"ทักษิณ" FB ถึงอังกฤษ หนุนงานวิจัย สร้างอนาคตเด็กไทย

go6TV 15 มิถุนายน 2556

14 มิถุนายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/thaksinofficial ระบุว่า ได้เดินทางจากมหานครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกากลับถึงกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมกับเล่าประสบการณ์หลังจากเยือนสหรัฐที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญกับงานวิจัย รวมทั้งแสดงความยินดีโอกาสครบรอบ 180 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ โดยมีเนื้อหาดังนี้




วันนี้ผมกลับมาถึงลอนดอนแล้วครับ ก็ขอเล่าเรื่องการไปวอชิงตัน ดีซี หน่อยสัก 2 ตอน ครับ

ผมได้มีโอกาสไปพบกับคนในสถาบันที่เป็นสมองช่วยคิดช่วยค้นคว้าวิจัยให้กับรัฐบาลและฝ่ายการเมืองของสหรัฐหลายองค์กร มีความประทับใจหลายเรื่องที่เราต้องเอากลับมาคิดถึงของเราว่า ควรจะมีการพัฒนาของเราอย่างไร

เรื่องแรกคือเขามีองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร (Non-Profit Organization) ที่ให้การสนับสนุนโดยภาคเอกชน เขาจ้างเด็กรุ่นใหม่เรียนหนังสือจากสถาบันดีๆ ในสหรัฐมาทำงานเพื่อทำวิจัยเรื่องราวด้านต่างๆ และออกเป็นยุทธศาสตร์เพื่อนำเสนอรัฐบาลและฝ่ายการเมืองผ่านกรรมาธิการด้านต่างๆ ทำให้สิ่งที่เขาพูด เขาคิด มีข้อมูลเพราะวิจัยรองรับ แล้วความรู้ที่ได้ เขาไม่หวง เขาแจกจ่ายต่อกันจนผมเดินไปเจอใคร ถ้าพูดเรื่องเดียวกัน ก็จะได้คำตอบเหมือนกันทุกองค์กร น่าสนใจมากครับ

ของไทยเรายังขาดตรงนี้มาก ไม่มีองค์กรที่เป็น Think Tank คนที่พูดทุกวันนี้ มีตั้งแต่พูดเพราะเข้าใจเอาเอง พูดเพราะฟังเขามาแล้วเชื่อเลย บางคนก็แต่งเรื่องเอาเองเพราะเรามีหนังสือนิยายมากกว่าตำราเรียน หรือหนังสือที่เป็นองค์ความรู้

ผมได้มีโอกาสซักถามกระบวนการสร้างความรู้ ความคิด และงานวิจัยของเขาแล้ว อยากเห็นบ้านเราเป็นเช่นนั้นครับ

ผมยอมรับว่าเขาเป็นสังคมฐานความรู้ (Knowledge Based Society) จริงๆครับ ถ้าเราอยากจะแข็งแรง อยากสร้างอนาคตให้ลูกหลาน ไม่ใช่อยู่ไปวันๆหนึ่ง เอารุ่นพ่อแม่รอด รุ่นลูกก็ให้ช่วยตัวเองกันเองก็คงต้องปล่อยแบบนี้ล่ะครับ

ผมได้คุยกับคนเหล่านี้ ในเรื่องความสัมพันธ์ ไทย-สหรัฐฯ ซึ่งปีนี้ถือว่าเป็น 180 ปีแห่งการเป็น Treaty Allied คือเป็นพันธมิตรด้วยสนธิสัญญาประเทศแรกในเอเชียกับสหรัฐอเมริกา และในสมัยผม ก็ได้เป็น 1 ในไม่กี่ประเทศในโลกที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) กับสหรัฐ และเรากำลังจะเข้าร่วมเจรจาการค้าในกรอบ TPP ร่วมกับหลายประเทศกับสหรัฐ ในเร็วๆนี้ ที่เขาสนใจมากคือเรื่องพม่าเรื่องความสัมพันธ์กับจีน และ ASEAN โดยรวม ว่าจะเดินกันอย่างไร

ซึ่งตอนผมไปก็เพิ่งสิ้นสุดการประชุมผู้นำสหรัฐ, จีน อย่างไม่เป็นทางการแบบ Retreat ที่แคลิฟอเนียร์ ทำให้ผมได้รู้ว่าเขาคุยอะไรกัน มีอะไรคืบหน้า อะไรไม่คืบหน้า แล้วสหรัฐคิดอะไร

ยอมรับว่าไปเที่ยวนี้คุ้มค่ามากๆ ก็เลยเล่าให้ท่านนายกฯฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องปรับการต่างประเทศของเราให้ Proactive ขึ้นเพราะสหรัฐจะให้ความสำคัญในการประชุมผู้นำในกรอบ EAS ที่เป็นการประชุมควบคู่ไปกับการประชุมผู้นำ ASEAN ทุกปีมาก และประเทศไทยเป็นประเทศสำคัญที่ต้องมีบทบาทครับ