‘ณัฐวุฒิ’ประกาศแฉอีกโผครม.-สมาชิกสภาปชช. ลั่นขอต่อสู้ต้านนายกฯ-รัฐบาลเถื่อน




 เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปฏิบัติหน้าที่รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม.ถึงการเปิดเผยรายชื่อนายกรัฐมนตรีคนกลาง ว่า ที่ตนเปิดเผยรายชื่อเพราะเห็นว่าประชาชนควรได้พิจารณาบุคคลต่างๆ ที่กลุ่มของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. และเครือข่ายเบื้องหลังที่มีการเจรจาทาบทามและจัดเตรียมกันไว้ โดยปลายสุดท้ายของการเคลื่อนไหว คือ สถาปนาอำนาจรัฐขึ้นใหม่ มีรัฐบาลนอกกฎหมาย มีนายกรัฐมนตรีนอกรัฐธรรมนูญ มีครม.และฝ่ายนิติบัญญัตินอกกติกา โดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง แต่ผู้ที่เคลื่อนไหวครั้งนี้กลับปิดบังอำพรางเรื่องนี้เอาไว้โดยไม่บอกประชาชนว่าคนที่เตรียมให้มาทำหน้าที่เป็นใคร และมีกระบวนการได้มาซึ่งนายกฯ เป็นอย่างไร ตนจึงต้องออกมาเปิดเผย เพราะทราบว่าจะดำเนินการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในเดือนเม.ย.นี้ โดยให้นายกฯ และครม.พ้นทั้งคณะ เพื่อตั้งรัฐบาลใหม่ ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญนี้ไม่เปิดช่องให้ทำได้

 นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยืนยันว่ารายชื่อหลายคนที่ตนพูดนั้น มีการทาบทามกันมาก่อนหน้านี้ และจัดลำดับวางน้ำหนักว่าใครเป็นตัวเต็ง ตัวสอดแทรกหรือม้ามืด โดยมาจากการรวบรวมข้อมูลที่ตนได้รับ ไม่มีชื่อใดที่เป็นสมมติฐาน แต่ไม่เปิดต่อสาธารณะว่าคนที่มีรายชื่อมีใครที่ขานรับบ้าง เจตนาของตนไม่ใช่การทำลายหรือสร้างความเป็นปฏิปักษ์กับบุคคลที่มีชื่อเหล่านั้น หากคนที่มีชื่อระบุว่าไม่สบายใจและไม่เกี่ยวข้อง ตนพร้อมรับฟังและรับผิดชอบ ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้นั้น ตนหมายความว่านายอภิสิทธิ์มีชื่อเป็นนายกฯคนกลาง แต่อยู่ในฐานะกระเสือกกระสนที่จะเป็นนายกฯให้ได้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

 “ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ผมจะเปิดเผยโผรายชื่อบุคคลที่ขึ้นเวทีและผู้สนับบสนุนกปปส.และเรียกร้องนายกฯ เถื่อน ว่าใครบ้างที่มีตำแหน่งและได้ประโยชน์หลังการรัฐประหาร จากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และเปิดโผคนที่มีโอกาสเป็นรมต. สมาชิกสภาประชาชน คนที่มีโอกาสได้ตำแหน่ง ให้ประชาชนพิจารณาว่าคนที่ออกมามีบทบาทกับนายสุเทพ มีเป้าหมายและหวังรางวัลกันทั้งสิ้น” นายณัฐวุฒิ กล่าว

 เมื่อถามถึงแนวโน้มที่รัฐบาลนี้จะเป็นผู้เสนอชื่อนายกฯคนกลางเสียเอง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงไม่เป็นอย่างนั้น เพราะนายกฯคนกลาง นายกฯคนดี หรือนายกฯมาตรา 7 นั้น ในข้อเท็จจริงแล้วไม่มี เพราะกฎหมายไม่เปิดให้ทำ หากมีเกิดขึ้นแสดงว่าเป็นนายกฯนอกกฎหมาย หรือนายกฯเถื่อน ที่ประชาชนไม่ให้การยอมรับ และอยากให้ย้อนไปดูข้อกฎหมาย จะเห็นว่าไม่มีทางเป็นสุญญากาศทางการเมืองได้ หากนายกฯพ้นจากตำแหน่ง รองนายกฯลำดับถัดลงมา ก็ทำหน้าที่แทน ส่วนครม.พ้นไป ก็ยังมีปลัดกระทรวงทำแทน โดยไม่เปิดช่องให้คนที่มาจากข้างนอกไปทำแทน

 เมื่อถามว่านปช.จะยกประเด็นนี้เพื่อเตรียมเคลื่อนไหวใหญ่หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราไม่ยอมรับรัฐประหาร ไม่ยอมรับนายกฯเถื่อน หากเหตุการณ์ไปถึงขึ้นนั้น เราจำเป็นต้องแสดงการต่อสู้โดยสันติวิธีตามแนวทางประชาธิปไตย ไม่ใช่ความรุนแรง ไม่เผชิญหน้าที่เกิดการใช้กำลังระหว่างประชาชน จึงไม่มีความคิดนำมวลชนไปเผชิญหน้ากับกลุ่มของนายสุเทพอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ขอสงวนแนวทางเคลื่อนไหวของเราไว้ก่อน ทั้งนี้สถานการณ์การเมืองไม่ยากที่จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง เพียงแค่นายสุเทพและพรรคประชาธิปัตย์ตอบรับการเลือกตั้ง ส่วนจะลงสนามเลือกตั้งหรือไม่เป็นสิทธิ์โดยที่กลุ่มกปปส. ไม่มีสิทธิ์ไปขัดขวางการใช้อำนาจของประชาชน ทุกอย่างจะเดินหน้าได้หมด กฎหมายและกติกาไม่ถูกทำลาย แต่เวลานี้ประชาชนถูกทำให้คิดว่าบ้านเมืองไม่มีทางออก ทั้งที่มีทางออกตามกฎหมาย แต่นายสุเทพกลับนำคนกลุ่มหนึ่งไปขวางทางออกไว้ แล้วอ้างว่าถึงทางตัน

 นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนรู้สึกประหลาดใจเวลาเลือกตั้งส.ว.และเลือกตั้งท้องถิ่น ในภาคใต้ซึ่งเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่กลับไม่ขวาง ไม่รอการปฏิรูปหรือทำกติกาให้เป็นที่ยอมรับอย่างที่อ้างกันมาก่อน แสดงให้เห็นชัดว่าทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง แต่กลับขัดขวางการเลือกตั้งส.ส.เพราะรู้ว่าลงเลือกตั้งก็แพ้แน่นอน

 เมื่อถามกรณีที่กลุ่มกวป.รุมทำร้ายพระสงฆ์ หน้าสำนักงานป.ป.ช. จะดำเนินการอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะมีใครมีเจตนาจะไปทำร้ายพระ เพราะผู้ชุมนุมทุกกลุ่มมีวิจารณญาณพร้อมรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุที่เกิดนั้นน่าจะเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดปะทะคารมทำให้บันดาลโทสะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการ ใครทำผิดต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย อย่าไปขยายความว่าเป็นการทำลายหรือคุกคามศาสนาเลย และอยากให้กลับไปบางคนที่ห่มจีวรและปิดล้อมสถานที่ราชการและเอกชนเพื่อเรียกเงินทองของเขา ตรงนั้นในแง่มุมของศาสนาน่าเป็นห่วงมากกว่า

 เมื่อถามว่าการที่กลุ่มกวป.ไปชิงพื้นที่ซึ่งกปปส.เคยไปชุมนุม หน้าป.ป.ช.อยู่ก่อนใคร จะเป็นสัญญาณนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ใครจะอยู่ก่อนหลังนั้นพูดยาก เพราะกวป.ระบุว่าเคยไปก่อน แล้วเว้นช่วงไว้ ซึ่งระหว่างนั้นมีอีกกลุ่มที่มายึดพื้นที่ จึงผลักดันกันขึ้นได้ อย่างไรก็ตามตนพูดคุยและกำชับแนวทางของเรากับคนเสื้อแดงอยู่ตลอด ก่อนหน้านี้เราแสดงพลัง 4-5 ครั้ง โดยไม่เกิดเหตุอะไรเพราะไม่มีความคิดจะเข้ามาใกล้เพื่อให้เกิดปะทะ และตนพร้อมรับผิดชอบแนวทางของตน และที่ผ่านมาไม่เคยบอกว่ากลุ่มเรามีพ่อค้าป๊อบคอร์นหรือท้าทายให้นายสุเทพออกมาเจอป๊อปคอร์นของเราแต่อย่างใด


ที่มา ข่าวสด