คำปราศรัย "อ.ธิดา" มอบตำแหน่งประธาน นปช. ให้ "จตุพร"



ทีมข่าว นปช.
16 มีนาคม 2557



 คำปราศรัยของ อ.ธิดา  ถาวรเศรษฐ บนเวที “เคลื่อนพลคนประชาธิปไตย"
ณ สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2557


สวัสดีค่ะพี่น้องทั้งหลาย  ก่อนอื่นในนามขอแกนนำเราขอกราบขอบพระคุณพี่น้องทั้งหลายที่พากันกรีฑาทัพเคลื่อนพลมาอยู่กันในสนามนี้จนแน่นขนัด แน่นเต็มไปหมดและต้องขออภัยในความไม่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถก็ไม่พอ ที่จะยืนยังไม่พอเลย ปรบมือให้กับพี่น้องข้างในและข้างนอกสนามนี้ด้วยค่ะ สนามนี้มันเล็กไปเสียแล้วสำหรับการรวมพลคนภาคกลางผู้รักประชาธิปไตย  ดังนั้นเวลาเคลื่อนพลจริง  ถ้ารวมพลกันที่นี่  สนามต้องใหญ่กว่านี้หลายเท่าค่ะ 

วาระนี้สำหรับเรา นปช.แดงทั้งแผ่นดิน เป็นวาระที่สำคัญ   เราได้ผ่านมาจากอดีตปี 2549 มาจนถึงปัจจุบัน  หลายคนจากหนุ่มน้อย (มองหน้าณัฐวุฒิ) ก็เป็นหนุ่มใหญ่ (มองหน้าจตุพร) ทั้งสองคน ซึ่ง 9 ปีที่แล้วน่าจะเป็นหนุ่มน้อยมากกว่านี้แต่ว่าไม่เป็นไร  ปัจจุบันนี้ยังหล่อเหมือนเดิม

สิ่งหนึ่งเป็นที่เข้าใจก็คือว่า  เรารู้ว่าการต่อสู้ของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยเป็นสงครามยืดเยื้อ  นี่คือการค้นพบที่สำคัญของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน  ดังนั้นการต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยจึงมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนกับที่อื่นในโลกนี้  ไม่ได้มากันวันสองวันแล้วแยกย้ายกลับบ้าน  เราสู้มาด้วยกันเป็นเวลากว่า 8 ปีกันแล้วพี่น้องเอ๋ย  เรารู้ว่านี่คือสงครามยืดเยื้อ  มีรับ มีรุก มีถอย  แต่ว่ามีอยู่คำหนึ่งซึ่งเราคิดตรงกันทั้งหมดก็คือคำว่า “ไม่ยอมแพ้เด็ดขาด”

ประการที่สอง  ในการจับมือกันเป็นองค์กร  เราเป็นการจับมือไม่ใช่หลวม ๆ และไม่ใช่ทำเล่น ๆ  เราได้มีการปรับเปลี่ยนมาเป็นระยะ ๆ  พัฒนาองค์กรจากจับมือหลวม ๆ มาเป็นแนวร่วมที่เขาเรียกว่ามีรูปการ  ก็คือ มีแนวทางนโยบาย มียุทธศาสตร์ มีเป้าหมายยุทธศาสตร์ มียุทธวิธี มีการยกระดับคนของเรา  มีการจัดตั้งโรงเรียนการเมือง และมีการจัดตั้งองค์กรตั้งแต่ส่วนกลางไปจนถึงหมู่บ้าน  นี่คือ “นปช.แดงทั้งแผ่นดิน” ค่ะ

ดังนั้น  ทุกอย่างของเราเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งหมดและมีการประชุม  ในชีวิต อ.ธิดาผ่านการต่อสู้มามากมาย  แต่ครั้งหนึ่งที่มีความภาคภูมิใจที่สุดก็คือได้นำเสนอแนวทางนโยบาย ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีต่อที่ประชุมใหญ่ของนปช.เพื่อการรับรองในยุคของประธาน วีระกานต์ มุสิกพงศ์  และนั่นเป็นการก้าวกระโดดใหญ่  เป็นความภูมิใจสูงสุดทั้งที่ อ.ธิดา ไม่ได้มีตำแหน่งใด ๆ ใน นปช. แต่นี่แสดงถึงความใจกว้าง  แสดงถึงความเป็นประชาธิปไตยที่ยินดีจะรับฟังและนำสิ่งที่ก้าวหน้าเมื่อผ่านที่ประชุมก็นำมาปฏิบัติอย่างเป็นเอกภาพ  ดังนั้นนี่เป็นเรื่องที่เกิดก่อนมารับหน้าที่เป็นประธาน  (จากนั้นเป็นการฉายภาพความทรงจำเล็ก ๆ ตั้งแต่ก่อนที่ อ.ธิดา จะมารับหน้าที่เป็นประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดินจนกระทั่งปัจจุบัน)

องค์กร นปช. เป็นองค์กรที่มีหลักการ  ไม่ใช่องค์กรกระจอก  เพราะฉะนั้นเรามีหลักการ มีเป้าหมาย  เราจะเห็นว่านี่เป็นสิ่งที่เราได้จัดการศึกษาในโรงเรียนการเมือง  เราสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายระยะแรก  หลังจากที่รัฐบาลนี้ได้รับการเลือกตั้ง ได้เป็นรัฐบาล  จากนั้นการรุกหน้าของฝ่ายประชาชนก็ไม่สามารถจะบรรลุได้ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์  เรายกเลิกรัฐธรรมนูญไม่ได้  ไปแก้เป็นรายมาตราก็ไม่ได้  นั่นหมายความว่าความพยายามที่จะเดินเกมรุกของฝ่ายประชาชนถูกสกัดมาจน ณ บัดนี้

ดังนั้นยุทธศาสตร์ที่เราเคยมีที่เรารู้จักกัน “ยุทธศาสตร์ 2 ขา” ในขณะนี้ก็ทำไม่ได้  สิ่งที่สำคัญก็คือว่า องค์กรเรานอกจากมีเป้าหมาย มีแนวทาง นโยบาย มียุทธศาสตร์ 2 ขาที่รู้จักกันทั่วประเทศ  แล้วที่สำคัญตอนที่มารับหน้าที่ก็คือ  ทำอย่างไรให้ประชาชนโดยเฉพาะคนเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตยแข็งแกร่ง  จึงทำการจัดตั้งทั่วประเทศ  นั่นก็คือเรามีระบบคณะกรรมการทั่วประเทศตั้งแต่ระดับส่วนกลางไปจนถึงจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน นี่คือความพยายามโดยย่อว่านอกจากเรามีแนวทางนโยบายยุทธศาสตร์ที่สำคัญก็คือ  อาวุธสำคัญคือการจัดตั้ง  และอาวุธที่สำคัญอีกอันหนึ่งซึ่งคนเลียนแบบเราไม่ได้ก็คือ “โรงเรียนการเมือง นปช.”

เพราะฉะนั้น โรงเรียนการเมือง นปช. และการจัดตั้งองค์กรต่าง ๆ ของ นปช. ประสานกับการประชุม  การจัดชุมนุม  การจัดเคลื่อนพล  จึงเป็นกิจกรรมในระยะเวลายาวนานของ นปช. และบัดนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าที่ นปช. ยังมีความแข็งแกร่ง ยังมีพี่น้องให้ความร่วมมือในการทำงานทุกครั้ง ทุกขั้นตอน  ก็เพราะเราสามัคคีกันที่จะต่อสู้ด้วยกันและรู้ว่าศึกของเรานั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก  ไม่ว่าฝั่งปฏิปักษ์ของเราจะใหญ่ขนาดไหน  เราก็เชื่อมั่นว่าพลังประชาชนที่ยกระดับทั้งคุณภาพและปริมาณจะไม่มีวันพ่ายแพ้เป็นอันขาด

ดังนั้นที่จะฝากเอาไว้กับพี่น้องนั่นก็คือภายใต้สถานการณ์นี้ที่เราเคยพูดถึงยุทธศาสตร์ 2 ขา  ต่อไปนี้เราจำเป็นที่จะต้องทำเป็นยุทธศาสตร์ 2 ขาประชาชน  เพราะว่าเวทีรัฐสภาถูกปิดแล้วและเชื่อว่ามันจะปิดเรายาวนาน  แต่ที่มันปิดไม่ได้ก็คือเวทีของประชาชน  เราจะทำ 2 ขา ทั้งเสื้อแดงและประชาชนส่วนอื่น

ขาที่หนึ่งคือมวลชนเสื้อแดงเป็นหลัก  ขาที่สองคือผู้รักประชาธิปไตยทั่วไปกว้างขวางหมดทั้งประเทศ  เพราะฉะนั้นจะขยายผู้รักประชาธิปไตยที่เดี๋ยวนี้มีคนไปเลือกตั้ง 20 ล้านคน นั่นคือสัญลักษณ์ของผู้รักประชาธิปไตย ณ บัดนี้เราไม่ได้มี 10 กว่าล้านคนแล้ว  เรามี 20 กว่าล้านคนค่ะ และต้องให้บทบาทเขาเต็มที่  เขาก็เป็นอีกขาหนึ่ง  เขาก็ทำได้โดยอิสระในฐานะผู้รักประชาธิปไตย

ยุทธศาสตร์ที่สองก็คือสร้างที่มั่นของประชาชนทางการเมืองให้เข้มแข็งในทุกที่ที่เราทำได้ ในประเทศ ในชนบท ในเมือง ในโซเชียลมีเดีย และในต่างประเทศ ต้องสร้างความเข้มแข็งให้เป็นที่มั่นทางการเมืองของเราให้ได้  ความเข้มแข็งของเราอยู่ที่ประชาชน  ไม่ได้อยู่ที่ความโหดร้ายแล้วมีทหารหนุนหลังแต่ประการใด  เพราะทหารสองแสนคนหนุนหลังมันสู้ประชาชน 20 ล้านคนหนุนหลังไม่ได้หรอกค่ะ  เพราะฉะนั้นเวลาต่อไปนี้จึงเป็นเวลาของประชาชนโดยแท้  และเมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน นปช.แดงทั้งแผ่นดินมีแต่พัฒนาสูงขึ้น ๆ ทั้งคุณภาพและปริมาณ  นี่ต้องเป็นความภาคภูมิใจของประชาชนไทยที่พี่น้องทั้งหลายมีส่วนร่วมกับแกนนำของเราทั้งหมดบนเวทีนี้ค่ะ  และเราจะยิ่งใหญ่กว่านี้ถ้าเราใจกว้างและยอมรับผู้คนที่หลากหลายกว่านี้ ไม่คับแคบ ไม่โหดร้าย ไม่ป่าเถื่อน ไม่หยาบคาย เหมือนไอ้กบฏ กปปส. 

ผ่านเวลามาถึงปัจจุบัน  เมื่อปลายปีที่แล้วเราได้มีการประชุมกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อ.ธิดา ได้อยู่กับพี่น้องตั้งแต่ปลายปี 53 ในฐานะรักษาการจนกระทั่งเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วก็มารับตำแหน่งในฐานะตำแหน่งประธาน นปช. จริง  ขอขอบพระคุณพี่น้องคนเสื้อแดง  ขอบพระคุณแกนนำทั้งหมดที่ให้ความร่วมมือกับ อ.ธิดา มาโดยตลอด  นปช. สามัคคีกันอุทิศชีวิตและร่วมมือกัน  ทั้งหมดนี้มันเป็นผลงานร่วมกันของเราทั้งประเทศและแกนนำทุกระดับตั้งแต่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จนถึงส่วนกลาง  เราเป็นองค์กรที่มีเสรีภาพ  พี่น้องบางคนก็ตั้งตัวเป็นแดงอิสระหรือกลุ่มต่าง ๆ นั่นไม่ใช่ปัญหา  ใหม่ ๆ หลายคนไม่เข้าใจ  โจมตี  แต่มาจนถึงบัดนี้ทุกคนจะเข้าใจแล้วว่า นปช.และคนเสื้อแดงนั้นเราถือเป็นเสรีชน มีเสรีภาพที่จะตั้งกลุ่มกระทำการ  เพียงแต่เรามียุทธศาสตร์ใหญ่ร่วมกัน  และด้วยความห่วงใยเราก็จะส่งสาสน์ถึงกัน

แต่เราเป็นองค์กรประชาธิปไตย  ไม่ใช่องค์กรผูกขาด  ไม่ใช่องค์กรเผด็จการ  นี่คือ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน  ดังนั้นในวาระที่ อ.ธิดา ครบวาระของการปฏิบัติภาระหน้าที่ซึ่งได้ผ่านที่ประชุมเมื่อปลายปีที่แล้ว  และเรามองว่าองค์กรของเรานั้นจะต้องมีการปรับตามความเหมาะสมของสถานการณ์  ดังนั้นเราจึงมีข้อสรุปกันเอาไว้ว่า  ในปีนี้ถ้าหากว่าแกนนำที่ได้รับปากและได้รับความเชื่อถือสามารถพร้อมจะทำงานในสถานการณ์ใหม่ซึ่งเป็นสถานการณ์สำคัญของหัวเลี้ยวหัวต่อประวัติศาสตร์ประชาชนครั้งใหม่  ถ้าพร้อมก็ควรจะรับหน้าที่ต่อจาก อ.ธิดา

ณ บัดนี้ จตุพร  พรหมพันธุ์ ได้แจ้งว่าเขาหายป่วย  พร้อมแล้วที่จะรับหน้าที่เป็นประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน  เพราะฉะนั้นให้พี่น้องโห่ร้องต้อนรับประธาน นปช. คนใหม่ในสถานการณ์สู้รบด้วยค่ะ (เสียงพี่น้องโห่ร้องต้อนรับด้วยความยินดี ในขณะนี้ อ.ธิดา สวมเสื้อให้คุณจตุพร และคุณณัฐวุฒิ)  ให้พี่น้องสองขุนพลรับผิดชอบในการนำพา นปช.แดงทั้งแผ่นดินในสถานการณ์ใหม่  ในสถานการณ์สู้รบ  จตุพร  ประธานนปช. และนี่คือขุนพลน้อง ณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ......

ขอเรียกร้องต่อพี่น้องคนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายว่า  ในห้วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์ไทยว่า  ระบอบประชาธิปไตยที่ได้เดินมากว่า 80 ปี จะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคสำคัญและเดินหน้าต่อไปได้หรือเปล่า  องค์กร นปช. แดงทั้งแผ่นดินเป็นองค์กรประชาชนต่อสู้ที่มีขนาดใหญ่และมีความมุ่งมั่นสูงสุด  ขอเรียกร้องต่อพี่น้องแกนนำทุกระดับ มวลชนทุกท่าน และแกนนำส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคทั้งหมด  ขอให้ให้การต้อนรับ  ให้ความร่วมมือ  ให้การนำของประธาน นปช. คนใหม่ คือ จตุพร  พรหมพันธุ์  ไปได้ด้วยดี ราบรื่น ประสบความสำเร็จทุกประการ 

และสำหรับภารกิจในหัวเลี้ยวหัวต่อครั้งนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่  ทีมของ นปช.ส่วนกลางทั้งหมดและพี่น้องของเราในทุกระดับ  ขอความสามัคคี  ขอความมุ่งมั่นและปณิธานร่วมกันว่าเราจะไม่ยอมให้ประเทศนี้หมดสิ้นระบอบประชาธิปไตย  ไม่ยอมให้ใครทำลายเด็ดขาด  ขอบพระคุณมากค่ะ