนรับลูกกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีความพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรง มีการทำร้ายร่างกาย มีการนัดชุมนุม ถึงขนาดที่บางองค์กรซึ่งไม่เคยมีบทบาทเลยมาตลอด 4-5 ปีนี้ ก็ออกมามีบทบาท ออกตัวแรงเลยก็มี ซึ่งพวกนี้มีความหมาย

จะบอกว่าคำถามดังกล่าว อาจจะมีผู้นำไปสู่อุบัติเหตุทางการเมืองอีก

เราไม่เคยมีความเชื่อว่าประเทศนี้จะไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีก ดังนั้น ทุกสุดสัปดาห์ ผมจะลงพื้นที่ไปพบปะกับคนเสื้อแดง เพื่อสร้างความแข็งแรง และยังออกรายการโทรทัศน์สัปดาห์ละ 5 วัน เพื่อต้องสื่อสารไปยังคนเสื้อแดง เพราะเราไม่เคยไว้วางใจสถานการณ์ เนื่องจากตั้งแต่ปี 2475 ก็พูดกันมาหลายรอบแล้วว่ารัฐประหารครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ก็เกิดขึ้นทุกที ซึ่งเราไม่ใช่คนระแวง แต่เป็นคนระวังไม่ให้เกิดขึ้น ประเทศไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้