ทีมข่าว นปช.
12 มิถุนายน 2556
เนื่องจากประเด็น "หน้ากากขาว" เป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง และเพื่อให้ทราบที่มาที่ไปทีมงานอ.ธิดาจึงได้ถอดคำพูดจากรายการเหลียวหลังแลไปข้างหน้าเพื่อประชาธิปไตย ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2556 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ผู้ดำเนินรายการ : ช่วงนี้เรามาพูดในประเด็นที่ขณะนี้มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางพอสมควรสำหรับการต่อสู้ในโลกของโซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับ “กลุ่มหน้ากากขาว” หรือ “หน้ากาก V” หรือว่า “หน้ากาก กาย ฟอว์กส์” แหม...หลายชื่อซะเหลือเกินสำหรับกลุ่มนี้ซึ่งก็มีที่มาจากหนังเรื่อง V for Vendetta นั่นเองนะครับ ซึ่งต้องบอกคุณผู้ชมนะครับว่ากลุ่มนี้เขาไปโพสต์โจมตีใน Page หน้าต่าง ๆ ของรัฐบาลนะครับ เขาบอกว่า “ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ข้าขอประกาศว่า ข้าจะล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย” นี่คือข้อความที่เขาไปโพสต์ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นเองนะครับ
เรื่องที่เกิดขึ้นทางด้านคุณเต้น ณัฐวุฒิ
ใสยเกื้อ ก็บอกว่าไม่กลัวหรอกครับสำหรับหน้ากากขาว กลัวคนตาขาวมากกว่า
ช่วงนี้เดี๋ยวเราจะมาพูดคุยกับอาจารย์ธิดาต่อนะครับ
แต่ว่าก่อนอื่นให้อาจารย์ธิดาพูดถึงที่มาที่ไปสำหรับกลุ่มหน้ากากขาวก่อน เห็นว่าที่มาเริ่มมา Occupy Wall Street ด้วย
อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ : ก็มีที่มาหลายอย่าง
แต่ว่าอยากจะให้ท่านผู้ชมทางบ้านได้เข้าใจว่าเรายังมีสมรภูมิแห่งการต่อสู้อยู่ตลอด บางทีเราอาจจะลืม เราเป็นรัฐบาล
แต่ว่าถ้ามองย้อนกลับไปตั้งแต่ก่อนทำรัฐประหาร การใช้ยุทธการข่าวสารหรือ IO
(Information Operations)
โดยคนที่เก่งกาจนั่นก็คือสนธิ ลิ้มทองกุล
และพร้อมทั้งสื่อไม่ว่าจะเป็นค่ายเนชั่น
ค่ายโพสต์ ค่ายผู้จัดการ เรียกว่าถล่มกัน และรวมทั้งฝั่งสื่ออื่น ๆ
ที่เข้ามาในฟรีทีวีต่าง ๆ รวมทั้งในสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งหมดมันเป็นการสู้รบ
ในขณะที่ถ้าคิดดูแล้วในฝั่งฝ่ายประชาธิปไตยหรือพูดง่าย ๆ
ว่าพรรคไทยรักไทยนั้นไม่ได้มองเป็นการสู้รบ
อาจจะประมาทไปหน่อยหรือเปล่า? นะคะ
ก็คือว่ามีความเชื่อมั่นว่าตัวเองทำถูก
และก็ทำดี
เพราะฉะนั้นเริ่มตั้งแต่ที่ว่าความคิดที่ว่าจะต้องการจะล้มคุณทักษิณ ตั้งแต่เรื่องที่ไปนั่งในวัดพระแก้ว ปฏิญญาฟินแลนด์ อันนี้มันเป็นระบบหมดเลยนะ มันก็คือ IO นี่แหละ Information Operations
คือสร้างข่าวสารใหม่ สร้างข้อมูลเท็จ ให้มันมากจนกลายเป็นความจริง
เหมือนที่เคยพูดในสัปดาห์ที่แล้วที่บอกว่าไปดูหนังที่มีการสร้างเรื่องเท็จทั้งหมดให้ดูเป็นความจริง
ชื่อหนังมันก็คือ แว็กเดอะด็อก (ที่ประธานาธิบดีให้คนไปถ่ายทำภาพยนตร์แล้วส่งเป็นข่าวให้สำนักข่าวทั่วโลกจนคนทั้งโลกคิดว่าเป็นเรื่องจริง)
บางอย่าง (โจมตีคุณยิ่งลักษณ์) ทำเป็นภาพน่าเกลียดมาก ทำเป็นภาพโป๊ต่าง ๆ ก็มี
เพราะฉะนั้นมาจนถึงกระทั่งเราเป็นรัฐบาลจนถึงบัดนี้ก็พบว่าขณะนี้เขาหันมาทางโลกไซเบอร์มากยิ่งขึ้น ถ้าดูตอนนี้จะมีปรากฏการณ์ 2 อย่างที่สำคัญนั่นก็คือการตั้งเวปไทยสปริง
ไปเลียนแบบอาหรับสปริง
แต่พวกนี้ก็คือทำเป็นเชิงสัญลักษณ์ของการต่อสู้ แต่ขอโทษ!!!
เป็นสัญลักษณ์ที่ผิด
เพราะว่าเริ่มต้นจากกาย ฟอว์กส์ เขาก็เป็นการต่อสู้พูดตรง ๆ
ว่าจัดการกษัตริย์อังกฤษ (พูดถึงตัวกาย ฟอว์กส์นะคะ) แต่ว่าตอนตายเขาตายแบบทรมานมากนะคะ (ถูกม้าฉีกร่าง)
แต่ทีนี้พอมาตอนหลังก็มีคนเอามาทำหนังที่พวกเรารู้กันว่าเป็นหนัง V for Vendetta นะคะ แล้วก็มีการเอาไปใช้เป็นสัญลักษณ์ในการประท้วงเช่นที่
Occupy Wall Street ทีนี้ในการประท้วงเหล่านี้ถ้าพูดก็พูดนะ พวกกลุ่มอนุรักษ์นิยมเหล่านี้มาใช้สัญลักษณ์นี้
ผิด!!! คือผิดตั้งแต่ต้นเลย คือคุณเอาสัญลักษณ์ที่ผิดมาใช้
เพราะคุณมันไม่ใช่ คุณจะมาใช้สัญลักษณ์นี้ได้อย่างไร? ก็คุณบอกคุณต่อต้านพวกล้มเจ้า กาย ฟอว์กส์ มีที่มาจากต่อต้านระบอบกษัตริย์ คือขณะนั้นเขาเป็นพวกคาทอลิค แล้วกษัตริย์อังกฤษก็เป็นคนละนิกายเป็นโปรแตสแตนท์
เป็น English Church
เพราะฉะนั้นพอมีการปราบปรามเขาก็โกรธก็พยายามจะฆ่ากษัตริย์ แต่ว่าบางคนอาจจะไปเลือกใช้ว่าเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ แต่อย่าลืมว่าตอนนั้นเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์นะ
เป็นกษัตริย์
อันนั้นก็คือครั้งที่หนึ่งแล้ว
ที่มาก็คือเขาฆ่ากษัตริย์นะจะบอกให้พวกสลิ่มทั้งหลายหรือพวกที่ใช้
ตอนนี้คุณก็น่าจะรู้แล้วว่าคือคุณเลือกใช้ผิดนะ คุณจะไปสร้างหน้ากากใหม่อะไรก็อีกอย่างหนึ่ง แต่ถ้าคุณใช้กาย ฟอว์กส์นี่ผิดละ!!!
อันที่สองพวก Occupy Wall Street เป็นการต่อสู้สำหรับคนที่เขาใช้คำว่า
We are 99% เราเป็นคนส่วนใหญ่ คือเขาเรียกร้องในปัญหาที่ว่า ในสหรัฐนั้นความแตกต่างเรื่องรายได้ เรื่องภาษี ตั้งแต่ 17 กันยายน 2554
จากข่าวก็คือการรวมตัวของผู้ไม่พอใจความเหลื่อมล้ำเศรษฐกิจและสังคมอเมริกัน การเดินขบวนประท้วงเริ่มต้นที่หน้าตึก Wall Street
นคร New York
ที่จริงตึก Wall Street
อย่านึกว่าซอยใหญ่นะ อาจารย์ไปมาแล้ว
ซอยเล็ก แคบ จากนั้นก็เอาไปประท้วง แต่การประท้วงก็คือหมายถึงว่าคือความแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจนมาก
เขาบอกว่าเด็กอเมริกันที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็นหนี้การศึกษาประมาณ
24,600 ดอลลาร์หรือ 767,200 บาท
แล้วก็มีรายได้ว่าคน 1%
ของประเทศนั้น ของสหรัฐนะ มีรายได้เฉลี่ยเพิ่มกว่าเดิมถึง 275%
หลังหลังภาษีแล้ว ภาษีเขาแรงมากนะ แต่คนที่มีรายได้ต่ำสุดของประเทศ 5%
รายได้เพิ่มเพียง 18% เพราะฉะนั้นสโลแกนของ
Occupy Wall Street ก็บอกว่า
We are 99% ก็แปลว่า
เราเป็นคน 99% เพราะฉะนั้น ขอโทษ!!!
คุณใช้หน้ากาก “กาย ฟอว์กส์” เนี่ย นอกจากที่มาก็ผิด แล้วที่เขาเอาไปใช้เขาใช้ของคนส่วนใหญ่ แล้วของคุณเป็นพวกส่วนน้อย ไม่กี่คน
เราไม่ได้พูดดูถูกว่าคุณมาเดินที่สีลมยี่สิบกว่าคนนะ แต่ความหมายของเราก็คือว่าคุณพูดในนามใคร คุณพูดในนาม “ชนชั้นนำ”
ที่ไม่ต้องการคืนอำนาจให้กับประชาชน You are 1%
ตรงกันข้ามกับ Occupy Wall
Street
เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิมาเที่ยวพูดแล้วคุณบอกว่าคุณ Occupy Wall Street เอาอย่าง รวมทั้งอาหรับสปริงที่คุณมาใช้ไทยสปริง ขอโทษ!!!
มันคนละเรื่องกันเลยเหมือนกัน
อาหรับสปริงก็เป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง เพราะเขาไม่ต้องการเผด็จการทหารขึ้นปกครองมายาวนาน ขอโทษ!!! พวกคุณมันเป็นพวกสนับสนุนเผด็จการทหาร แล้วคุณมีหน้าอะไรมาใช้ไทยสปริง ไม่ใช่เรื่องเลย คือฝันไปรึเปล่า (อันนี้ไม่ใช่เยาะเย้ยนะ)
ว่าถ้าสักวันหนึ่งจะมีคนมาเต็มแบบอาหรับสปริง
มันใช้สัญลักษณ์ผิดเรื่อง
ผิดที่ You are 1%, We are 99%
คนละเรื่องกันเลย กลับกันเลย
ผู้ดำเนินรายการ : ที่นี้น่าจะ เขาจะจำลองให้คล้าย ๆ กับถนน Wall Street
ของสหรัฐมาเดินที่ถนนสีลมของกรุงเทพฯ ประเทศไทยบ้านเรา
แต่ว่าเท่าที่รายงานจากสื่อมวลชนจากข่าวบอกว่ามีไม่กี่สิบคนที่ไปในวันนี้แล้วก็มิหนำซ้ำโดนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าแล้วก็เจ้าหน้าที่
รปภ. ย่านสีลมก็ไล่ให้ออกมา
ไม่อนุญาตให้เข้าไปบนถนนสีลม
มีข้อความหนึ่งที่เขาแจกเอกสารให้กับประชาชนในละแวกสีลมครับอาจารย์บอกว่า
“ทวงคืนแผ่นดินไทย ไล่ทุนสามานย์
รัฐบาลชาติชั่ว”
แต่ว่าปรากฏว่าประชาชนไม่รับเอกสารนั้น
ถึงแม้ว่ารับแต่ว่าก็โยนทิ้งขยะไปครับ
อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ : เห็นไหมคะ บอกได้เลยว่าเป็นความไม่เข้าใจ คุณไปสร้างสัญลักษณ์ใหม่ของคุณดีกว่า แต่คุณไปเอากาย ฟอว์กส์ ขอโทษ!!! กาย ฟอว์กส์ นั่น ฆ่าเจ้านะ
เพราะว่าต้องการวางดินระเบิดที่จะสังหารพระเจ้าเจมส์ที่ 1
อันนี้มันตั้งแต่ในปีหนึ่งพันหกร้อยกว่า
เพราะฉะนั้นที่มาที่ไปก็ไม่ใช่แล้ว
แล้ว Occupy Wall Street
ที่เขาเอาไปใช้แล้วเดินนั่นเขาเป็นตัวแทนคนจน We are 99%
ก็คือไม่ต้องการให้แตกต่าง แล้วขอโทษ!!!
นี่ของคุณมันไม่ใช่ คุณมันกลับกัน
You are 1% คุณมี 1%
เท่านั้นเองแล้วคุณจะเอาหน้ากาก กาย ฟอว์กส์ มาเดิน มันตลกนะ มันตลกมาก
แต่ว่า
ก็พูดอย่างนี้ไม่ใช่ดูหมิ่นนะแต่ก็คิดว่า
การวางแผนของเขา เพราะอะไรรู้ไหม? อาจารย์ว่าเขายากรู้ไหม?
คือเขาอยากจะทำว่านี่เป็นการปฏิวัติประชาชน คือขอให้สังเกตว่าตอนช่วงสนธิ ลิ้มทองกุล
ตอนที่เขาไปยึดทำเนียบเขาเลียนแบบฟิลิปปินส์นะ
เขาคิดว่าเขาจะไปบุกมาลากันยังแบบฟิลิปปินส์
แล้วเสร็จแล้วประธานาธิบดีก็หนีไปเลย
แล้วก็มีการโชว์รองเท้าของมาดามตั้งไม่รู้กี่พันคู่นะ คือจะไปเอาโมเดลแบบนั้นก็เลยไปยึดทำเนียบ แล้วก็ไปอยู่ตั้งนาน แล้วขณะนี้อาจารย์ว่านะเขาไม่รู้จะไปเอาโมเดลไหน แล้วก็ขอโทษ!!!
เหมือนที่สนามหลวงก็รออยู่ตรงนั้น
เป็นโมเดลที่แปลกประหลาดมากที่เอาคอมมิวนิสต์มา ซึ่งก็ไม่ใช่คอมมิวนิสต์จริง แต่ก็ไม่เป็นไรนี่เป็นลักษณะเฉพาะ แต่พอเอา “กาย ฟอว์กส์” กับ “ไทยสปริง” นี่
แปลว่า “ไปลอกมา” แล้วลอกผิดที่
ลอกผิดทาง มันยากอะไรรู้ไหม?
เพราะการต่อสู้ของประชาชนที่เขาคิดว่าเขาจะพยายามทำมันเป็นคนส่วนใหญ่ แต่คุณเป็นคนส่วนน้อย
แล้วคุณจะมาเอารูปแบบจากการต่อสู้ของคนส่วนใหญ่ได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นเขาก็เลยไปคว้าผิด คว้าถูก ก็เลยตั้งไทยสปริง เลียนแบบอาหรับสปริงหวังว่าจะให้คนมาเยอะแยะ
รวมทั้งการที่ทำหน้ากาก กาย ฟอว์กส์ เลียนแบบ Occupy Wall Street
เพราะฉะนั้นยังมีหลักคิดอยู่ตรงนี้โดยที่อาจารย์มองนะวิเคราะห์ว่า เขาต้องการแสดงความชอบธรรมว่า เขาจะทำอย่างไรที่จะให้ประชาชนออกมา จำม็อบแช่แข็งได้ไหม? นั่นก็เป็นความพยายามถูกไหมคะ แต่ว่าเขาพยายามเต็มกำลังแล้ว ก็ได้แค่นั้น
ในที่สุดก็ต้องเลิก
ตอนนี้ก็เป็นม้อบตากแห้งที่รอ
รอคนมาเติม
เพราะตอนนั้นเขาวิเคราะห์ว่ามันจะต้องเกิดปัญหาเขาพระวิหาร แล้วจะได้ใช้กรณีเขาพระวิหารโจมตีรัฐบาล แต่พอดีผิดคาดเพราะว่าเขายังไม่ตัดสิน แล้วอีกอย่างรัฐบาลก็ใช้ทนายชุดเดิม แล้วคุณจะเอาอะไรมาโจมตี คุณก็โจมตีไม่ได้ นี่ก็คือมันผิดพลาด ม็อบมันก็เลยแห้งไป แต่นี่เราก็ไม่ได้ประมาทนะ ว่าเขาก็พยายามหาวิธี จุดซ้าย จุดขวา
เอาน้ำมันราดตรงนั้นตรงนี้เพื่อที่จะให้ติด รวมทั้งที่เห็นไปเดินที่สีลม แต่มันตลกไง คือพูดจริง ๆ ที่เขาทำตรงนี้คือ
“สร้างภาพ”
แต่ที่จริงที่เขาต้องการนั้นก็คือเขาต้องการให้ทหารทำรัฐประหาร
แต่ว่ามันกลัวจะไม่ชอบธรรมก็เลยต้องพยายามจะสร้างว่าเป็นพวกประชาชนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลชุดนี้ เป็นพวกประชาชนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลไทยรักไทยในตอนนั้น ซึ่งตอนนั้นเขาทำเก่งเขาทำได้ผล เรียกว่าปฏิบัติการ IO
ของเขาที่ทำโดยสนธิ ลิ้มทองกุล
นั้นประสบความสำเร็จ
มาถึงตอนนี้เป็นการเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง
เพราะฉะนั้นให้เราจับตาดูว่ามันจะเกิดผลอย่างไร เพราะว่าทั้งอาหรับสปริง
ทั้งหน้ากากขาวมันก็เป็นกระแสในโลกไซเบอร์ที่ค่อนข้างมาแรง
ทีนี้ถ้ามองอีกทีอาจารย์ก็อยากจะขอฝากไปยังพี่น้องเราว่า ในยุทธศาสตร์ของนปช.นั้นได้ระบุว่า
เขตยุทธศาสตร์โลกไซเบอร์ก็เป็นเขตยุทธศาสตร์ที่ 5
เพราะฉะนั้นก็ถือว่าให้พี่น้องให้ความสำคัญ เราก็คงจะเตรียมเปิดโรงเรียนของเยาวชน ซึ่งน่าจะเป็นอายุ 15-20 กว่าปี เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่
เน้นเขตยุทธศาสตร์ใหม่ในโลกไซเบอร์เพื่อที่ให้ทัน
เพราะถือว่านี่คือเขตแนวรบอีกแนบหนึ่งในการต่อสู้
เพราะว่าของเราส่วนใหญ่เป็นพี่น้องประชาชนรากหญ้า ไม่สันทัด
แต่ว่าต่อไปนี้ก็คือต้องเรียนรู้และพร้อมกันนั้นเราคงต้องดึงบทบาทให้มาอยู่ที่เยาวชนให้มีส่วนร่วมมากขึ้นเพราะโลกไซเบอร์นี้เขาน่าจะทำได้ถนัด
เพราะฉะนั้นโรงเรียนเราก็จะเป็นโรงเรียนการเมือง เราไม่ได้สอนเทคนิคนะ
เทคนิคนั้นอาจจะมีโรงเรียนอย่างอื่นที่มาทำ ได้ข่าวว่าที่อิมพีเรียลก็จะเปิดเหมือนกัน
อาจจะเป็นแบบอินเตอร์เน็ตคาเฟ่
แต่ของเรานี่จะไม่ใช่
จะเป็นโรงเรียนการเมืองที่สำหรับเยาวชนในการที่จะเดินหน้าแบกรับภาระหน้าที่ในโลกไซเบอร์
ผู้ดำเนินรายการ : ซึ่งก็จะสังเกตได้เลยนะครับว่า ที่ผ่านมาก็มีกลุ่มก้อนที่ต่อต้านรัฐบาลมีการตั้งกลุ่มขึ้นมาหลายกลุ่ม
ทั้งม็อบน้ำแข็ง ม็อบสนามหลวง ล่าสุดเรื่องของหน้ากากขาว
ที่จะมาล้มล้างให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น ทีนี้อยากจะถามอาจารย์ว่า อาจารย์มองอย่างไรสำหรับการเปิดเกมส์รุกขึ้นมาในครั้งนี้ระหว่างหน้ากากขาว-ไทยสปริง-ม็อบสนามหลวง
มีใครอยู่เบื้องหลัง?
หรือมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกันอย่างไรบ้างครับ?
อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ : อันนี้ก็คือดังที่บอกว่า นี่ยังเป็นสมรภูมิการต่อสู้
ดังที่บอกเลยว่าเขาได้ลงทุนมามากในการจัดการคุณทักษิณ และที่สำคัญที่สุดก็คือรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่าง
ๆ ได้ถูกตรา คนในองค์กรอิสระต่าง ๆ
ที่เขาได้กำหนดตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือตามที่มาของรัฐประหารเขาจะต้องการกันเอาไว้ ยังป้องกัน
ปกป้อง
เพราะฉะนั้นขณะนี้พูดก็ง่ายว่าในแนวรบของเรานั้นเราต้องการคืบหน้า ก็คือต้องการขจัดผลพวงการทำรัฐประหาร เราต้องการเอารัฐธรรมนูญ 50 ออกไป
เอารัฐธรรมนูญประชาชนมา (ของประชาชนเขียนขึ้นมาใหม่)
เราถือว่าชอบธรรมเพราะรัฐประหารนั้นไม่ถูกต้อง ต้องขจัดผลพวงของรัฐประหาร แต่เขาคิดตรงข้าม เขาได้มาแล้ว
เขาไม่ต้องการให้สูญเสีย
เพราะฉะนั้นเขาก็จะรับมือและจะไม่ให้เรารุกเดินหน้าต่อไป เขาก็ต้องกำหนดการกระทำ กำหนดเวที กำหนดสมรภูมิ
กำหนดยุทธการหรือแนวรบต่าง ๆ ว่าใครทำอะไร? ที่ไหน? ดังที่คุณวสิษฐ เดชกุญชร เคยพูดว่าใครมีอาวุธอะไร (ใช้คำนี้นะ)
ก็ให้ใช้อาวุธนั้น คุณวสิษฐ
เดชกุญชรก็เป็นคนฝ่ายอำมาตย์ที่สำคัญ
เพราะฉะนั้นอันนี้ก็คืออาวุธในโลกไซเบอร์ที่เขาจะใช้เป็นอาวุธ นี่คือการเชื่อมโยง นี่คือการวางแผนในยุทธการต่าง ๆ และแนวรบต่าง ๆ
เป็นระบบ ในฝั่งเขาค่อนข้างเป็นเอกภาพ
แต่ฝั่งเราก็ต้องฝากเอาไว้ว่าต้องระมัดระวังในการขับเคลื่อน
เพราะว่าบางคนเพียงแต่ได้เป็นรัฐบาลเท่านั้นก็อาจจะรู้สึกว่านี่เป็นชัยชนะแล้ว
ทั้ง ๆ ที่แท้มันเป็นชัยชนะชั่วคราวอยู่ในสมรภูมิแห่งการสู้รบ คุณมองไปให้ดีซิ มองซ้าย มองขวา มองหน้า
มองหลัง แล้วคุณจะพบว่ามันมีหลุมระเบิด มันมีอาวุธลึกลับอะไรต่าง ๆ
ที่จะเข้ามาเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ผนึกกำลัง คิดแต่จะสับกันเอง
คิดแต่จะทะเลาะกันเองหรือขัดแย้งกันเองแล้วกลัวว่าคนอื่นจะเด่นดังมากกว่า ถ้าคิดอย่างนี้มันยิ่งง่าย เข้าทางเขา