ถอดคำพูดจากรายการเหลียวฯ : แนวรบไซเบอร์ "หน้ากากขาว"



ทีมข่าว นปช.
12 มิถุนายน 2556

เนื่องจากประเด็น "หน้ากากขาว" เป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง  และเพื่อให้ทราบที่มาที่ไปทีมงานอ.ธิดาจึงได้ถอดคำพูดจากรายการเหลียวหลังแลไปข้างหน้าเพื่อประชาธิปไตย ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2556 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้


ผู้ดำเนินรายการ : ช่วงนี้เรามาพูดในประเด็นที่ขณะนี้มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางพอสมควรสำหรับการต่อสู้ในโลกของโซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับ “กลุ่มหน้ากากขาว” หรือ “หน้ากาก V” หรือว่า “หน้ากาก กาย ฟอว์กส์” แหม...หลายชื่อซะเหลือเกินสำหรับกลุ่มนี้ซึ่งก็มีที่มาจากหนังเรื่อง V for Vendetta นั่นเองนะครับ  ซึ่งต้องบอกคุณผู้ชมนะครับว่ากลุ่มนี้เขาไปโพสต์โจมตีใน Page หน้าต่าง ๆ ของรัฐบาลนะครับ  เขาบอกว่า  “ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว  ข้าขอประกาศว่า  ข้าจะล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย”  นี่คือข้อความที่เขาไปโพสต์ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  นั่นเองนะครับ 

เรื่องที่เกิดขึ้นทางด้านคุณเต้น  ณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ ก็บอกว่าไม่กลัวหรอกครับสำหรับหน้ากากขาว  กลัวคนตาขาวมากกว่า  ช่วงนี้เดี๋ยวเราจะมาพูดคุยกับอาจารย์ธิดาต่อนะครับ  แต่ว่าก่อนอื่นให้อาจารย์ธิดาพูดถึงที่มาที่ไปสำหรับกลุ่มหน้ากากขาวก่อน เห็นว่าที่มาเริ่มมา Occupy Wall Street  ด้วย
 
 
อ.ธิดา  ถาวรเศรษฐ : ก็มีที่มาหลายอย่าง  แต่ว่าอยากจะให้ท่านผู้ชมทางบ้านได้เข้าใจว่าเรายังมีสมรภูมิแห่งการต่อสู้อยู่ตลอด  บางทีเราอาจจะลืม  เราเป็นรัฐบาล  แต่ว่าถ้ามองย้อนกลับไปตั้งแต่ก่อนทำรัฐประหาร  การใช้ยุทธการข่าวสารหรือ IO (Information Operations) โดยคนที่เก่งกาจนั่นก็คือสนธิ  ลิ้มทองกุล และพร้อมทั้งสื่อไม่ว่าจะเป็นค่ายเนชั่น  ค่ายโพสต์  ค่ายผู้จัดการ  เรียกว่าถล่มกัน  และรวมทั้งฝั่งสื่ออื่น ๆ ที่เข้ามาในฟรีทีวีต่าง ๆ รวมทั้งในสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งหมดมันเป็นการสู้รบ  ในขณะที่ถ้าคิดดูแล้วในฝั่งฝ่ายประชาธิปไตยหรือพูดง่าย ๆ ว่าพรรคไทยรักไทยนั้นไม่ได้มองเป็นการสู้รบ  อาจจะประมาทไปหน่อยหรือเปล่า? นะคะ  ก็คือว่ามีความเชื่อมั่นว่าตัวเองทำถูก  และก็ทำดี  เพราะฉะนั้นเริ่มตั้งแต่ที่ว่าความคิดที่ว่าจะต้องการจะล้มคุณทักษิณ  ตั้งแต่เรื่องที่ไปนั่งในวัดพระแก้ว  ปฏิญญาฟินแลนด์  อันนี้มันเป็นระบบหมดเลยนะ  มันก็คือ IO นี่แหละ Information Operations คือสร้างข่าวสารใหม่ สร้างข้อมูลเท็จ ให้มันมากจนกลายเป็นความจริง เหมือนที่เคยพูดในสัปดาห์ที่แล้วที่บอกว่าไปดูหนังที่มีการสร้างเรื่องเท็จทั้งหมดให้ดูเป็นความจริง ชื่อหนังมันก็คือ แว็กเดอะด็อก (ที่ประธานาธิบดีให้คนไปถ่ายทำภาพยนตร์แล้วส่งเป็นข่าวให้สำนักข่าวทั่วโลกจนคนทั้งโลกคิดว่าเป็นเรื่องจริง) บางอย่าง (โจมตีคุณยิ่งลักษณ์) ทำเป็นภาพน่าเกลียดมาก ทำเป็นภาพโป๊ต่าง ๆ ก็มี เพราะฉะนั้นมาจนถึงกระทั่งเราเป็นรัฐบาลจนถึงบัดนี้ก็พบว่าขณะนี้เขาหันมาทางโลกไซเบอร์มากยิ่งขึ้น  ถ้าดูตอนนี้จะมีปรากฏการณ์ 2 อย่างที่สำคัญนั่นก็คือการตั้งเวปไทยสปริง ไปเลียนแบบอาหรับสปริง  แต่พวกนี้ก็คือทำเป็นเชิงสัญลักษณ์ของการต่อสู้  แต่ขอโทษ!!! เป็นสัญลักษณ์ที่ผิด  เพราะว่าเริ่มต้นจากกาย ฟอว์กส์ เขาก็เป็นการต่อสู้พูดตรง ๆ ว่าจัดการกษัตริย์อังกฤษ (พูดถึงตัวกาย ฟอว์กส์นะคะ)  แต่ว่าตอนตายเขาตายแบบทรมานมากนะคะ (ถูกม้าฉีกร่าง) แต่ทีนี้พอมาตอนหลังก็มีคนเอามาทำหนังที่พวกเรารู้กันว่าเป็นหนัง V for Vendetta นะคะ  แล้วก็มีการเอาไปใช้เป็นสัญลักษณ์ในการประท้วงเช่นที่ Occupy Wall Street  ทีนี้ในการประท้วงเหล่านี้ถ้าพูดก็พูดนะ  พวกกลุ่มอนุรักษ์นิยมเหล่านี้มาใช้สัญลักษณ์นี้ ผิด!!!  คือผิดตั้งแต่ต้นเลย  คือคุณเอาสัญลักษณ์ที่ผิดมาใช้ เพราะคุณมันไม่ใช่ คุณจะมาใช้สัญลักษณ์นี้ได้อย่างไร?  ก็คุณบอกคุณต่อต้านพวกล้มเจ้า  กาย ฟอว์กส์ มีที่มาจากต่อต้านระบอบกษัตริย์  คือขณะนั้นเขาเป็นพวกคาทอลิค  แล้วกษัตริย์อังกฤษก็เป็นคนละนิกายเป็นโปรแตสแตนท์ เป็น English Church เพราะฉะนั้นพอมีการปราบปรามเขาก็โกรธก็พยายามจะฆ่ากษัตริย์  แต่ว่าบางคนอาจจะไปเลือกใช้ว่าเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ  แต่อย่าลืมว่าตอนนั้นเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์นะ เป็นกษัตริย์  อันนั้นก็คือครั้งที่หนึ่งแล้ว ที่มาก็คือเขาฆ่ากษัตริย์นะจะบอกให้พวกสลิ่มทั้งหลายหรือพวกที่ใช้  ตอนนี้คุณก็น่าจะรู้แล้วว่าคือคุณเลือกใช้ผิดนะ  คุณจะไปสร้างหน้ากากใหม่อะไรก็อีกอย่างหนึ่ง  แต่ถ้าคุณใช้กาย ฟอว์กส์นี่ผิดละ!!!

อันที่สองพวก Occupy Wall Street เป็นการต่อสู้สำหรับคนที่เขาใช้คำว่า We are 99% เราเป็นคนส่วนใหญ่  คือเขาเรียกร้องในปัญหาที่ว่า  ในสหรัฐนั้นความแตกต่างเรื่องรายได้  เรื่องภาษี ตั้งแต่ 17 กันยายน 2554  จากข่าวก็คือการรวมตัวของผู้ไม่พอใจความเหลื่อมล้ำเศรษฐกิจและสังคมอเมริกัน  การเดินขบวนประท้วงเริ่มต้นที่หน้าตึก Wall Street นคร New York ที่จริงตึก Wall Street อย่านึกว่าซอยใหญ่นะ  อาจารย์ไปมาแล้ว ซอยเล็ก แคบ จากนั้นก็เอาไปประท้วง  แต่การประท้วงก็คือหมายถึงว่าคือความแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจนมาก  เขาบอกว่าเด็กอเมริกันที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็นหนี้การศึกษาประมาณ 24,600 ดอลลาร์หรือ 767,200 บาท  แล้วก็มีรายได้ว่าคน 1% ของประเทศนั้น ของสหรัฐนะ  มีรายได้เฉลี่ยเพิ่มกว่าเดิมถึง 275% หลังหลังภาษีแล้ว  ภาษีเขาแรงมากนะ  แต่คนที่มีรายได้ต่ำสุดของประเทศ 5% รายได้เพิ่มเพียง 18% เพราะฉะนั้นสโลแกนของ Occupy Wall Street ก็บอกว่า We are 99% ก็แปลว่า เราเป็นคน 99%  เพราะฉะนั้น ขอโทษ!!!  คุณใช้หน้ากาก “กาย ฟอว์กส์” เนี่ย  นอกจากที่มาก็ผิด  แล้วที่เขาเอาไปใช้เขาใช้ของคนส่วนใหญ่  แล้วของคุณเป็นพวกส่วนน้อย  ไม่กี่คน  เราไม่ได้พูดดูถูกว่าคุณมาเดินที่สีลมยี่สิบกว่าคนนะ  แต่ความหมายของเราก็คือว่าคุณพูดในนามใคร  คุณพูดในนาม “ชนชั้นนำ” ที่ไม่ต้องการคืนอำนาจให้กับประชาชน  You are 1% ตรงกันข้ามกับ Occupy Wall Street เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิมาเที่ยวพูดแล้วคุณบอกว่าคุณ Occupy Wall Street เอาอย่าง  รวมทั้งอาหรับสปริงที่คุณมาใช้ไทยสปริง  ขอโทษ!!! มันคนละเรื่องกันเลยเหมือนกัน

อาหรับสปริงก็เป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง  เพราะเขาไม่ต้องการเผด็จการทหารขึ้นปกครองมายาวนาน  ขอโทษ!!!  พวกคุณมันเป็นพวกสนับสนุนเผด็จการทหาร  แล้วคุณมีหน้าอะไรมาใช้ไทยสปริง  ไม่ใช่เรื่องเลย  คือฝันไปรึเปล่า (อันนี้ไม่ใช่เยาะเย้ยนะ) ว่าถ้าสักวันหนึ่งจะมีคนมาเต็มแบบอาหรับสปริง  มันใช้สัญลักษณ์ผิดเรื่อง  ผิดที่  You are 1%,  We are 99% คนละเรื่องกันเลย  กลับกันเลย

ผู้ดำเนินรายการ : ที่นี้น่าจะ  เขาจะจำลองให้คล้าย ๆ กับถนน Wall Street ของสหรัฐมาเดินที่ถนนสีลมของกรุงเทพฯ ประเทศไทยบ้านเรา  แต่ว่าเท่าที่รายงานจากสื่อมวลชนจากข่าวบอกว่ามีไม่กี่สิบคนที่ไปในวันนี้แล้วก็มิหนำซ้ำโดนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าแล้วก็เจ้าหน้าที่ รปภ. ย่านสีลมก็ไล่ให้ออกมา  ไม่อนุญาตให้เข้าไปบนถนนสีลม  มีข้อความหนึ่งที่เขาแจกเอกสารให้กับประชาชนในละแวกสีลมครับอาจารย์บอกว่า “ทวงคืนแผ่นดินไทย ไล่ทุนสามานย์  รัฐบาลชาติชั่ว”  แต่ว่าปรากฏว่าประชาชนไม่รับเอกสารนั้น  ถึงแม้ว่ารับแต่ว่าก็โยนทิ้งขยะไปครับ

อ.ธิดา  ถาวรเศรษฐ : เห็นไหมคะ  บอกได้เลยว่าเป็นความไม่เข้าใจ  คุณไปสร้างสัญลักษณ์ใหม่ของคุณดีกว่า  แต่คุณไปเอากาย ฟอว์กส์  ขอโทษ!!!  กาย ฟอว์กส์ นั่น ฆ่าเจ้านะ  เพราะว่าต้องการวางดินระเบิดที่จะสังหารพระเจ้าเจมส์ที่ 1 อันนี้มันตั้งแต่ในปีหนึ่งพันหกร้อยกว่า  เพราะฉะนั้นที่มาที่ไปก็ไม่ใช่แล้ว

แล้ว Occupy Wall Street ที่เขาเอาไปใช้แล้วเดินนั่นเขาเป็นตัวแทนคนจน We are 99% ก็คือไม่ต้องการให้แตกต่าง  แล้วขอโทษ!!! นี่ของคุณมันไม่ใช่ คุณมันกลับกัน You are 1% คุณมี 1% เท่านั้นเองแล้วคุณจะเอาหน้ากาก กาย ฟอว์กส์ มาเดิน มันตลกนะ มันตลกมาก แต่ว่า  ก็พูดอย่างนี้ไม่ใช่ดูหมิ่นนะแต่ก็คิดว่า  การวางแผนของเขา  เพราะอะไรรู้ไหม?  อาจารย์ว่าเขายากรู้ไหม?  คือเขาอยากจะทำว่านี่เป็นการปฏิวัติประชาชน  คือขอให้สังเกตว่าตอนช่วงสนธิ  ลิ้มทองกุล ตอนที่เขาไปยึดทำเนียบเขาเลียนแบบฟิลิปปินส์นะ  เขาคิดว่าเขาจะไปบุกมาลากันยังแบบฟิลิปปินส์ แล้วเสร็จแล้วประธานาธิบดีก็หนีไปเลย  แล้วก็มีการโชว์รองเท้าของมาดามตั้งไม่รู้กี่พันคู่นะ  คือจะไปเอาโมเดลแบบนั้นก็เลยไปยึดทำเนียบ  แล้วก็ไปอยู่ตั้งนาน  แล้วขณะนี้อาจารย์ว่านะเขาไม่รู้จะไปเอาโมเดลไหน  แล้วก็ขอโทษ!!! เหมือนที่สนามหลวงก็รออยู่ตรงนั้น  เป็นโมเดลที่แปลกประหลาดมากที่เอาคอมมิวนิสต์มา  ซึ่งก็ไม่ใช่คอมมิวนิสต์จริง  แต่ก็ไม่เป็นไรนี่เป็นลักษณะเฉพาะ  แต่พอเอา “กาย ฟอว์กส์” กับ “ไทยสปริง”  นี่  แปลว่า “ไปลอกมา”  แล้วลอกผิดที่ ลอกผิดทาง  มันยากอะไรรู้ไหม? เพราะการต่อสู้ของประชาชนที่เขาคิดว่าเขาจะพยายามทำมันเป็นคนส่วนใหญ่  แต่คุณเป็นคนส่วนน้อย  แล้วคุณจะมาเอารูปแบบจากการต่อสู้ของคนส่วนใหญ่ได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้  เพราะฉะนั้นเขาก็เลยไปคว้าผิด คว้าถูก ก็เลยตั้งไทยสปริง  เลียนแบบอาหรับสปริงหวังว่าจะให้คนมาเยอะแยะ รวมทั้งการที่ทำหน้ากาก กาย ฟอว์กส์ เลียนแบบ Occupy Wall Street

เพราะฉะนั้นยังมีหลักคิดอยู่ตรงนี้โดยที่อาจารย์มองนะวิเคราะห์ว่า  เขาต้องการแสดงความชอบธรรมว่า  เขาจะทำอย่างไรที่จะให้ประชาชนออกมา  จำม็อบแช่แข็งได้ไหม?  นั่นก็เป็นความพยายามถูกไหมคะ  แต่ว่าเขาพยายามเต็มกำลังแล้ว  ก็ได้แค่นั้น  ในที่สุดก็ต้องเลิก  ตอนนี้ก็เป็นม้อบตากแห้งที่รอ  รอคนมาเติม  เพราะตอนนั้นเขาวิเคราะห์ว่ามันจะต้องเกิดปัญหาเขาพระวิหาร  แล้วจะได้ใช้กรณีเขาพระวิหารโจมตีรัฐบาล แต่พอดีผิดคาดเพราะว่าเขายังไม่ตัดสิน  แล้วอีกอย่างรัฐบาลก็ใช้ทนายชุดเดิม  แล้วคุณจะเอาอะไรมาโจมตี คุณก็โจมตีไม่ได้  นี่ก็คือมันผิดพลาด  ม็อบมันก็เลยแห้งไป  แต่นี่เราก็ไม่ได้ประมาทนะ  ว่าเขาก็พยายามหาวิธี  จุดซ้าย จุดขวา เอาน้ำมันราดตรงนั้นตรงนี้เพื่อที่จะให้ติด  รวมทั้งที่เห็นไปเดินที่สีลม  แต่มันตลกไง คือพูดจริง ๆ ที่เขาทำตรงนี้คือ “สร้างภาพ”  แต่ที่จริงที่เขาต้องการนั้นก็คือเขาต้องการให้ทหารทำรัฐประหาร แต่ว่ามันกลัวจะไม่ชอบธรรมก็เลยต้องพยายามจะสร้างว่าเป็นพวกประชาชนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลชุดนี้  เป็นพวกประชาชนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลไทยรักไทยในตอนนั้น  ซึ่งตอนนั้นเขาทำเก่งเขาทำได้ผล  เรียกว่าปฏิบัติการ IO ของเขาที่ทำโดยสนธิ  ลิ้มทองกุล นั้นประสบความสำเร็จ

มาถึงตอนนี้เป็นการเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง  เพราะฉะนั้นให้เราจับตาดูว่ามันจะเกิดผลอย่างไร  เพราะว่าทั้งอาหรับสปริง ทั้งหน้ากากขาวมันก็เป็นกระแสในโลกไซเบอร์ที่ค่อนข้างมาแรง  ทีนี้ถ้ามองอีกทีอาจารย์ก็อยากจะขอฝากไปยังพี่น้องเราว่า  ในยุทธศาสตร์ของนปช.นั้นได้ระบุว่า เขตยุทธศาสตร์โลกไซเบอร์ก็เป็นเขตยุทธศาสตร์ที่ 5  เพราะฉะนั้นก็ถือว่าให้พี่น้องให้ความสำคัญ  เราก็คงจะเตรียมเปิดโรงเรียนของเยาวชน  ซึ่งน่าจะเป็นอายุ 15-20 กว่าปี  เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นเขตยุทธศาสตร์ใหม่ในโลกไซเบอร์เพื่อที่ให้ทัน  เพราะถือว่านี่คือเขตแนวรบอีกแนบหนึ่งในการต่อสู้  เพราะว่าของเราส่วนใหญ่เป็นพี่น้องประชาชนรากหญ้า  ไม่สันทัด  แต่ว่าต่อไปนี้ก็คือต้องเรียนรู้และพร้อมกันนั้นเราคงต้องดึงบทบาทให้มาอยู่ที่เยาวชนให้มีส่วนร่วมมากขึ้นเพราะโลกไซเบอร์นี้เขาน่าจะทำได้ถนัด  เพราะฉะนั้นโรงเรียนเราก็จะเป็นโรงเรียนการเมือง  เราไม่ได้สอนเทคนิคนะ  เทคนิคนั้นอาจจะมีโรงเรียนอย่างอื่นที่มาทำ  ได้ข่าวว่าที่อิมพีเรียลก็จะเปิดเหมือนกัน อาจจะเป็นแบบอินเตอร์เน็ตคาเฟ่  แต่ของเรานี่จะไม่ใช่ จะเป็นโรงเรียนการเมืองที่สำหรับเยาวชนในการที่จะเดินหน้าแบกรับภาระหน้าที่ในโลกไซเบอร์

ผู้ดำเนินรายการ : ซึ่งก็จะสังเกตได้เลยนะครับว่า  ที่ผ่านมาก็มีกลุ่มก้อนที่ต่อต้านรัฐบาลมีการตั้งกลุ่มขึ้นมาหลายกลุ่ม ทั้งม็อบน้ำแข็ง ม็อบสนามหลวง ล่าสุดเรื่องของหน้ากากขาว ที่จะมาล้มล้างให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น  ทีนี้อยากจะถามอาจารย์ว่า  อาจารย์มองอย่างไรสำหรับการเปิดเกมส์รุกขึ้นมาในครั้งนี้ระหว่างหน้ากากขาว-ไทยสปริง-ม็อบสนามหลวง มีใครอยู่เบื้องหลัง?  หรือมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกันอย่างไรบ้างครับ?

อ.ธิดา  ถาวรเศรษฐ : อันนี้ก็คือดังที่บอกว่า  นี่ยังเป็นสมรภูมิการต่อสู้  ดังที่บอกเลยว่าเขาได้ลงทุนมามากในการจัดการคุณทักษิณ  และที่สำคัญที่สุดก็คือรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่าง ๆ ได้ถูกตรา  คนในองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่เขาได้กำหนดตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือตามที่มาของรัฐประหารเขาจะต้องการกันเอาไว้  ยังป้องกัน  ปกป้อง  เพราะฉะนั้นขณะนี้พูดก็ง่ายว่าในแนวรบของเรานั้นเราต้องการคืบหน้า  ก็คือต้องการขจัดผลพวงการทำรัฐประหาร  เราต้องการเอารัฐธรรมนูญ 50 ออกไป เอารัฐธรรมนูญประชาชนมา (ของประชาชนเขียนขึ้นมาใหม่) เราถือว่าชอบธรรมเพราะรัฐประหารนั้นไม่ถูกต้อง ต้องขจัดผลพวงของรัฐประหาร  แต่เขาคิดตรงข้าม  เขาได้มาแล้ว  เขาไม่ต้องการให้สูญเสีย  เพราะฉะนั้นเขาก็จะรับมือและจะไม่ให้เรารุกเดินหน้าต่อไป  เขาก็ต้องกำหนดการกระทำ กำหนดเวที กำหนดสมรภูมิ กำหนดยุทธการหรือแนวรบต่าง ๆ ว่าใครทำอะไร? ที่ไหน? ดังที่คุณวสิษฐ  เดชกุญชร เคยพูดว่าใครมีอาวุธอะไร (ใช้คำนี้นะ) ก็ให้ใช้อาวุธนั้น คุณวสิษฐ  เดชกุญชรก็เป็นคนฝ่ายอำมาตย์ที่สำคัญ  เพราะฉะนั้นอันนี้ก็คืออาวุธในโลกไซเบอร์ที่เขาจะใช้เป็นอาวุธ  นี่คือการเชื่อมโยง  นี่คือการวางแผนในยุทธการต่าง ๆ และแนวรบต่าง ๆ เป็นระบบ  ในฝั่งเขาค่อนข้างเป็นเอกภาพ

แต่ฝั่งเราก็ต้องฝากเอาไว้ว่าต้องระมัดระวังในการขับเคลื่อน  เพราะว่าบางคนเพียงแต่ได้เป็นรัฐบาลเท่านั้นก็อาจจะรู้สึกว่านี่เป็นชัยชนะแล้ว ทั้ง ๆ ที่แท้มันเป็นชัยชนะชั่วคราวอยู่ในสมรภูมิแห่งการสู้รบ  คุณมองไปให้ดีซิ มองซ้าย มองขวา มองหน้า มองหลัง แล้วคุณจะพบว่ามันมีหลุมระเบิด มันมีอาวุธลึกลับอะไรต่าง ๆ ที่จะเข้ามาเต็มไปหมด  เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ผนึกกำลัง  คิดแต่จะสับกันเอง คิดแต่จะทะเลาะกันเองหรือขัดแย้งกันเองแล้วกลัวว่าคนอื่นจะเด่นดังมากกว่า  ถ้าคิดอย่างนี้มันยิ่งง่าย  เข้าทางเขา