นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากบุคคล ที่รักความเป็นธรรม ร่วมสมทบทุน เป็นเงินสด จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อเป็นกองทุนตั้งต้น สำหรับรางวัลในการนำจับผู้ต้องหาตามหมายจับในคดี กบฏ ที่ศาลอนุมัติ อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. และแกนนำ กปปส. ยืนยันว่าภายในวันนี้จำนวนเงิน 5 ล้านบาทจะถึงมือ นปช. แต่บุคคลดังกล่าวขอไม่เปิดเผย เพราะหาก
ประกาศตัวจะกลายเป็นเหยื่อ ในการคุกคามของการ์ดและแกนนำกปปส ซึ่งเป้าหมายเน้นบุคคลที่ศาล
อนุมัติหมายจับแล้ว และกระบวนการจับกุม ต้องเป็นไปภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ให้ใครก็ตามใช้
วิธีนอกกติกา
"ผมได้รับการติดต่อจากคนไทยที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาตลอด บุคคลผู้นี้ประกาศตัวในนามคนไทย
ต้องการเห็นกฎหมายเป็นกฎหมาย ได้มอบเงินสดมาให้ 5 ล้านบาท เจ้าของเงินยังระบุว่าจะมอบให้
เป็นรางวัลสำหรับผู้ที่ชี้เบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมตัวนายสุเทพและแกนนำ"นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า เจ้าของเงินตั้งรางวัลระบุว่าได้แบ่งเงินรางวัลนำจับออกเป็น 2 ส่วน คือ
แกนนำคนอื่นๆที่ไม่ใช่นายสุเทพ รายละ 3 แสนบาท แต่กรณีของนายสุเทพคนเดียว จับได้รับทันที 3
ล้านบาท โดยจะให้เวลาตั้งแต่เวลานี้ไปจนถึงวันที่ 27 พ.ค.ในการแจ้งเบาะแส
ทั้งนี้อยากฝากไปถึงการ์ดกปปส.ว่าเรื่องนี้น่าคิด เพราะนายสุเทพประกาศว่าวันที่ 27 พ.ค.จะมอบ
ตัวหากไม่จบ ขอฟันธงเลยว่าไม่จบและนายสุเทพต้องมอบตัว เมื่อนั้นมวลมหาประชาการ์ดไปทำอะไร
ไว้และเจ้าหน้าที่มีหลักฐานสาวถึงก็ต้องถูกดำเนินคดี ฉะนั้นเมื่อนายสุเทพกำลังสละเรือ ทำไมมวล
มหาประชาการ์ดจะไม่เอารางวัลนำจับนี้ไว้
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในบุคคลที่นายสุเทพประกาศว่าเป็นเป้าหมายการให้มวลชนออกตาม
หา เป็นการข่มขู่คุกคามสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล และไม่มีใครสามารถให้ความมั่นใจได้ ว่า ถ้ามีกลุ่ม
บุคคลเชื่อตามประกาศของนายสุเทพ แล้วไปกระทำการต่อรัฐมนตรี จะกระทำการโดยสงบ และไม่
เป็นอันตรายต่อบุคคลนั้น ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงวุ่นวายโกลาหล หากรัฐมนตรีเกิดได้รับ
อันตรายจากการกระทำของกลุ่มนี้
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องไปยัง ศอ.รส ติดตามเรื่องนี้ รวบรวมหลักฐานยื่นต่อศาล เร่งรัด
กระบวนการกถอดประกันทันที แม้ผู้ประกาศจะเป็นนายสุเทพ แต่แกนนำอยู่ครบในวันแถลงข่าว ส่วน
ใหญ่เป็นแกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการประกันตัวอยู่แล้ว เมื่อประกาศว่าเป็นมติ ก็แปลว่ามี
การหารือ เห็นชอบร่วมกัน ก็จะปฎิเสธความรับผิดชอบร่วมกันไม่ได้
